svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เส้นทาง'อนันต์' หมายเรียกฟอกเงิน

19 พฤษภาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมสอบสวนคดีพิเศษ สอบสวนดำเนินคดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ความเสียหายประมาณ 13,000 ล้านบาท นำไปสู่การสอบสวนขยายผล ถึงขบวนการฉ้อโกงประชาชน ข้อหารับของโจร และความผิดฐานฟอกเงิน ล่าสุด ออกหมายเรียก นายอนันต์ อัศวโภคิณ เจ้าสัวอสังหาริมทรัพย์ มาชี้แจงข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จากการจายที่ดิน และมีบริษัทนักการเมือง มาเกี่ยวข้องด้วย ไปติดตามกับคุณสุทธิรักษ์ อุฒมนตรีสืบเนื่องจากคดีพิเศษที่ 99/2558 กรณีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กับพวก ร่วมกันนำเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงประชาชน ออกจากสหกรณ์ ด้วยการสั่งจ่ายเช็คสหกรณ์ฯ นับเป็นพยานหลักฐานเพียงพอให้ดำเนินคดีในความผิดฐาน "สมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน" ดีเอสไอ สรุปสำนวนพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้อง ศุภชัย กับพวก ต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ

จากการสอบสวน พบอีกว่า นายศุภชัย ได้สั่งจ่ายเช็คหลายฉบับ จำนวน 275 ล้านบาท แล้วนำไป TAKE OVER ของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 
ประกอบธุรกิจรับโอนสินทรัพย์ต่าง ๆ จากบริษัท โมเดอร์น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือชื่อเดิมบริษัท เอ็ม-โฮมเอสพีวี 1 จำกัด เพื่อนำไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ

ศุภชัย ส่งคนของตนเองไปเป็นกรรมการบริษัท ให้บริหารจัดการอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่ง ศุภชัย ควบคุมดูแล
ส่วนหนึ่งนำไปซื้อที่ดินในนามบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำนวน 3 แปลง ในจำนวนนั้น มีที่ดินโฉนดเลขที่ 31344 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวา อยู่ทิศตะวันตกวัดพระธรรมกาย ตรงกับสภาธรรมกายสากล

ต่อมา 21 ธันวาคม 2554 คณะกรรมการบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 มีมติให้นำที่ดินตามโฉนดเลขที่ 31344 ไปขายเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ 

ผู้ซื้อคือ อนันต์ อัศวโภคิน ในราคาไร่ละ 2 ล้านบาท เป็นเงิน 93 ล้านบาทเศษ ทำสัญญาซื้อขาย ณ สำนักงานที่ดินอำเภอคลองหลวง วันที่ 23 ธันวาคม 2554 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เชื่อว่า นายอนันต์ ไม่ได้ใช้เงินตัวเองซื้อ เข้าข่ายช่วยเหลือปกปิด เปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน และเข้าข่ายสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน

มูลค่าที่ดิน 93 ล้านบาท นับว่าต่ำกว่าราคาประเมินถึง 3 เท่า ราคาประเมินที่ดินในขณะนั้นตารางวาละ 15,000 บาท ราคาประเมิน 281 ล้านบาท ทำให้บริษัท ได้รับความเสียหาย และไม่ปรากฏหลักฐานการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 แต่อย่างใด 

ตามข้อมูลของดีเอสไอ ทำให้เราทราบว่า เมื่อปี 2558 นายอนันต์ ขายที่ดินแปลงนี้ให้บริษัท ๆ หนึ่ง ของนักการเมือง "ป" พรรคการเมืองเก่าแก่ เพียงเอ่ยชื่อคนจะรู้จักทั้งประเทศ ขายในราคา 492 ล้านบาทเศษ นายอนันต์ นำเงิน 303 ล้านบาท บริจาคให้กับมูลนิธิคุณยายจันทร์ ขนนกยูง ซึ่งมีธัมมชโย เป็นองค์อุปถัมภ์ ส่วนกำไร 108 ล้านบาท ถือไว้ในบัญชีตัวเอง
ส่วนเงิน 70-80 ล้านบาท จ่ายให้ค่านายหน้า รวมกับค่าภาษีที่ดิน

ดีเอสไอ ได้หลักฐานสำคัญ อีกชิ้น คือ 'ศุภชัย' ทำหนังสือขึ้นมา ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2554 วันเดียวกับไปทำสัญญาซื้อขายที่ดินให้อนันต์ แสดงเจตนาถวายที่ดินโฉนดเลขที่ 31344 ให้กับธัมมชโย โดยศุภชัย จะเป็นผู้ซื้อที่ดินของบริษัท และถวายให้ธัมมชโย โดยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในนาม อนันต์ อัศวโภคิน ซึ่งธัมมชโย มอบหมายให้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน โดยมีแต่ลายมือชื่อของผู้อื่นในเอกสาร แต่ศุภชัย ไม่ได้ลงชื่อ และไม่มีการดำเนินการตามหนังสือฉบับดังกล่าว แต่เปลี่ยนมาดำเนินการผ่านการขายให้นายอนันต์ แทน

ดีเอสไอ เห็นว่า ตามพยานหลักฐาน สมควรแยกการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 10/2560 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการ มีมติร่วมกันให้เรียกตัวนายอนันต์ อัศวโภคิน มารับทราบข้อกล่าวหา "สมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน"

logoline