เครือข่ายยาเสพติดที่สำคัญที่สุดคือเครือข่าย ของ น.ส.ทิพย์อาภา รักษาแสง เนื่องจากมีสามี คือ พ.ต.ท.ธนกฤต นิตสพันธ์ ตำแหน่งสารวัตรตำรวจทางหลวง เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จากการสอบสวน พ.ต.ท.ธนกฤต ยังคงให้การปฏิเสธ แต่ทางผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด บอกว่ามั่นใจว่าข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่สามารถทำให้ติดคุกได้แน่นอน ไม่เช่นนั้นศาลคงไม่อนุมัติหมายจับ
โดย เมื่อตอนที่เจ้าหน้าที่จับ น.ส.ทิพย์อาภา ได้โทรศัพท์แจ้งสามี คือ พ.ต.ท.ธนกฤต จนมีการขนของกลางและเงินจำนวน 2 ล้านบาทไปยัง จ.เพชรบุรี และยังช่วยเหลือเรื่องเปลี่ยนและดัดแปลงรถยนต์สำหรับลำเลียงยาเสพติด ทำให้นางสาวทิพย์อาภารอดจากการจับกุมมาได้นานกว่า 10 ปี
หลังจากนี้จะต้องสอบสวนขยายผลต่อไปว่า จะมีนายตำรวจนายอื่นที่อยู่ในขบวนการของ พ.ต.ท.ธนกฤต อีกหรือไม่ เพราะคนๆเดียวคงทำไม่ได้ โดยขณะนี้ทาง สตช.ได้มีคำสั่งให้พ.ต.ท.ธนกฤติ ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
ทั้งนี้ ขบวนการของ น.ส.ทิพย์อาภา ถือเป็นกลุ่มค้ายาเสพติดรายใหญ่และเชื่อมโยงกับเครือข่ายของนายไซซะนะ แก้วพิมพา ราชายาเสพติดชาวลาวที่ถูกจับกุมไปแล้ว โดยพฤติการณ์กลุ่มนี้จะมีญาติพ่อแม่พี่น้องถือทรัพย์สินแทน ป้องกันเจ้าหน้าที่สืบจับยึดทรัพย์ ส่วนลักษณะการลำเลียงยาเสพติดนั้น จะนำรถยนต์ที่ถูกขโมยไปดัดแปลงใต้ท้องรถให้ว่างไว้สำหรับลำเลียงยาเสพติด ซึ่งรถยนต์คันหนึ่งสามารถขนกัญชาได้กว่า 200 กิโลกรัม และมีการศัลยกรรมใบหน้าใหม่เพื่อไม่ให้คนจำได้อีกด้วย