เจ้าหน้าที่สวิตฯบุกจับ 6 บอร์ดฟีฟ่า

กระทรวงยุติธรรมของสวิตเซอร์แลนด์ แถลงว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามคำร้องขอของสหรัฐอเมริกา ที่ใช้เวลากว่า 3 ปี ทำการสืบสวนเรื่องการคอร์รัปชั่นในองค์กรลูกหนังหมายเลข 1 ของโลก ในเรื่องต่างๆ อาทิ เรื่องสิทธิประโยชน์ทางการตลาด และการถ่ายทอดสด รวมถึงการลงคะแนนเลือกเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 ที่รัสเซีย และ กาตาร์ ได้รับเลือกให้จัดการแข่งขัน ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 90 มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีการทำธุรกรรมผ่านบัญชีธนาคารของสหรัฐ ในวงเงินมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ โดยผู้ต้องสงสัยทั้งหมดจะถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อดำเนินคดีต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงจับกุมนั้น เป็น 6 จาก 14 คน ที่เป็นผู้ต้องสงสัยที่จะถูกฟ้องร้องในคดีดังกล่าว ซึ่งมีการเปิดเผยว่า ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่ง ได้บุกเข้าจับทั้ง 6 คน จากห้องพัก โดยไม่มีการขัดขืน มีการนำตัวออกไปจากโรงแรมโดยไม่มีการใส่กุญแจมือป้องกันการหลบหนีแต่อย่างใด
ขณะที่สำนักข่าวบีบีซี ของอังกฤษ ได้ออกมาระบุว่า 4 จาก 6 คนที่ถูกจับกุม ประกอบด้วย เจฟฟรีย์ เว็บ รองประธานฟีฟ่า ซึ่งเป็นประธานสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาเหนือ กลาง และแคริเบียน หรือ คอนคาเคฟ จากหมู่เกาะเคย์แมน, เอดูอาร์โด ลี ประธานสหพันธ์ฟุตบอลคอสตาริกา ที่เป็นบอร์ดบริหารฟีฟ่า,  ยูเจนิโอ ฟิกัวเรโด ประธานสหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ หรือ คอนเมโบล ชาวอุรุกวัย และ โฆเซ มาเรีย มาริน บอร์ดฟีฟ่าชาวบราซิล
อย่างไรก็ตาม มีบางสำนักข่าวได้รายงานออกมาว่า ในผู้จับกุมครั้งนี้มีผู้บริหารวงการฟุตบอลไทยรวมอยู่ด้วย ซึ่งเรื่องดังกล่าว "บังยี"วรวีร์  มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอล ที่เดินทางไปประชุมครั้งนี้พร้อมกับ พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม เลขาธิการสมาคมลูกหนังไทย ได้เปิดเผยว่า  ตนเองไม่รู้เรื่องเหตุการนี้ และคนที่โดนจับอยู่ในโซนอเมริกากับคอนคาเคฟ ขอย้ำว่าถ้าใครออกข่าวสร้างความเสียหายให้กับตนเอง ก็จะทำการฟ้องร้องให้ถึงที่สุด โดยตอนนี้ได้รวบรวมหลักฐานทั้งเว็บไซต์ต่างประเทศ และในประเทศ ที่ออกข่าวพาดพิงถึงตน โดยเตรียมให้ทนายฟ้องกลับทันที
สำหรับการเลือกตั้งประธานฟีฟ่า ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ มีผู้ลงสมัครชิงตำแหน่ง 2 คน คือ เซปป์ แบลตเตอร์ เจ้าของแชมป์เก่าชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่รับตำแหน่งนี้ต่อจาก โจฮัว ฮาเวลานซ์ ชาวบราซิล มาตั้งแต่ปี 1998 และ เจ้าชายอาลี บิน อัล-ฮุสเซน จากจอร์แดน