ทีมข่าวเนชั่นทีวี ลงพื้นที่สำรวจหลังภาพถ่ายดาวเทียมจีสด้า เผยให้เห็นภาพ ก้อนน้ำทางภาคเหนือ ไหลเข้าทุ่งและแก้มลิง บริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่ากำลังไหลเข้าสู่จังหวัดนนทบุรี
นี่คือภาพในขณะที่น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยากำลังเอ่อขึ้นมาท่วมชุมชน ชาวบ้านบอกว่าภายในคืนนี้น้ำจะสูงถึง บันใดขั้นที่ 2 ของตัวบ้าน หรือประมาณ 50 ซม.
น้ำที่เริ่มเอ่อท่วมก็ทำให้การใช้ชีวิตเริ่มมีความยากลำบากมากขึ้น อย่างเช่นชายชราวัย 70 ปีคนนี้ที่ชาวบ้านต้องช่วยกันเข็นรถเข็นฝ่าสายน้ำหลังกลับมาจากโรงพยาบาล แต่สวนทางกับเด็กๆ ที่สนุกสนาน พากันเล่นน้ำอยู่ที่หน้ามัสยิด
สำหรับพื้นที่ตรงนี้ชาวบ้านบอกว่าเป็นพื้นที่ตรงกลาง ระหว่างน้ำเหนือ กับน้ำทะเลหนุนมาเจอกันและจะยกตัวสูงขึ้น ท่วมชุมเป็นประจำ แต่ปริมาณน้ำที่ท่วมครั้งนี้ น้อยกว่า ปี 2554
แต่ถ้ามาดูปริมาณฝนสะสมในประเทศไทยจนถึงขณะนี้ ปริมาณน้ำฝนสะสมของปีนี้ เกือบจะเท่ากับปี 2554 น้อยกว่าเพียงแค่ร้อยละ 1 เท่านั้น
ความเสียหายที่ลดลงในปีนี้ ต้องยอมรับว่านอกจากการบริหารจัดน้ำให้สัมพันธ์กับกิจกรรมการผลิตพืชเกษตร เพื่อเว้นที่ตัดยอดน้ำเข้าทุ่งแล้ว การระดมสร้างแก้มลิงที่จะมีมากขึ้นในภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ช่วยได้มา แต่ชาวบ้านในพื้นที่แก้มลิงก็เริ่มถามหาค่าชดเชยที่มากกว่าพื้นที่น้ำท่วมตรงอื่น
กรมชลประทานยืนยันว่า ถ้าจากนี้ไม่มีฝนตกหนัก การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จะลงไปได้ภายใน 3 วันนับจากนี้ เพราะภาคเหนือเริ่มหนาว และไม่ฝนแล้ว แต่การระบายน้ำในพื้นที่ท่วมขังยังต้องใช้เวลาถึงปลายเดือนหน้า และสำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำมากอาจต้องระบายน้ำนานถึงกลางเดือนธันวาคมจึงจะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้