svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

คุมพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ฝากขังศาลก่อนส่งเข้าเรือนจำ

26 พฤษภาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจคุมตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ต้องหาหลบหนีหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี ในคดีฆ่าผู้อื่น ลักทรัพย์ และค้ามนุษย์ ฝากขังศาลก่อนส่งตัวเข้าเรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรี วางกำลังรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทาง

วันที่ 26 พฤษภาคม 2560 เวลา 11.00 น. ร.ต.อ.คมสันต์ พุ่มเงิน รองสารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรี พร้อมกำลังควบคุมตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ต้องหาหลบหนีหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี ในคดีฆ่าผู้อื่น ลักทรัพย์ และค้ามนุษย์ โทษสูงสุดประหารชีวิต จากสภ.เมือง มาที่ศาลจังหวัดเพชรบุรีเพื่อขออนุญาติฝากขัง จากนั้นพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากเรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรีนำตัวขึ้นรถผู้ต้องขังของเรือนจำที่จอดรออยู่บริเวณทางขึ้นศาลเดินทางต่อไปยังเรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรี โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามรถผู้ต้องขังไปและวางกำลังรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทาง
สำหรับคดีของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เกิดขึ้นปลายปี 2555 เมื่อนายสว่าง หรือค่อม นุ่มจุ้ย เจ้าของไร่สับปะรดใน จ.เพชรบุรี และ น.ส.วิมล นุ่มจุ้ย บุตรสาว เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี ว่าพบรถกระบะโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีเทา ของนายสามารถ กับ น.ส.อรสา บุตรชายและสะใภ้ ที่หายไปทั้งคนทั้งรถนานกว่า 3 ปี ซุกซ่อนอยู่ที่บ้านร้างของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่ จ.นนทบุรี โดยผู้ให้เบาะแสการพบรถคือนายสุเทพ เลาหะวัฒนะ พี่ชายของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และเชื่อว่านายสามารถและนางสาวอรสาถูกฆ่าเสียชีวิตแล้วทั้งสองคน
ต่อมามีการสืบสวนขยายผลไปค้นบ้านพักในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่บ้านท่ามะริด ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และคลินิกของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ในกรุงเทพฯ พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ทั้งยังพบแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองในไร่ซึ่งถูกทารุณและแรงงานชาวพม่าหลายคนทํางานโดยมิได้รับค่าตอบแทน ต่อมามีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ 3 โครงที่ไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ก่อนจะมีการตรวจพิสูจน์ทางดีเอ็นเอ พบว่าเป็นโครงกระดูกของนายอิต้าแรงงานเมียนมาที่ถูก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ สังหารและบุตรชายทั้งสองมีส่วนรู้เห็น เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2547 เนื่องจากไม่พอใจที่นายอิต้าสนิทสนมกับ น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ภรรยาคนที่ 3 ของตน
พนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี ได้สั่งฟ้อง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ 3 คดี 1.คดีลักทรัพย์และรับของโจร ศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี 2.คดีรับคนงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตเข้าทำงาน,ให้ที่พักพิงซ่อนเร้นแก่คนงานต่างด้าวเพื่อให้พ้นการจับกุม และข้อหาค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จำคุก 8 ปี 33 เดือน และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายรวม 1 ล้านบาท ส่วนคดีที่ 3. ร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ฯลฯ ศาลพิพากษาประหารชีวิต               พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และนายเอกผู้เป็นบุตรชายคนโตข้อหาร่วมกันฆ่าแรงงานชาวเมียนมาโดยไตร่ตรองไว้ก่อนร่วมกันปิดบังซ่อนเร้นศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายและการกระทำใดใดแก่ศพก่อนมีการชันสูตรพลิกศพเพื่ออำพรางคดี ส่วนนายอัครบุตรชายอีกคนที่ร่วมก่อคดีขณะเกิดเหตุอายุ 19 ปีเศษ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่งพิพากษาลงโทษจำคุก25 ปี 3 เดือน ระหว่างพิจารณาคดี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้หลบหนีระหว่างช่วงประกันตัวชั้นอุทธรณ์ในคดีค้ามนุษย์ และไม่มาฟังคำพิพากษาคดีฆ่าผู้อื่น จนศาลต้องอ่านคำพิพากษาลับหลัง 
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2559 พ.ต.ต.ธรรมวุฒิ วิเชียรมณีโชติ ร.ต.ต.ยวดศักดิ์ ไทยสงฆ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.บัญญัติ เพียรสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี หัวหน้าชุดปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศเมียนมา (พม่า) สามารถจับกุม พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขตเมืองมะละแหม่ง ประเทศเมียนมา ใกล้เขตแนวตะเข็บชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมธนบัตรไทยและธนบัตรเมียร์มา มูลค่ารวมหลายล้านบาท จนกระทั่งถูกจับกุมในที่สุด

logoline