svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เร่งช่วยเหลือพ่อป่วยโรคเรื้อน ถูกสังคมรังเกียจ หอบลูกชายไปนอน"ป่าช้า"

27 มีนาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชัยภูมิเร่งจัดชุดช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวพ่อ 58 ป่วยโรคเรื้อนถูกสังคมรังเกียจพาลูกเมียอยู่ป่าช้าแล้ว วอนสังคมอย่าซ้ำเติมครอบครัวผู้ป่วยอีกเลย แพทย์สาธารณสุขอำเภอยันครอบครัวผู้ป่วยรายนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์มาต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 จนปัจจุบันใกล้หายขาดแล้วขอสังคมอย่าไปซ้ำเติมลงที่เด็กอีกเลย หลังบุตรชายวัย 8 ขวบ ถูกเพื่อนล้อพ่อติดโรคร้ายต้องวิ่งหนีออกจากโรงเรียนกลับมาร้องไห้ให้พ่อแม่ฟังบ่อยครั้งในปัจจุบันต้องขาดเรียนบ่อยครั้ง!!!!

ความคืบหน้ากรณี ครอบครัวพ่อเฒ่าวัย 58 ปีที่ป่วยเป็นโรคเรื้อนถูกสังคมคนในหมู่บ้านรังเกียจ และ ต้องมีชีวิตอยู่อย่างสุดสลดและมีความเป็นอยู่อย่างน่าสงสาร ที่ต้องพาครอบครัวตัวเอง 3 คนพ่อแม่ลูกชายที่ปัจจุบันวัยเพียง 8 ขวบ อีกคน หนีออกจากหมู่บ้านมาอาศัยในป่าช้าท้ายหมู่บ้านวังหิน หมู่ 4 ต.บ้านเต่า อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิและในปัจจุบันต้องพาน้องวัย 8 ขวบออกมาอาศัยนอนกระท่อมบ้านไม้มุงสังกะสีครึ่งปูนชั้นเดียวสภาพเก่าๆทรุดโทรมไม่มิดชิดหลังคาก็มีรูรั่วยามฝนตกก็มีน้ำหยดลงมาเต็มบ้าน ไม่มีน้ำประปาใช้อาศัยน้ำฝนดื่มกินอาบน้ำในบ่อหลังป่าช้าที่มีสีขุ่นและมีกลิ่นใช้อาบน้ำซักผ้าล้างจาน อยู่ในป่าช้าเก่าของหมู่บ้านใกล้กับโรงเรียนบ้านวังหิน หมู่ 4 ต.บ้านเต่า อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ มานานกว่า 5 ปีแล้ว จนหนักเข้าทุกวันนี้ยังเป็นตราบาปให้กับน้องวัย 8 ขวบ เวลาไปโรงเรียนยังถูดเพื่อนล้อว่าพ่อเป็นโรคร้ายต้องวิ่งหนีออกจากโรงเรียนกลับมาบ้านนั่งร้องไห้ให้พ่อแม่ฟังบ่อยครั้งหลังมีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนไปแล้วนั้น ล่าสุดช่วงเวลา 10.00 น.วันที่ 27 มี.ค.60 ด้านนายภาสกร ไชยเศษฐ นายแพทยสาธารณสุขจ.ชัยภูมิ (สสจ.ชัยภูมิ )ได้ประสานงานไปยังนายกณิฐษ์อนันเต่า ผู้อำนวยการการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ่านเต่า(ผอ.รพ.สต.บ้านเต่า) และสาธารณสุขอำเภอ พร้อมเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลบาทแท่น ตัวแทน จนท.จาก สำนักงาน พมจ.ชัยภูมิ ลงพื้นที่ชี้แจ้งต่อสื่อมวลชน ถึงสาเหตุโรคที่เกิดขึ้นกลับผู้ป่วยรายนี้ว่า ในขณะนี้ว่าทางเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขในพื้นและอสม.ได้ลงพื้นที่ติดตามผู้ป่วยตั้งเริ่มเป็นโรคเรื้อนมาต่อเนื่องแล้วมาตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2558 โดยได้ประสานงานไปยังโรงพยาบาลสิริธร จ.ขอนแก่น จนถึงปัจจุบัน และพยายามเข้าให้ความช่วยเหลือมาตลอดซึ่งผู้ป่วยโรคเรื้อนพ่อเฒ่าวัย 58 ปี รายนี้ มาตั้งแต่เดือนปี 2558 มีอาการดีขึ้นเกือบหายได้แล้ว 99 เปอร์เซ็นต์ทางแพทย์โรงบาลสิริธร จ.ขอนแก่น จึงได้ให้ผู้ป่วยหยุดกินยา เพื่อให้หันมาใช้ยาทาแทน และกลับมาอยู่บ้านได้โดยสั่งให้ผู้ป่วยไม่ให้ออกมาถูกแดดและให้อยู่แต่ในบ้านไปก่อน จนกว่าจะหายขาด เพื่อรอผลตรวจอีกครั้งในเดือน สิงหาคม ปี 2560 นี้ออกมายืนยันอีกครั้ง

เร่งช่วยเหลือพ่อป่วยโรคเรื้อน
ถูกสังคมรังเกียจ
หอบลูกชายไปนอน"ป่าช้า"


ส่วนทางด้านเรื่องครอบครัว ขณะนี้เกิดปัญหาเรื่องหนี้สิน เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ไปกู้ยืมเงินจากนายทุนที่จ้างไปตัดอ้อย มาใช้ก่อนโดยทุกปีจะต้องไปตัดอ้อยใช้หนี้ แต่เมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่าน ผู้ป่วยพ่อเฒ่ารายนี้ไม่สามารถออกไปตัดอ้อยใช้หนี้ได้ จนมีหนีสินผูกพันมาจนปัจจุบัน และทางภรรยาก็ไม่มีรายได้ที่แน่นอน จนเกิดปัญหาเรื่องการเงินในครอบครัวในการที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายออกไปรับยามาทาผิวหนังแทนยากินที่สถานีอนามัยใกล้บ้านมาต่อเนื่องจนมีอาการกำเริบขึ้นมาอีก จนเกิดทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นเกิดความรังเกียจ และส่งผลไปกระทบต่อบุตรชายวัย 8 ขวบที่เรียนหนังสืออยู่ในโรงเรียนใกล้ชุมชนอีกด้วยครั้งนี้ ซึ่งเรื่องนี้ทางหน่วยงานสาธารณสุขจ.ชัยภูมิ มีการเข้าดำเนินการดูแลผู้ป่วยโรคนี้เป็นอย่างดีแล้ว และไม่อยากให้สังคมชาวบ้านที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ลีผู้ป่วยรายนี้ก็มีขั้นตอนการช่วยรักษาจนใกล้หายขาดได้มาแล้วต่อเนื่อง และไม่เป็นอันตรายติดต่อใครได้แล้วจึงอยากให้สังคมเข้าใจผู้ป่วยและครอบครัวที่มีเด็กเข้ามาเกี่ยวข้องที่ไม่ใช่โรคร้ายรุนแรงน่ารังเกียจในปัจจุบันที่มีทางรักษาหายได้ ขอให้ชาวบ้านชุมชนสังคมใกล้เคียงช่วยกันเป็นกำลังใจให้ครอบครัวนี้ด้วย และด้วยความกลัวที่สังคมจะรังเกียจก็พยายามหนีออกจากคนในชุมชนมาอาศัยสร้างบ้านกระท่อมเก่าๆในป่าช้าท้ายหมู่บ้าน ที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจมากพอแล้วซึ่งด้านนายกณิฎฐ์อนันต์เต่า ผอ.รพ.สต.บ้านเต่า เปิดเผยว่าขณะนี้พบว่าในพื้นที่ตำบลบ้านเต่ามีผู้ป่วยโรคเรื้อนจำนวน 3 รายและทุกรายได้เข้าสู่ระบบการรักษาทั้งหมดแล้ว และในเดือนสิงหาคม นี้จะมีการเข้าตรวจเช็คร่างกายอีกครั้งที่ผู้ป่วยทุกรายใกล้หายขาดจากโรคนี้และไม่สามารถไปติดต่อใครได้เด็ดขาด ขอให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องสบายใจได้

เร่งช่วยเหลือพ่อป่วยโรคเรื้อน
ถูกสังคมรังเกียจ
หอบลูกชายไปนอน"ป่าช้า"

รวมทั้งจากนี้ไปเพื่อความสบายใจทุกฝ่าย ในด้านสาธารณสุขอำเภอและโรงบาลบ้านแท่น ได้ประงานสานงานทางโรงพยาบาลสิรินธรขอนแก่น จัดชุดมาช่วยเฝ้าติดตามผู้ป่วยทุกเดือนรวมทั้งคนในครอบครัวคือภรรยาและบุตรชายก็ได้กินยาป้องกันและติดตามผลตลอดในช่วงที่ผ่านมาซึ่งภรรยาและลูกไม่มีการพบเชื้อโรคเรื้อนในร่างกายแต่อย่างใดเช่นกัน ขอให้คนอย่าไปซ้ำเติมครอบครัวนี้อีกเลยด้วยขณะที่ด้านนายวิทวัส สิมมา นายกเทศมนตรีเทศบาลบ้านเต่า เปิดเผยว่าสำหรับผู้ป่วยที่มีฐานะครอบครัวช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในตำบลบ้านเต่า ทางเทศบาลและกำนันก็ได้ประสานงานกับสาธารณสุขอำเภอและการโรงพยาบาลเข้ามาดูแลผู้ป่วยตลอดโดยต่อเนื่องให้มากขึ้นต่อไปในครั้งนี้ด้วย รวมทั้งในส่วนของเด็กชายบี(นามสมมุติ) วัย 8 ขวบ ที่ต้องมามีผลกระทบด้านจิตใจครั้งนี้ไปด้วยนั้น ทางเทศบาลตำบลก็จะเร่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือสร้างความเข้าใจกับคนในชุมชน และเพื่อนเด็กนักเรียนในหมู่บ้านให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นอย่างใกล้ชิดมากขึ้นจากนี้ไปด้วยสำหรับ หากมีผู้ใจบุญทานใดที่อยากจะช่วยเหลือครอบครัวผู้ป่วยโรคเรื้อนรายนี้เพิ่มเติมได้ที่ โดยสามารถโอนเงินเพื่อช่วยเหลือได้ที่ชื่อบัญชีนางถาวร นามชาลี ธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านแท่น หมายเลขบัญชี 298-0-45012-0 ได้เพิ่มเติมในครั้งนี้ได้อีกทาง

logoline