"แกะรอยทีมฆ่า สาวอบต." กองปราบเตรียมขยายผล คดีเก่ายิงนายกอบต.บึงทองหลางปี 54 เชื่อมโยงกันหรือไม่

หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ติดตามคดีอยา่งต่อเนื่อง รวมถึงทางกองบังคับการปราบปราม ได้ส่งกำลังลงคลี่คลายคดีร่วมกัยทางชุดสืบสวนภาค 1 ชุดสืบสวนภ.จ.ปทุมธานี และชุดสืบสวน สภ.คลองห้า จนกระทั่งสามารถสืบทราบว่า สำหรับทีมสังหาร น.ส.วีรญาภา ประกอบไปด้วย นายทวีวงศ์ หรือ "นายกหมึก" ทองยืน อดีตนายกอบต.พานทอง จ.ชลบุรี , นาย โจ ,นายชาย หรือฉายาในวงการ อาจารย์ , นายใหญ่ โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. ได้ทำการจับกุมสังหารได้แล้วทั้งหมด 3 คน คือ 1.นายทวีวงศ์ 2.นายจีระพันธ์ 3.นายสมชาย ขาดเพียง นาธนชัย มือปืนคนเดียวเท่านั้น ซึ่งขณะนี้มีรายงานข่าวว่าได้หลบหนีไป อ.แม่สอด จ.ตาก คาดว่าอาจกำลังหาทางหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน       โดยหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมทั้งสอบปากคำพยานแวดล้อม ซึ่งได้มีการตั้งปมสังหารไว้หลายประเด็น แต่ให้นำ้หนักในปมชู้สาว เนื่องจากคำให้การของมารดาของผู้เสียชีวิตได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าทะเลาะกับอดีตสามีก็คือ นายทวีวงศ์ หรือ "นายกหมึก" ถึงขั้นถูกอดีตสามีใช้อาวุธปืนจ่อหัวมาแล้ว
 จากนั้นทีมสืบสวนได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในบริเวณนั้นสามารถจับภาพนาทีสังหารไว้ได้ ซึ่งพบว่ามีชาย 2 คน ลงมาจากรถคันที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะขึ้นรถกระบะมุ่งออกจากจุดเกิดเหตุไป ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการติดตามตัวคนร้าย ต่อมาตำรวจกองปราบเริ่มติดตามตัว นายทวีวงศ์ หรือ "นายกหมึก" เพื่อนำตัวมาปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องนี้หรือไม่ แต่ไม่เจอตัว ชุดสืบสวนจึงได้ออกหาเบาะแส จนทราบข้อมูลว่า นายกหมึก ได้หลบหนีไปกบดานที่กระท่อมกลางไร่ หมู่บ้านตะเคียนงาม ต.บ้านเก่า อ.เมือ จ.กาญจนบุรี
 ต่อมาช่วงเช้ามืด วันที่ 17 มี.ค. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราบได้นำกำลังเข้าไปจับกุมตัวนายกหมึก ที่กบดานอยู่ในไร่ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เดินเท้าฝ่าความมืดเข้าไป และทำการปิดล้อมกระท่อมที่นายกหมึกซ่อนตัวอยู่ ก่อนที่จะเข้าไปจับกุมได้ในขณะที่นายกหมึกยังหลับอยู่ พร้อมนำตัวมาสอบสวนที่กองบัญชาตำรวจภูธรภาค1 ส่วน นายโจ และนายชาย ถูกตำรวจกองปราบจับได้ที่บ้านพักใน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
      จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนหน้านี้ นายทวีวงศ์ หรือ "นายกหมึก"ได้จดทะเบียนสมรสกับ น.ส.วีรญาภา หรือเปิ้ล โดยมีการซื้อบ้าน 1 หลัง รถยนต์ 2 คัน อีกทั้งยังให้เงินใช้จ่ายมาตลอด ต่อมานายกหมึก หมดวาระจากการเป็นนายกก็เริ่มระหองระแหงเนื่องจากเงินทองมีให้ใช้จ่ายไม่เหมือนก่อน จนกระทั้งได้มีการหย่าร้างกัน แต่หลังจากการหย่าร้างก็ยังมีการพูดคุยนัดเจอกัน พร้อมส่งเงินให้บ้าง ต่อมาทราบข่าวว่าทาง น.ส.วีรญาภา หรือเปิ้ล จะไปแต่งงานใหม่ จึงเกิดความหึงหวง โดยในวันก่อนเกิดเหตุนายกหมึก ได้วางแผนให้ทางน.ส.วีรญาภา หรือเปิ้ล ออกมาพบเจอในจุดเกิดเหตุริมถนนวังน้อย มุ่งหน้าธัญบุรี ม.1 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยอ้างว่ารถแบตเตอรี่หมดให้ออกมาช่วย ต่อมา น.ส.วีรญาภา หรือเปิ้ล ได้มาถึง นายกหมึกกับนายใหญ่มือปืน ได้เข้าไปในรถ โดยนายกหมึกนั่งที่เบาะหน้า ส่วนนายใหญ่นั่งเบาะหลัง จากนั้นก็มีการพูดคุยตกลงบางอย่าง ก่อนที่นายกหมึกจะเปิดประตูรถออกมา แล้วนายใหญ่จึงได้ชักปืนออกมายิงใส่ผู้ตายสองนัดจนเสียชีวิตคาที่ อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนยังทราบอีกว่าหลังจากมือปืนได้สังหารน.ส.วีรญาภา หรือเปิ้ล ทางนายกหมึกจะฆ่าตัวตายตามไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ทำตามที่ตั้งใจ
       ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุนายกหมึกกับนายใหญ่ ได้ขึ้นรถกระบะหลบหนีไปมุ่งหน้าจ.พระนครศรีอยุธยา แต่ในระหว่างทางนายใหญ่ได้แยกลงไปขึ้นอีกขั้นหนึ่งที่มาจอดคอย ส่วนนายกหมึกได้ไปเปลี่ยนรถที่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนที่จะหลบหนีไปกบดานที่ จ.กาญจนบุรี ก่อนที่จะมาถูกจับกุม       จากการสอบสวนยังพบว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุทางนายกหมึก ได้ติดต่อไปยัง นายโจ ซึ่งเป็นลูกน้องเก่า ให้หาทีมมือปืนมารับงาน โดยนายโจ ได้ติดต่อไปยัง นายชาย เป็นผู้มารับงาน ในราคา 200,000 บาท โดยนายชาย ได้ว่าจ้างงานให้กับนายใหญ่ มาเป็นมือปืนในการสังหารครั้งนี้ โดยจ่ายเงินล่วงหน้าไป 30,000 บาท ส่วนที่เหลือจะจ่ายให้หลังเสร็จงาน
       นอกจากนี้ พล.ต.ต.สุทิน ยังได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2.บก.ป. เร่งดำเนินการตรวจสอบคดีการเสียชีวิตของ นายสุภาพ เขียวชอุ่ม อายุ 35 ปี นายกอบต.บึงทองหลาง และเป็นหัวคะแนนให้กับผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย อดีตสามีของน.ส.วีรญาภา หรือเปิ้ล หลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนไรเฟิลยิงเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2554 เพื่อดูความเชื่อมโยงว่าทั้งสองคดีมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันหรือไม่