คนจนไร้ที่ยืน ชาวบ้าน 3 ชุมชนรุกพื้นที่บ่อขยะ

ปัญหาเรื่องปากท้อง เป็นปัญหาที่มีให้เห็นอยู่ทุกยุคทุกสมัยในสังคมไทย ไม่ว่าสังคมไทยจะรายล้อมไปด้วยวัตถุอันสื่อความนัยถึงผู้มีอารยะ และไม่ว่าจะเปลี่ยนผ่านรัฐบาลกี่ยุคสมัย แต่ปัญหาเรื่องปากท้องของคนในสังคมกลับยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม... เช่นเดียวกับ ปัญหาที่ดิน ที่ยังคงดำเนินไปแบบสวนทางกับความเจริญรุดหน้าของเทคโนโลยีและการพัฒนาประเทศ กระแสคนจนไร้ที่ดินในปัจจุบันทวีความรุนแรงแทบเกินจะรั้ง คนจนเมืองที่ล่มสลายจากภาคชนบทยังคงคราคร่ำทั่วกรุงเทพฯ และตามหัวเมืองใหญ่ เช่นเดียวกับที่นี่ กับปัญหาบุกรุกที่ดินบ่อขยะ เพื่อทำมาหากิน
เป็นเวลากว่า 60 ปี แล้วที่ป้าสำรวย ชาวบ้านในชุมชนสามบาท ได้บุกรุกพื้นที่ของโรงขยะ อ่อนนุช เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย และเป็นที่ทำกิน จนสามารถเลี้ยงครอบครัวและลูกอีก 7 คน ป้าบอกว่าตัวเองนั้นเติบโตมากับขยะ เก็บขยะขายมาตั้งแต่จำความได้ จึงตัดสินใจมาอยู่ในพื้นที่ของโรงขยะแห่งนี้
เช่นเดียวกับนิตยา ชาวบ้านชุมชนใต้ร่มไทร ที่เธอบอกว่า อยู่ในพื้นที่แห่งนี้มาตั้งแต่ยังเป็นป่า เข้ามาปลูกบ้านเป็นเพิงตั้งแต่รุ่นแม่ เธอเกิดที่นี้ โตที่นี่ ครั้นจะให้ออกไปหาที่อยู่ใหม่นั้นคงไม่มีที่ไป..
ด้านรองปลัดกรุงเทพมหานคร กิตตินันท์ ขาวสุทธิ์ ซึ่งเป็นประธานการประชุมคณะทำงานดำเนินการรื้อย้ายผู้บุกรุกพื้นที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช บอกว่าได้มีการประชุมถึงสถานการณ์ผู้บุกรุกพื้นที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช เพื่อลักลอบปลูกสร้างอาคารที่พักอาศัยและร้านค้ารับซื้อของเก่า และพบว่ามีการเจาะผนังกำแพงรั้วศูนย์ฯ เพื่อทำเป็นทางเข้าและทางออก ทำให้เกิดปัญหาในการดูแลทรัพย์สินและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานที่ราชการ จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เจรจาและชี้แจงผู้บุกรุกเพื่อขอความร่วมมือในการรื้อย้าย รวมถึงสำรวจข้อมูลผู้บุกรุกที่แท้จริงทั้งหมดให้ถูกต้องและชัดเจน เพื่อจัดทำข้อมูลวิเคราะห์ปัญหา กำหนดแนวทางการแก้ไขเเละดำเนินการรื้อย้ายต่อไป
การลงพื้นที่สำรวจความเห็นชาวบ้านของทีมข่าวเนชั่นทีวี พบว่า ชาวบ้านทุกคนต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่าบุกรุกพื้นที่ดินเพียงเพราะเป็นที่พักอาศัย และใช้ชีวิตเลี้ยงปากท้องเท่านั้น หากกรุงเทพมหานครจะไล่รื้อ ก็คงต้องยอม แต่ขอเพียงแค่จัดหาพื้นที่ทำกิน ให้ใหม่ ก็เพียงพอแล้ว