สาวใหญ่ลูกครึ่ง ตามหาแม่หลังพลัดพราก 50 ปี

ที่ร้านอาหารตามสั่งไม่มีเลขที่ ภายในซอยหัชนานิเวศ หลังโรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายเชิดชัย ปัถมยุตานนท์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา พร้อมด้วยนายวัย นุ้ยสง่า อุปนายกสมาคมวิทยุสมัครเล่น จังหวัดภูเก็ต ได้นำนาง Kimberley Ferreivg อายุ 54 ปี สาวใหญ่ลูกครึ่งไทย - อังกฤษ พร้อมนาย Carlos Alberto สามี เดินทางมาตามหานางยกเลี่ยน จันทร์แก้ว อายุ 79 ปี มารดาชาวไทยที่พลัดพรากกันมากว่า 50 ปี พร้อมด้วย เอกสารใบสูติบัตร แสดงหลักฐานการเกิด ระบุชื่อ ด.ญ.ตุ๊กตา จันทร์แก้ว เกิดเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2503 บ้านเลขที่ 139 ถ.ราษฎร์บำรุง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมหนังสือเดินทางที่พ่อแม่บุญธรรมเก็บรักษาไว้


หลังจากนางยกเลี่ยนมารดาและผู้เป็นพ่อแท้ๆ ชาวออสเตรเลีย ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของเพื่อนชาวอังกฤษ หลังคลอดนาง Kimberley Ferreivg ได้เพียง 6 เดือน เนื่องจากฐานะทางครอบครัวไม่ค่อยดี โดยเมื่อนาง Kimberley Ferreivg ได้พบหน้ามารดาเป็นครั้งแรกก็ถึงกับดีใจน้ำตาไหล พร้อมโผเข้ากอดนางยกเลี่ยนผู้เป็นมารดา ด้วยความดีใจ ขณะที่นางยกเลี่ยนเองก็ดีใจน้ำตาซึม เพราะไม่คิดว่า จะได้เจอลูกสาวที่พลัดพลากกันมากว่า 54 ปี


นาง Kimberley ได้เล่าให้มารดาฟังว่า ขณะนี้ตนเองได้ทำงานเป็นพนักงานขับรถบัส บริษัทรถโดยสารแห่งหนึ่งในเมือง บอสตัน ประเทศอังกฤษ และก่อนหน้าที่จะมาตามหาแม่ในครั้งนี้ ได้มีโอกาศเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมนำเอกสารหลักฐาน ซึ่งเป็นใบสูติบัตร แสดงหลักฐานการเกิด ไปให้นายทะเบียนท้องถิ่นตรวจสอบ ก่อนได้รับคำแนะนำว่า ให้เดินทางไปที่อำเภอตามที่ระบุ จึงเดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อำเภอก็ได้ประสานไปยังท้องถิ่นตามที่อยู่ในสูติบัตร


และจากการลงพื้นที่ของผู้ใหญ่บ้านก็ทราบว่า มารดาได้ย้ายมาที่ จ.ภูเก็ต ก่อนที่ผู้ใหญ่บ้านจะช่วยตามหาจนทราบที่อยู่ จึงเดินทางมาพบในวันนี้ จึงรู้สึกดีใจที่แม่ผู้ให้กำเนิดยังมีชีวิตอยู่ และหากเป็นไปได้ก็ต้องการจะพาแม่ไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษด้วย


นาง Kimberley กล่าวต่อว่า ตนเองได้ไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมที่ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะไปที่ย้ายไปทำงานที่ประเทศอเมริกา และไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษจนถึงปัจจุบัน และมาทราบข่าวว่า ผู้เป็นพ่อแท้ๆ ชาวออสเตรเลียได้เสียชีวิต ไปประมาณปี 1999


ด้านนางยกเลี่ยน จันทร์แก้ว ผู้เป็นมารดา กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่สูกสาวของตน ซึ่งไม่คิดว่าชาตินี้ จะได้เจอกันอีก จะติดตามหาจนได้พบกัน ที่ผ่านมาถึงแม้ว่า จะพลัดพลากกันกว่า 50 ปี แล้วก็ตาม ตนเองก็ยังรู้สึกคิดถึงเสมอ วันนี้ได้พบกันจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิต


ซึ่งนางยกเลี่ยน ได้เล่าต่อว่า นาง Kimberley เป็นลูกของตนเองกับผู้จัดการเรือขุดแร่ชาวออสเตรเลีย ขณะที่ตัวเองทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในบ้านของเขาใน อ.ตะกั่วป่า แต่สามีคนดังกล่าว มีภรรยาอยู่แล้ว จึงให้พี่ชายรับเป็นพ่อแทน และ เหตุผลที่ต้องยกลูกสาวให้กับพ่อแม่บุญธรรมไปเนื่องจาก ฐานะทางครอบครัวขณะนั้นมีฐานะไม่ดี จึงต้องตัดสินใจให้ลูกไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรม ซึ่งเป็นวิศวกรขุดแร่ชาวอังกฤษที่ตนและสามีไว้ใจ ส่วนตนเองก็ได้มีครอบครัวใหม่ในภายหลัง ตอนนี้หากลูกสาวขอให้ไปอยู่ด้วยที่อังกฤษนั้น คงไม่สะดวก เพราะทางนี้ก็มีลูกๆและครอบครัวที่ต้องดูแลกัน แต่ถ้าให้ไปเที่ยว หรือไปเยี่ยมเป็นพักๆ นั้นตนเองก็ยินดี


ด้านนายเชิดชาย ปัทมยุตานนท์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้กล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานจากเทศบาลและอำเภอตะกั่วป่าให้ช่วยตามหานางยกเลี่ยน ตามที่อยู่แจ้งในใบสูติบัตร ก็ได้ไปยังบ้านเลขที่ตามสูติบัตร จนพบญาติของนางยกเลี่ยน ที่บ้านบางม่วง อ.ตะกั่วป่า และทราบว่านางยกเลี่ยน ย้ายมาอยู่ที่ภูเก็ต โดยมีลูกชายเป็นไต๋เรือ ก็เลยประสานงานต่อกันมาเป็นทอด ๆ จนกระทั่งได้มาพบกันในครั้งนี้ ก็ต้องขอขอบคุณผู้ที่ให้ความร่วมมือในการตามหา และขอแสดงความยินดีกับครอบครัวจันทร์แก้วด้วย