สหรัฐฯ อพยพครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะที่ฟลอริดา-จอร์เจีย เตรียมรับมือ "เออร์มา"

สหรัฐฯ เผชิญการอพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อนายริค สก็อตต์ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา เรียกร้องให้ประชาชน 5.6 ล้านคน ในพื้นที่ชายฝั่งทางตอน อพยพออกจากที่อยู่อาศัยภายในเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ รวมถึงสั่งปิดหน่วยงานราชการ, สถาบันการศึกษา ตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันจันทร์ เพื่อใช้สถานที่รองรับผู้ประสบภัย ซึ่งศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติเตือนว่า เฮอร์ริเคนเออร์มาที่อ่อนกำลังลงเป็นระดับ 4 จะทวีความแรงลมขึ้นไปเป็นระดับ 5 ตอนที่พัดขึ้่นฝั่งรัฐฟลอริดา และอิทธิพลของพายุยังจะทำให้เกิดสตรอมเซิร์จ สูง 12 ฟุตอีกด้วย

นับตั้งแต่มีคำสั่งอพยพ ถนนทุกสายที่มุ่งขึ้นเหนือ ต้องประสบปัญหาจราจรคับคั่ง ทำให้ ไมอามี-เดด เคาน์ตี้ ที่มีประชากรมากกว่า 2.7 ล้านคน กลายเป็นเมืองร้างเช่นเดียวกับชายหาดไมอามี ทางการประเมินความเสียหาย ในกรณีที่ถูกเฮอร์ริเคนถล่มไว้ที่ 125,000 ล้านดอลล่าร์ หลังจากทำให้อาคารกว่า 90 % ที่บาร์บูดาและเซนต์ มาร์ติน พังราบ และมีผู้เสียชีวิต 27 คน

กองทัพเรือได้สั่งการให้เรือบรรทุกเครื่องบิน USS อับราฮัม ลินคอล์น สนับสนุนโดยเรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก เรือยกพลขึ้นบกและเรือรบอื่นๆ ที่มีศักยภาพด้านทีมแพทย์เฮลิคอปเตอร์และหน่วยนาวิกโยธิน เตรียมพร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ ส่วนฐานทัพอากาศได้เร่งอพยพเครื่องบินและบุคลากรออกจากฐาน ทั้งในรัฐฟลอริดาและจอร์เจีย แต่ยังคงไว้ซึ่งภารกิจสนับสนุนฝ่ายพลเรือน
แผนผังพยากรณ์อากาศ ชี้ว่า อิทธิพลของพายุจะทำให้เกิดสตรอม เซิร์จ ในระดับอันตรายตั้งแต่เช้าวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนจะพัดขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดา และพัดเข้าสู่รัฐจอร์เจีย ส่วนศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติ เตือนว่า ไม่มีที่ไหนปลอดภัยในฟลอริดา คีส์, เซาท์ ฟลอริดาและเล้ค โอคีโชบี และมีโอกาสเผชิญสตรอม เซิร์จ สูง 6-12 ฟุต

บริษัทให้บริการไฟฟ้า "ฟลอริดา พาวเวอร์แอนด์ไลท์ คาดว่าจะมีประชาชนราว 4.1 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับ