svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

สหรัฐฯ ยันไม่มีเหตุก่อการร้ายในประเทศ

30 สิงหาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษได้ออกมาประกาศยกระดับเตือนภัยการก่อการร้ายเมื่อวานนี้ให้อยู่ในระดับรุนแรง ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าจะยังไม่ยกระดับตามอังกฤษเนื่องจากยังไม่มีแนวโน้มการก่อการร้ายในประเทศในเร็วๆ นี้

จอช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ ระบุว่ายังคงไม่มีหลักฐานใดใดที่บ่งชี้ได้ว่า กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามหรือกลุ่มไอเอสกำลังวางแผนก่อการร้ายโจมตีสหรัฐฯ และยังไม่คิดว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้องยกระดับการเตือนภัยก่อการร้ายในขณะนี้ อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะยังคงมียุทธศาสตร์ไม่ให้กลุ่มก่อการร้ายสามารถวางแผนโจมตีสหรัฐฯได้โดยง่าย โดยจะจับตามองชาวต่างชาติที่เดินทางไปร่วมรบกับกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรียและเดินทางกลับเข้ามายังประเทศบ้านเกิดเป็นพิเศษ
นอกจากนี้เข้ายังโต้กลับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อคำแถลงของประธานาธิบดีโอบามาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ระบุยังไม่มียุทธศาสตร์ที่จะโจมตีในซีเรียว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาวิธีทางการทหารหลากหลายแบบอยู่ ไม่ใช่ไม่มียุทธศาสตร์ใดใดเลย
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษได้ออกมาแถลงเมื่อวานนี้เช่นกัน ภายหลังจากที่รัฐบาลอังกฤษได้ยกระดับการเตือนภัยการก่อการร้ายจากระดับสำคัญเป็นรุนแรง ซึ่งเป็นระดับที่อยู่ในลำดับที่ 2 โดยกล่าวว่า เขาจะเสนอกฎหมายใหม่ต่อสภาเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามของกลุ่มก่อการร้ายที่มีอันตรายมากกว่าที่เคยผ่านมา ซึ่งกฎหมายนี้จะช่วยให้รัฐบาลสามารถยึดพาสปอร์ตของผู้ต้องสงสัยได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีข้อมูลใดใดระบุว่าอาจเกิดการโจมตีในอังกฤษเร็วๆ นี้
ส่วนสถานการณ์การสู้รบของกลุ่มไอเอสโดยเฉพาะบริเวณที่ราบสูงโกลันของประเทศซีเรียที่นักรบญีฮัดได้ได้จับทหารรักษาสันติภาพของสหประชาชาติชาวฟิจิเป็นตัวประกันทั้งหมด 44 นาย และทหารฟิลิปปินส์ 81 นายตกอยู่ในวงล้อมนั้น พวกเขายังคงอยู่ในการควบคุมของกลุ่มไอเอส ขณะที่ทหารชาวฟิลิปปินส์กำลังพยายามต่อสู้ฝ่าวงล้อมออกไปให้ได้
เหตุการณ์นี้ทำให้นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติออกมาแถลงประนามเมื่อวานนี้ และกล่าวว่า สหประชาชาติจะทำทุกวิถีทางเพื่อปลอดปล่อยทหารที่ถูกจับตัวไว้
เหตุการณ์สงครามกลางเมืองในประเทศซีเรียส่งผลให้มีผู้อพยพลี้ภัยออกจากประเทศมาแล้วมากกว่า 3 ล้านคน ตามรายงานของสหประชาชาติ และอีกกว่า 6 ล้านคนต้องระหกระเหิน ไร้ที่อยู่อาศัยภายในประเทศ ทำให้ประเทศที่มีอาณาเขตติดกันอย่างตุรกี เลบานอน และจอร์แดน ต้องกลายเป็นพื้นที่รองรับผู้ลี้ภัยเหล่านี้ซึ่งไม่ได้ลงทะเบียนเป็นผู้อพยพอย่างถูกกฎหมาย

logoline