สหรัฐอเมริกา เตรียมทดสอบวัคซีนอีโบลากับมนุษย์

เจ้าหน้าที่ของสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของสหรัฐ หรือ NIH ประกาศผลการทดสอบ ความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโรคอีโบลา ที่พัฒนาโดยสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ หรือ NIAID กับบริษัทแกล็กโซ่สมิธไคลน์ และเตรียมจะทดสอบกับอาสาสมัครวัยผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี 20 คน เพื่อดูว่าวัคซีนมีความปลอดภัยและมีการตอบสนองอย่างเพียงพอในระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขาหรือไม่ หลังจากใช้ได้ผลดีในการทดลองกับลิง
ดร.แอนโธนี่ ฟอซี ผู้อำนวยการ NIAID ระบุว่า จากการทดสอบพบว่า ลิงทุกตัวที่ถูกฉีดเชื้อไวรัสอีโบลาตายหมด ส่วนลิงที่ได้รับการฉีดวัคซีน รอดหมดทุกตัว ซึ่งผลที่ออกมาสวยงามและชัดเจนมาก ส่วนการทดสอบกับมนุษย์ จะมีขึ้นที่สำนักงานของ NIH ในเมืองเบธเทสด้ารัฐแมรี่แลนด์ ในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ในเดือนกันยายน NIH และทีมผู้เชี่ยวชาญของอังกฤษจะทำการทดสอบวัคซีนกับอาสาสมัครในสหราชอาณาจักร, แกมเบียและมาลี ขณะเดียวกันอาจมีการทดสอบที่ไนจีเรียในอนาคตด้วย
นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์เผยแพร่ผลการถอดรหัสพันธุกรรมหรือจีโนมของไวรัสอีโบลาเมื่อวาน โดยรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร ไซแอนซ์ อ้างคำเปิดเผยของ สตีเฟ่น กีร์ นักวิจัยของห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ซาเบตี้ ที่ บรอด อินสติทิวท์ และมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดว่า เราพบลักษณะทางพันธุกรรมที่ทำให้การระบาดของอีโบลาครั้งนี้แตกต่างจากในอดีต แต่ยังไม่รู้ว่าความแตกต่างนี้ส่งผลให้การระบาดครั้งนี้รุนแรงกว่าในอดีตหรือไม่ และคาดหวังว่าการแบ่งปันข้อมูลครั้งนี้จะช่วยให้วงการวิทยาศาสตร์สามารถทำความเข้าใจการระบาดครั้งนี้และหาทางป้องกันได้รวดเร็วขึ้น
ขณะเดียวกันวารสารระบุด้วยว่า ขณะนี้มีสัญญาณอันตรายที่เห็นได้ชัดจากการที่ผู้ที่มีส่วนรวบรวมและวิเคราะห์ตัวอย่างไวรัสอีโบลา 5 คนจากเกือบ 60 คนเสียชีวิตด้วยโรคอีโบลา
ขณะที่องค์การอนามัยโลกปรับตัวเลขล่าสุดเมื่อวานว่า มีผู้เสียชีวิตด้วยอีโบลา 1,552 คนจากจำนวนผู้ติดเชื้อ 3,000 คนใน 4 ประเทศได้แก่ กินี เซียร์ราลีโอน ไลบีเรียและไนจีเรีย แต่คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงอาจสูงเกินกว่า 20,000 คน
บรูซ อาย์วาร์ด ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ประกาศแผนแผนยับยั้งการระบาดของอีโบลา โดยเตือนให้ประเทศที่มีการแพร่ระบาดคัดกรองผู้โดยสารที่จะออกนอกประเทศให้เข้มงวด เพราะวิตกว่าเชื้ออาจลุกลามไปยังอีก 10 ประเทศได้ พร้อมกับย้ำให้สายการบินต่างๆยกเลิกการระงับเที่ยวบินไปยังประเทศที่มีการระบาดเพราะการระงับเที่ยวบินส่งผลให้เกิดการขาดแคลนอาหารและสิ่งของจำเป็นในประเทศเหล่านั้นและเป็นอุปสรรคสำคัญในการยับยั้งการแพร่ระบาด 
นอกจากนี้ยังระบุว่าต้องการงบ 489 ล้านดอลลาร์ในช่วง 9 เดือนข้างหน้า และต้องการบุคลากรต่างชาติ 750 คนและบุคลากรในแต่ละชาติของแอฟริกาตะวันตกอีก 12,000 คนเพื่อต่อสู้กับอีโบลา
ขณะเดียวกันรัฐมนตรีสาธารณสุขของชาติแอฟริกาตะวันตก ที่ประชุมร่วมกันในประเทศกาน่าเมื่อวาน ตกลงร่วมกันว่าจะยกเลิกการระงับเที่ยวบินไปยังประเทศที่มีการระบาดของอีโบลาแล้ว ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก