ชาติตะวันตก-เอเชียเฝ้าระวังอีโบลา

หน่วยงานอาสาสมัครสันติภาพ หรือ พีซคอร์ของสหรัฐเริ่มอพยพอาสาสมัคร 340 คนออกจากแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ กินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน แล้ว หลังอาสาสมัคร2 คนอยู่ในข่ายเฝ้าสังเกตอาการเนื่องจากสัมผัสกับผู้ติดเชื้อคนหนึ่งที่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะนี้ทั้งสองคนยังไม่แสดงอาการป่วยใดๆ และจะเดินทางกลับสหรัฐทันทีที่ได้รับการยืนยันว่าปลอดเชื้อ
นอกจากนี้กลุ่มองค์กรกุศลชาวคริสต์ ซามาริทัน'ส เพิร์ส ได้สั่งอพยพอาสาสมัครที่ไม่มีกิจจำเป็นออกจากไลบีเรียชั่้วคราวแล้วเช่นกัน โดยให้เหตุผลด้านเหตุการณ์ไม่สงบและปัญหาความมั่นคง
ขณะเดียวกันเวบไซต์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือ CDC ได้โพสข้อความระบุว่า สหรัฐยังมีความเสี่ยงน้อยมากที่จะติดเชื้ออีโบลา แต่ได้แนะนำไปยังลูกเรือของสายการบินต่าง ๆ รวมถึงพนักงานทำความสะอาดและผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าให้ใส่ใจความปลอดภัยและระมัดระวังตัวในการรับมือกับผู้โดยสารที่ติดเชื้อ โดยเมื่อพบผู้โดยสารที่มีไข้ ตัวเหลือง หรือมีเลือดออก และเดินทางมาจากบริเวณที่เสี่ยงต่ออีโบล่า ให้แยกผู้ป่วยออกจากคนอื่น ๆ และให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัย นอกจกานี้ CDC ยังอธิบายถึงอาการของผู้ติดเชื้อด้วย
ขณะเดียวกันแหล่งข่าวในสหภาพยุโรปยืนยันว่า อียูมีวิธีการตรวจสอบติดตามและจำกัดการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว และชาติสมาชิกทั้งหมด 28 ชาติล้วนมีโรงพยาบาลและระบบการรักษาพยาบาลที่ทันสมัยและพร้อมให้การรักษาผู้ป่วยส่วนกรณีที่มีข่าวพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อในสเปน แต่ตรวจสอบแล้วไม่พบการติดเชื้อ
นอกจากนี้ฮ่องกงประกาศมาตรการกักโรคสำหรับผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีโบลา หลังมีข่าวว่า ผู้หญิงคนหนึ่งเดินทางมาจากแอฟริกาโดยมีไข้และอาเจียน แต่ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ
ขณะเดียวกันนายเรย์มอนด์ เบนจามิน เลขาธิการองค์การการบินพลเรือนสากล หรือ ICAO แถลงว่า จำเป็นต้องหารือกับองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เพื่อดูว่า ควรจะออกมาตรการใดมาบังคับใช้บ้าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยอาจนำไปสู่การจำกัดเที่ยวบิน
ก่อนหน้านี้สายการบิน เอ-สกาย ของของกลุ่มชาติแอฟริกาตะวันตกที่มีสำนักงานในประเทศโตโก ได้ประกาศระงับเที่ยวบินขาเข้าและออกจากเมืองหลวงของไลบีเรียและเซียร์ราลีโอนแล้วหลังผู้โดยสารชาวอเมริกันเชื้อสายไลบีเรีย วัย 40 ปี ที่เดินทางจากไลบีเรียไปยังไนจีเรีย ผ่านโตโก