Amazon เขย่าวงการค้าปลีก...อีกแล้ว

ในปัจจุบันคุณสามารถซื้ออะไรก็ได้ใน Amazon ซึ่งเป็นบริษัทที่มียอดค้าปลีกออนไลน์สูงถึง 43% ของยอดค้าปลีกออนไลน์ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา

ที่ผ่านมา ตลาดค้าปลีกของ Amazon ไม่ได้มีส่วนสำคัญในการถือครองตลาดขายของแบบ grocery store ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 800,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี

อย่างไรก็ตาม Amazon ได้มีการตกลงซื้อ Whole Foods ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกออนไลน์ ที่มีตลาดขายของแบบ grocery ขนาดเล็ก (สัดส่วนประมาณ 1.2%) ในขณะที่ Walmart มีสัดส่วน 14.2% และ Kroger มีสัดส่วน 7.2%ซึ่งในขณะนี้เห็นได้ชัดว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่เริ่มมีความกังวลจากราคาหุ้นของกลุ่มตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดลดลงประมาณ 6% เมื่อมีการประกาศข้อตกลงดังกล่าวระหว่าง Amazon และ Whole Foods

ข้อตกลงที่ดีสำหรับ Amazon ในการเข้าซื้อกิจการ ก็คือการสูญเสียเงินสำหรับบริษัทใหญ่เหล่านี้ แต่ Amazon สามารถได้รับเงินมากกว่า 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในตลาดทุน เมื่อประกาศข้อตกลงดังกล่าว

กล่าวคือ Amazon มีแผนที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อกิจการ Whole Foods มากกว่า 13,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

แต่อย่างไรก็ดี ข้อตกลงดังกล่าวอาจจะไม่ดีเสมอไปในระยะยาว ซึ่ง Amazon ได้มีคำแนะนำสำหรับธุรกิจร้านขายของ grocery ว่า มีแนวโน้มที่จะกระทบต่อผู้เล่นรายเล็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนทำให้บริษัทร้าน grocery ขนาดเล็กจำนวนมากต้องออกจากธุรกิจไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

เราอาจคาดหวังว่าผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงนี้ ตัวอย่างเช่น สมาชิกจำนวน 80 ล้านรายของ Amazon Prime ที่อาจพบกับความสะดวกอย่างมากในการสั่งอาหารมารับประทานในขณะที่ชมภาพยนตร์ไปด้วย

ซึ่งหมายความว่า การมีบริษัทที่สามารถเสนอทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่คุณได้ หมายความว่าบริษัทนั้นมีแนวโน้มที่จะรู้จักตัวตนของคุณมากกว่าสามีหรือภรรยาของคุณเสียอีก

"Amazon มีแนวโน้มที่จะสัมผัสคุณได้ในทุกๆด้าน ตั้งแต่ที่คุณตื่นขึ้นมาจนถึงเวลาที่คุณเข้านอนในเวลากลางคืน"

อำนาจของ Amazon ที่เพิ่มมากขึ้น ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงโดยรวมที่อาจเกิดขึ้นในประเทศต่างๆได้

ซึ่งวิสัยทัศน์ของ Amazon ก็คือ ให้ประชากรในประเทศส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาบริษัทในการจัดหาสิ่งที่พวกเขาต้องการเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต

ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่ร้ายแรงหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นกับบริษัท เช่น ความล้มเหลวของซอฟต์แวร์ที่ทำให้คนจำนวนมากไม่สามารถซื้อสินค้าพื้นฐาน เช่น อาหารหรือกระดาษชำระได้ เป็นต้น
ซึ่งเราจะต้องระลึกว่าสิ่งที่ Amazon กำลังพยายามทำ กับ Whole Foods ก็คือการเปลี่ยนจากการเป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์ ไปเป็นร้านค้าปลีกอาหารแบบมีหน้าร้าน ซึ่งการดำเนินงานในธุรกิจใหม่นี้ มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ มากมาย ที่ Amazon ยังไม่มีความสามารถมากพอ

อาจเป็นไปได้ว่า Amazon จะสามารถเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ได้ และในที่สุดตลาด grocery อาจจะถูกครอบครองโดย Amazon ในที่สุด
Reference : http://edition.cnn.com/2017/06/17/opinions/amazons-waterloo-spicer/index.htm
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณรองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคมwww.เศรษฐพงค์.comLINE id : @march4G