ศิริลักษณ์ ลีสม สาวแกร่งกับโลกที่ทุกอย่างเป็นไปได้ เจ้าแม่ธุรกิจออนไลน์

จุดเปลี่ยน
จุดพลิกผันของเธอเกิดขึ้นเมื่อเธอก้าวลงมาขายของออนไลน์ด้วยเงินลงทุนเพียง 20 บาท และสามารถสร้างรายได้แบบสบายๆ ให้กับเธอ"ชีวิตตอนนั้นพังพินาจรอบด้าน เพราะเราสูญเสียศรัทธาและความเชื่อในตัวเอง หลังจากกลับมาจากเมืองนอกเรามีเงินเหลือติดธนาคารอยู่เพียงนิดหน่อย มองหาช่องทางและโอกาสแต่ก็ยังไม่ค้นพบสิ่งที่ใช่สำหรับเรา จนกระทั่งเหลือเงินติดธนาคารเพียง 170 บาท เราจึงต้องคิดแล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไป จะมีชีวิตอย่างไรต่อไป จึงคิดแบรนด์สินค้าของตัวเองออกมา ด้วยเงินลงทุนเพียง 20 บาท และก็ต่อยอดสร้างรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท"เธอเล่าว่า เธอพยายามศึกษารูปแบบการขายของแบรนด์ใหญ่ การจัดวางภาพถ่ายให้น่าสนใจ การสร้างคอนเทนต์ให้น่าติดตาม การจัดหาตัวแทนจำหน่าย กลยุทธการตลาดออนไลน์ต่างๆ จนเริ่มมีคนมาติดต่อให้ทำคอนเทนต์ ดูแลเพจ โดยอาศัยประสบการณ์ ก๊อปปี้ไรท์เตอร์ในสมัยสิบกว่าปีก่อน แถมยังเป็นนักคิดนักเขียน ทำให้เธอสามารถต่อยอดงานสร้างสื่อเพื่อส่งเสริมการตลาดออนไลน์อย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพ จึงกลายเป็นคิดนักเขียนคอนเทนต์ สร้างสื่อออนไลน์แบบเต็มตัว

พร้อมกับยอมรับว่า สื่อออนไลน์มีบทบาทอย่างมหาศาลในปัจจุบันโดยเฉพาะส่วนของการตลาด ซึ่งเทรนด์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป การใช้สื่อฯ สำหรับโฆษณาเหมือนเรากำลังตีลังกากลับหัว ถ้าเราสังเกตุให้ดีเวลาที่เราเดินทางสาธารณะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถโดยสาร กินอาหารในร้าน หรือเดินห้าง ผู้คนมองหน้ากันน้อยลง แต่กลับจ้องจอสี่เหลี่ยมมากขึ้น อนาคตเรามองว่าห้างจะไร้คนจับจ่ายสินค้า ร้านค้าส่วนใหญ่จะหันมาอยู่บนโลกออนไลน์ อีกสองสามปีสื่อโทรทัศน์วิทยุจะตาย สื่อออนไลน์จะเฟื้องฟู นี่คือยุคของเขาและเราต้องปรับตามให้ทัน ปฏิเสธมันไม่ได้ วิ่งหนีไม่ได้เช่นกัน

โดยเธอเชื่อว่า ธุรกิจยุคปัจจุบันไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านก็ประสบความสำเร็จได้ หากรู้วิธีคิด วิธีจัดการ และข้อดีอีกข้อของธุรกิจออนไลน์นั้นก็คือ ทำได้แม้ไม่มีเงินทุน ด้วยการเล็งเห็นความสำคัญข้อนี้ เธอจึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาศักยภาพของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ด้วยการสร้างรายการโทรทัศน์ออนไลน์ "เผยไต๋ออนไลน์ บิสเนส" และ "โรงเรียนชาวนา วิชาโซเซียล" เพื่อให้ชาวนาไทยให้มีความรู้ด้านสื่อออนไลน์ และสามารถนำเป็นช่องทางการขายได้อีกช่องทาง ถ่ายทอดผ่าน Facebook/Youtube : Dmedia TV"การคิดคอนเซปท์ช่องโทรทัศน์ออนไลน์ของเราเกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นหลัก เพราะทุกคนต่างติดสมาร์ทโฟน ดูคลิป ดูรายการผ่านสื่อออนไลน์ บวกกับสังคมปัจจุบันคนฝันเป็นเจ้าของธุรกิจ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทำมาสักระยะก็ถึงทางตัน การนำเอานักธุรกิจมาเล่าเรื่องราวเคล็ดลับต่างๆ เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมการตลาดให้กันและกันเป็นอย่างมาก รวมกับเกษตรกรไทยก็ประสบปัญหาราคาข้าว ทั้งๆ ที่ปัจจุบันพวกเขามีสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ต การเชื่อมต่อพวกเขากับคนทั้งโลกจะสามารถสร้างช่องทางการขายข้าวและผลผลิตการเกษตรให้กับพวกเขาได้อย่างดีทีเดียว ซึ่งมีแผนจะออกอากาศเร็วๆ นี้"

เธอเล่าว่าเป้าหมายของบริษัทปีนี้คือ การพาแบรนด์ไทยไปแบรนด์โลก เป็นประเทศมหาอำนาจทางการค้า โดยการวางแผนธุรกิจของเราแบ่งเป็น 3 ระดับ อย่างชัดเจนคือ ระดับแรก คือการดูแลวางแผนการตลาดสอนคล้องกับการตลาดปัจจุบัน ระดับที่สอง คือการวางระบบ รากฐานตัวแทนจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วประเทศ และระดับที่สาม คือการจัดหาตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศเพื่อจัดส่งสินค้าไทยไปตามประเทศต่างๆ"และมุ่งหวังว่าในอีก 3 ปี ข้างหน้าเธอจะเป็นหนึ่งในผู้สร้างตำนานให้กับประเทศไทย ด้วยการผลักดันให้แบรนด์ไทยไปสู่แบรนด์โลกให้ได้เยอะที่สุด และผลักดันธุรกิจของลูกค้าให้มีรายได้อย่างน้อย 1 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่องค์กรของเขามองการสร้างรายได้ให้กับบริษัทแตะหลัก 500 ล้านบาท

เศรษฐกิจโลกพัง ก็ยังไม่สำคัญเท่าสภาวะใจ "พังพินาจ" การฟื้นฟูจิตใจตนด้วยการค้นหาศักยภาพตัวเอง เพื่อกอบกู้เอกราช พลิกตำนาน "ความล้มเหลว" ให้เป็น "ความสำเร็จ" พลิกฟื้นวันที่ "หมด" เป็นวันที่ "มี"

ศิริลักษณ์ ลีสม ผู้ก่อตั้งบริษัท ดี มีเดีย แฟคทอรี่ จำกัด เล่าว่า ชีวิตเธอมีศรัทธาในตัวเองและคำว่าทุกอย่างเป็นไปได้มาตลอดจนกระทั่ง เมื่อชีวิตรักพัง ทุกอย่างก็พังไปด้วย ไม่ว่าจะการงาน งานเงิน สังคม เธอเคารพตัวเองน้อยลง เห็นคุณค่าและศรัทธาในตัวเองน้อยลง โลกเหยียบย่ำเธออย่างสนุกสนานโดยที่เธอไม่ลุกขึ้นมารับผิดชอบต่อชีวิตตัวเอง

"จุดเปลี่ยนหลังจากที่เราใช้ระยะเวลาสักพักในการหมุนองศาหาตัวเอง คือความรักของคนในครอบครัว เราเป็นครอบครัวฐานะปานกลาง แม้จะมีรายได้ประมาณหนึ่งแต่หนี้สินก็พันเช่นหลายๆ ครอบครัว ด้วยนิสัยใช้เงินแบบไม่คิดทำให้เราต้องหยิบยืมพี่สาวเสมอ จนวันที่เราเห็นพี่สาวควักเงินให้กับเราสองพันบาทและไปแอบนั่งนับว่าตัวเองเหลือเงินกี่บาทเพื่อประทังไปจนถึงสิ้นเดือน วินาทีนั้นเองที่ทำให้เราลุกขึ้นมาบอกตัวเองว่า ลุกขึ้นมาได้แล้ว"

ศิริลักษณ์ กล่าวปิดท้ายอีกว่า "ความสำเร็จของเราวันนี้ ไม่ได้วัดผลจากตัวเงิน แต่คือลุกขึ้นมาการประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ว่า โลกนี้ไม่มีอะไรทำร้ายเราได้เลยหากเราไม่ยอม และเป็นพลังใจให้คนอีกหลายกลุ่มที่กำลังจมด้วยเหตุผลต่างๆ ลุกขึ้นมาจุดศรัทธาในตัวเอง เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่า มีใครบางคนที่รอให้คุณประสบความสำเร็จเพื่อตัวคุณเองและคนรอบข้าง"

www.siriescommunication.com หรือ เฟซบุ๊คแฟนเพจ siriescommunication โทร 097 228 2621 และ line @siriescom