รวบแก๊งสกิมเมอร์ยูเครน ปลอมเอทีเอ็มฉกเงินไปกว่า 1.5 ล้าน

เมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 29 กรกฎาคม ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมกับ พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ แถลงข่าวการจับกุม ผู้ต้องหาต่างชาติ ชาวยูเครน 3 คนในคดีร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้เงินไปกว่า 1.5 ล้านบาท ได้แก่ นายเยฟเฟน โวรอนเซฟ (Mr.Yevhen Vorontsev) อายุ 36 ปี หมายเลขพาสปอร์ต FA004336 นายแอนเดรย์ เฮอราสเชนโก (Mr.Andrii Herashohenko) อายุ 23 ปี หมายเลขพาสปอร์ต FA204526 และนายเดอมิทโทร คูชิน (Mr.Dmytro Kuchin) อายุ 20 ปี หมายเลขพาสปอร์ต FA309191 ขณะที่ผู้ร่วมขบวนการชาวยูเครนอีกราย ได้แก่นายเดอมิทโทร วีลาด (Mr.Dmyteo Vlad)อายุ 31 ปี ยังคงหลบหนีไปได้
พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้พบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นในระบบการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านตู้กดเงินอัตโนมัติ เนื่องจากมีบุคคลคนเดียวกดเงินจากตู้ หลายครั้งติดต่อกัน จึงได้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ให้ค้นหาตัวผู้ที่มากดเงิน โดยอาศัยข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และสถานที่ตั้งของตู้กดเงินอัตโนมัติที่คนร้ายใช้กดเงิน พบว่าคนร้ายเป็นชาวต่างชาติ จำนวน 4 คน ตระเวณกดเงินตามตู้กดเงินอัตโนมัติ โดยเฉพาะธนาคารไทยพาณิชย์ ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่
จากการตรวจสอบการทำธุรกรรมผ่านตู้กดเงินอัตโนมัติ พบว่ากลุ่มคนร้ายได้ทำบัตรเอทีเอ็มปลอม โดยใช้เครื่องสกิมเมอร์ไปครอบบริเวณช่องเสียบบัตรกดเงิน เพื่อคัดลอกข้อมูลของผู้เสียหายแล้วนำข้อมูลดังกล่าวมาใส่บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ที่กลุ่มคนร้ายได้ทำปลอมขึ้นมาใหม่ โดยกลุ่มคนร้ายได้กดเงินจำนวนกว่า 1,000 ครั้ง แต่ประสบความสำเร็จสามารถนำเงินออกมาจากตู้ได้จำนวน 162 ครั้ง รวมทั้งสิ้นสามารถกดเงินออกมาได้ 1,580,000 บาท
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้มีการสืบสวนกระทั่ง เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตัวจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายดังกล่าว ได้ที่ หน้าร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น บริเวณถนนคันคลองชลประทาน ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 1 ราย หน้าตู้กดเงินอัตโนมัติ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดสมเพชร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 1 ราย และบริเวณหน้าโรงแรมภัทรา โฮเต็ล ถนนหมื่นด้ามพร้าคต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อีก 1 ราย ขณะที่คนร้ายอีก 1 คนไหวตัวทัน หลบหนีไปได้
นอกจากนั้น จากการสอบปากคำผ่านล่ามชาวยูเครน ทราบว่า กลุ่มคนร้ายดังกล่าว ได้เดินทางมาประเทศไทยครั้งแรก เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยเลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นเป้าหมาย เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่จะเลือกเหยื่อที่เป็นชาวต่างชาติ ขณะที่หลังจากที่ได้มีการ คัดลอกข้อมูลของผู้เสียหายแล้วนำข้อมูลดังกล่าวมาใส่บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำปลอมขึ้นมาใหม่แล้ว ก็จะสุ่มกดเงินตามตู้กดเงินอัตโนมัติ หากบัญชีไหนกดเงินสำเร็จก็จะกดซ้ำอีกหลายครั้ง โดยมี 1 บัตรที่สามารถกดเงินออกมาได้เกือบ 1 ล้านบาท โดยหลังจากกดเงินเสร็จก็จะส่งเงินกลับไปยังประเทศยูเครน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวนมาก ทั้งในประเทศไทยและประเทศยูเครน โดยเฉพาะอาจจะเชื่อมโยงกับกลุ่มนักสกิมเมอร์ที่ระบาดในจังหวัดอื่น แต่ขณะเดียวกันเบื้องต้นยังไม่พบว่า มีคนไทยร่วมอยู่ในขบวนการนี้แต่อย่างใด โดยจะได้มีการติดตามสืบสวนหาตัวผู้ร่วมขบวนการอย่างเข้มข้นโดยเฉพาะ อีก1รายที่หลบหนีไปได้ เพื่อจะได้นำตัวมาดำเนินคดีจนถึงที่สุด