คนร้ายใช้ค้อนทุบหัวมีดฟัน"เจ้าอาวาสวัดวังสำโรง" หวังชิงทรัพย์

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 กรกฎาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านวังสำโรงได้มารวมตัวกันที่วัด หลัง เกิดเหตุคนร้ายทำร้ายร่างกายเจ้าอาวาสวัดวังสำโรง เจ้าคณะตำบลวังพิกุลเขต 2 จนได้รับบาดเจ็บตามตัวและศีรษะ หลายแห่ง จนชาวบ้าน ต้องช่วยกันทำร้ายแผล โดยเจ้าอาวาสวัดรูปนี้คือ พระครูพิศาลธรรมรังสี อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดวังสำโรง และเจ้าคณะตำบลวังพิกุลเขต 2 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โดยถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้ค้อนและมีด บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายหมายเอาชีวิตและทรัพย์สิน บนกุฏิเจ้าอาวาสที่กำลังสร้างใหม่ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา จนพระครูพิศาลธรรมรังสี ต้องไปหลบหนีภายในอุโบสถ แล้วสลบไป คนร้ายนึกว่าเสียชีวิต จึงได้หลบหนี ไป
พระครูพิศาลธรรมรังสี เจ้าอาวาสวัดวังสำโรง และเจ้าคณะตำบลวังพิกุลเขต 2 เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่จำวัดภายในกุฏิวัดที่กำลังก่อสร้างใหม่นั้น มีคนร้ายได้แอบเข้าไปภายในกุฏิ และใช้ค้อน และมีด ทุบตีที่หัวและลำตัว เบื้องต้นได้ทำการต่อสู้แต่ไม่ไหว โดยคนร้ายยังข่มขู่ว่า หากเสียงดังจะทุบให้ตาย ระหว่างนั้นตนเองรอจังหวะคนร้ายเผลอ จึงได้วิ่งหนีออกมาจากกุฏิ แล้วไปหลบที่ภายในอุโบสถ แล้วขอความช่วยเหลือจากช่างทาสีภายในอุโบสถ ในตอนนี้แรกคิดว่าตนไม่มีบาดแผลอะไรมากนัก ก็ได้ขอยากิน แล้วสลบไป

จนกระทั่งเช้า พบว่าตามร่างกายและศีรษะ มีแต่บาดแผลจำนวนมากและมีเลือดออก จนกระทั่งชาวบ้านที่เห็นว่าตนถูกทำร้าย ก็มาช่วยเหลือ และต่างสาปแช่งคนร้ายดังกล่าวต่างๆนานา ตนเองเชื่อว่าคนร้ายที่บุกมาทำร้ายตนเองนั้น หวังเพื่อชิงทรัพย์สินภายในกุฏิมากกว่าหมายเอาชีวิต และเห็นว่าตนเองโวยวายในช่วงต่อสู้กัน จึงได้หลบหนีไปได้ ก่อนจะรื้อค้นหาทรัพย์สินไป
หลังจากกลุ่มชาวบ้าน ได้พาพระครูพิศาลธรรมรังสี ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก และพาไปตรวจร่างกายที่ รพ.พุทธชินราช เบื้องต้นพบว่าพระครูพิศาลธรรมรังสี มีอาการกะโหลกศีรษะร้าว มีแผลถูกฟัน ยาว 4 แห่ง และที่ด้านหลังอีก 1 แห่ง ต้องนอนรักษาตัวที่ รพ.พุทธชินราช เพื่อรักษาบาดแผลเป็นการเบื้องต้น

ต่อมา พระครูพิศาลธรรมรังษี วัดวังสำโรง เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า วัยรุ่นคนดังกล่าว จำได้ว่าเคยบวชเป็นเณรและมาขออยู่ที่วัดวังสำโรง เณรรูปนี้มีพฤติการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตลอดทั้งเป็นคนเก็บกด และเป็นคนลักษณะซึมเศร้า ชอบเล่นโซเชียลทางโทรศัพท์ และทำอะไรตามอำเภอใจตัวเอง อาตมาเคยเตือนหลายครั้ง ทำให้เณรรูปนี้มีอาการไม่พอใจ และมองตาขวาง ก่อนจะย้ายไปอยู่วัดอื่น กระทั่งมาก่อเหตุครั้งนี้ ส่วนจะมีคนอื่นเกี่ยวข้องหรือนั้น ต้องอยู่ทีทางตำรวจ เพราะได้แจ้งความเอาไว้ที่ สภ.วังทองแล้ว