สี จิ้นผิง ชี้การประชุมที่กรุงบัวโนสไอเรส สำคัญอย่างยิ่ง เป็นอเมริกาใต้เป็นประเทศแรกที่ได้จัด G-20
สี จิ้นผิง ชี้การประชุมที่กรุงบัวโนสไอเรส ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากอาร์เจนตินาซึ่งอยู่ในแถบอเมริกาใต้เป็นประเทศแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดประชุม G-20 ซึ่งตรงกับโอกาสครบรอบ 10 ปีของการประชุมในปีนี้
ขณะที่ทรัมป์เผยจะมีการทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการค้ากับจีนท่ามกลางการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั่วโลก โดยเฉพาะประเด็นการแก้ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงทวีความตึงเครียดมีมากขึ้น
1. การประชุมสุดยอด G-20 ครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั่วโลก โดยเฉพาะประเด็นการแก้ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความตึงเครียดมีมากขึ้น โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า การประชุมที่กรุงบัวโนสไอเรส ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากอาร์เจนตินา ซึ่งอยู่ในแถบอเมริกาใต้เป็นประเทศแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดประชุม G-20 ซึ่งตรงกับโอกาสครบรอบ 10 ปีของการประชุมในปีนี้
ทางด้านวอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีน ว่า สหรัฐและจีนกำลังมองหาหนทางทำข้อตกลงการค้าที่จะทำให้สหรัฐไม่เรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อจีน เป็นการแลกกับการเจรจาครั้งใหม่กับจีน เพื่อให้จีนมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจครั้งใหญ่
2. ในส่วนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนที่จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G-20 ที่อาร์เจนตินาว่า จะมีการทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการค้ากับจีน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีกำหนดหารือและรับประทานอาหารเย็นร่วมกันในวันเสาร์นี้ โดยสหรัฐจะเน้นเจรจากับจีน ในประเด็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาบริษัทสหรัฐของจีน และการตั้งกำแพงการค้าทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับภาษี
3. ขณะที่รัฐมนตรีคลังในกลุ่มประเทศ G-20 ได้ประชุมร่วมกันที่กรุงบัวโรสไอเรส ของอาร์เจนตินา ซึ่งมีขึ้นก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G-20 จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน - วันที่ 1 ธันวาคมนี้
โดยทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น เปิดเผยถึงที่ประชุมรัฐมนตรีคลัง G-20 ได้มองว่า เศรษฐกิจโลกยังมีเสถียรภาพ แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนในหลายปัจจัย ซึ่งที่ประชุมยังมีความกังวลต่อความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะขาลง
4. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 7-8 พฤศจิกายน ชี้ว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปน่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ หากว่า ตลาดแรงงานและเงินเฟ้อมีความสอดคล้องหรือแข็งแกร่งกว่าระดับการคาดการณ์ในปัจจุบัน และยังคงเห็นพ้องกันว่า การปรับนโยบายการเงินให้กลับสู่ภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้น ถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม
รายงานยังระบุว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้น หรือ Fed Funds Rate ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดนั้น กำลังเข้าใกล้ระดับสมดุล และการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปอาจส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง รวมทั้งสร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อและตัวเลขคาดการณ์
5. ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทวีถึงการตัดสินใจยกเลิกประชุมกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน นอกรอบการประชุม G-20 เหตุรัสเซียยังไม่ได้ส่งคืนเรือและลูกเรือกลับสู่ยูเครน
ข้อความในทวิตเตอร์ยังระบุว่า การยกเลิกการประชุมกับผู้นำรัสเซียจะเป็นการดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย ซึ่งหวังว่าจะมีโอกาสเข้าร่วมประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในไม่ช้า เมื่อสถานการณ์ได้รับการแก้ไข