จากการสอบสวน นายสมชัย ให้การว่า ตนไม่ได้ทำงาน ปัจจุบันพักอยู่กับครอบครัวไม่ไกลจุดเกิดเหตุ ช่วงเช้าที่ผ่านมาเดินเท้าออกจากบ้านพักไปที่ป้ายรถประจำทางเพื่อรอขึ้นรถเมล์ไปทำธุระย่านพระราม 9 พกเงินสดติดตัวจำนวน 3,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จู่ๆ นายเกรียงศักดิ์ ก็เดินโซซัดโซเซมาหา และเอ่ยปากขอเงิน ตนจึงบอกปัดไปว่าตนไม่ได้ยิน ทำให้นายเกรียงศักดิ์ โมโหผลักตนล้มลง เตะก้านคอ คร่อมร่างชกที่ใบหน้าและปากตนหลายครั้ง รวมถึงเอามือบีบคอตน จนตนต้องแกล้งตาย กระทั่งมี นายวันชัย ขับรถ จยย.ผ่านมาพบเหตุการณ์และเข้าช่วยเหลือตนเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที ไม่เช่นนั้นตนอาจจะเสียชีวิตจริงๆ ก็เป็นได้
ทางด้าน นายวันชัย พลเมืองดี ซึ่งได้รับบาดเจ็บมือขวาแตก เจ็บปวดไหปลาร้าข้างขวาจากการถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายเช่นกัน ให้การว่า ตนขับขี่รถ จยย.สวมเสื้อวินออกจากบ้านพาภรรยามาส่งที่ป้ายรถเมล์แห่งนี้ เพื่อไปทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมแห่งหนึ่งทุกเช้า โดยขณะขี่รถมาถึงเห็น นายเกรียงศักดิ์ กำลังคร่อมร่างสาวหมัดใส่เหยื่ออยู่แบบไม่ยั้ง ตนจึงเข้าไปดึงตัว นายเกรียงศักดิ์ ออกมาจึงโดนนายเกรียงศักดิ์ ชกเข้าที่ใบหน้าทำให้ตนต้องสวนกลับไปบ้าง แต่ก็แทบจะสู้ไม่ไหวเพราะแม้นายเกรียงศักดิ์ จะอยู่ในสภาพเมามายแต่ก็ยังหนุ่มแน่นมีพละกำลังเยอะโชคดีที่มีตำรวจเข้ามาช่วยควบคุมตัว นายเกรียงศักดิ์ เอาไว้ได้ทัน
ขณะที่ พ.ต.อ.ธวัชชัย ศรีสุรางค์ ผกก.สน.บุคคโล เปิดเผยว่า คดีนี้สมควรนำมาเป็นอุทาหรณ์ให้ประชาชนไม่ควรปล่อยปละให้คนชราออกมาเดินลำพังตามท้องถนนในช่วงเวลาที่อาจเกิดเหตุอาชญากรรมขึ้นได้ จากการสอบสวน นายเกรียงศักดิ์ ผู้ต้องหาทราบเพียงว่าไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง และก่อเหตุเพราะอยากได้เงินไปซื้อสุรามาดื่มเท่านั้น ยังไม่สามารถให้การใดๆ ได้ละเอียดกว่านี้เนื่องจากเมามายอย่างหนักจึงควบคุมตัวไว้ในห้องขังรอการแจ้งข้อหาพยายามชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ส่วน นายสมชัย ผู้เสียหาย และ นายวันชัย พลเมืองดี จะส่งตัวไปตรวจร่างกายที่ รพ.ทหารเรือ โดยเฉพาะ นายวันชัย พลเมืองดีนั้นจะพิจารณามอบรางวัลตามโครงการทำดีมีรางวัลประจำเดือน ต.ค.61 พร้อมกับโชเฟอร์แท็กซี่พลเมืองดีอีก 2 คน ที่เก็บทรัพย์สินของผู้โดยสารมาคืนให้ที่ สน.บุคคโล เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา