พล.ต.ต.เสนิต กล่าวว่า สืบเนื่องจากกระทรวงยุติธรรมประเทศเกาหลีใต้ กำลังพิจารณายกเลิกการยกเว้นวีซ่าของผู้ถือหนังสือเดินทางไทยที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยว เนื่องจากพบว่าคนไทยจำนวนมากเดินทางเข้าไปแล้วลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการไปท่องเที่ยวยังประเทศเกาหลีใต้ ชุดปฏิบัติการที่ 10 และ 11 ศปอส.ตร. จึงร่วมกับนายสุวรรณ์ ดวงตา ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน นายสมบัติ โพธิวัฒน์ ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครอง คนหางาน นายวิรัตน์ ศรีสัมพันธุ์ หัวหน้าศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน เพื่อร่วมกันสืบสวน หากลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์โพสเชิญชวนให้คนไทยไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต โพสข้อความชักนำให้คนเข้าใจผิด ว่าการไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ สบาย รายได้ดี อยู่เกินกำหนดวีซ่าก็ไม่ต้องกลัวกฎหมาย
พล.ต.ต.เสนิต กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนทราบว่า มีผู้เปิดเฟสบุ๊กที่เข้าข่ายการกระทำความผิด ตาม มาตรา 66 พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 จำนวน 1 เพจ ได้แก่ เพจ "งานเกาหลีใต้ by Jadezy" จึงได้ขอออกหมายจับเจ้าของเพจดังกล่าวต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ซึ่งศาลได้ออกหมายจับ น.ส.สุทธากร สุทธิธนอร ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 608/2561 ลง 1 ก.ย. 2561 ในความผิดฐาน "โฆษณาจัดหางานให้คนหางานไปทํางานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต" ซึ่งเป็นเจ้าของเพจและแอดมินเพจดังกล่าว หลังจากได้หมายศาลก็ได้ทำการติดต่อไปยังผู้ต้องหา ก่อนที่ผู้ต้องหาจะเดินทางเข้ามอบตัวดังกล่าว
พล.ต.ต.เสนิต กล่าวอีกว่า ทางผู้ต้องหาขณะนี้ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ส่งคนไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่จากแนวทางการสืบสวนทราบว่าได้เปิดเพจชื่อ"งานเกาหลีใต้ by Jadezy" มานานแล้ว 4 เดือน และเชื่อว่าต้องมีการส่งคนไปทำงานที่ต่างประเทศ โดยพฤติการณ์จะมีการเชิญชวนคนไทย ไปทำงานเป็น เกษตรกร ร้านอาหาร และร้านนวดแผนไทยหรือนวดแบบค้ามนุษย์แอบแฝง และให้ไปในรูปแบบของทัวร์ เมื่อไปถึงที่หมายก็จะมีคนมารับที่สนามบิน และรับไปทำงานตามที่ได้นัดหมายไว้ และคนไทยส่วนใหญ่จะนิยมเดินทางไปทำงานเพราะได้ค่าตอบแทนสูง(40,000-50,000บาท) ซึ่งขณะนี้ทางศปอส.ตร. กำลังเฝ้าระวังเพจในลักษะนี้อยู่กว่า10 เพจ หากพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป