ครอบครัวนักโทษประหารร้องขอรื้อคดีใหม่

วันที่ 23 มิถุนายน 2561 อดีตภรรยาของนักโทษประหาร " นายธีรศักดิ์ หลงจิ หรือมิ๊ก " ซึ่งถูกประหารชีวิตไปแล้ว กล่าวว่า จากคำพิพากษาของศาลในการตัดสินประหารชีวิต " นายธีรศักดิ์ หลงจิ หรือมิ๊ก " ทางครอบครัวและญาติยอมรับในคำตัดสินของศาล แต่สิ่งที่ทางครอบครัวและญาติ รวมทั้งสังคมสงสัย และขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดี มีการรื้อคดี ดังกล่าวใหม่ เพื่อหาความจริงให้ปรากฏ เนื่องจากตลอดการถูกจำคุกวันแรก ถึงวันสุดท้ายที่ถูกประหาร ทาง "มิ๊ก" ยังยืนยัน และให้การปฏิเสธดยบอกกับครอบครัวและคนใกล้ชิดมาตลอดว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่ยอมรับว่าขณะนั้นก็มีที่ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไป แต่ในคดีนี้ เขายืนยันปฏิเสธว่าไมได้ทำ ซึ่งส่วนตัวก็อยากถามกลับว่า วาระสุดท้ายแล้ว ถ้าคนทำ ทำไมไม่ยอมรับว่าทำ เขายืนกรานมาตลอดว่า ให้ครอบครัวเชื่อเขา เขาไม่ได้ฆ่า ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ จนท.ช่วยหาความจริงให้ปรากฏ เนื่องจากผู้ต้องหามีลูกที่จะต้องเติบโตในสังคม แต่ต้องถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นลูกนักโทษประหารไปแล้ว ทั้งที่พฤติกรรมในวันที่ถูกจับกุม ผู้ต้องหาก็ยังใช้ชีวิตปกติ ไม่มีพฤติกรรมหลบหนีหรือ ผิดปกติแต่อย่างใด โดยนิสัยแล้ว ผู้ต้องหาเป็นวัยรุ่นที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น และเพื่อนฝูง


และที่สำคัญวันที่ถูกประหาร ทางผู้คุมได้โทรศัพท์มาหาตนเพื่อให้มิ๊กสั่งเสียในเวลาประมาณ 17.00 น. โดยหลังจากผู้คุมให้คุยกับมิ๊ก มิ๊กบอกกับตนว่า " เขาจะไม่อยู่แล้ว ศาลตัดสินตอนเวลา 16.00 น. พอ 17.00 น.เขาให้โทรคุยกับญาติ และจะประหาร 18.00 น. และคุยกันประมาณ 10 15 นาที โดยขอคุยกับลูกคนโต วัย 8 ขวบ พร้อมสั่งเสียลูกให้เป็นเด็กดี ให้ตั้งใจเรียนหนังสือ เป็นเด็กดี พอคุยตนก็ถามเป็นครั้งสุดท้าย เขาทำมั๊ย เขาก็ตอบเขาไม่ได้ทำ และฝากให้ดูแลลูกด้วย จะไม่อยู่แล้ว ตลอดการสนทนา มิ๊กร้องไห้ตลอด อยากให้มีการทำความจริงให้ชัดว่า " แท้จริงแล้วมีความเป็นมายังไง จับเขาได้ถูกหรือไม่ เพราะว่าลักษณะ น่าคิดว่าติดคุกมาแล้ว 7 ปี วินาทีสุดท้าย เขาก็ยังปฏิเสธ แทนที่ว่าถ้ารับไป เขาย่อมได้รับการลดโทษกึ่งหนึ่งทันที แต่เขายืนยันคำเดิมว่า เขาไม่ได้ทำ ถ้าเขาทำเขารับ เขายืนยันว่า เขาไม่ได้ทำ แต่เมื่อให้เขาเป็นอย่างนี้แล้ว เขาก็บอกว่าเขาไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะว่าพูดไปเขาก็ยิ่งทำให้ตัวเองกดดัน และคิดมาก ซึ่งวินาทีสุดท้าย เขาก็ยังยืนยันคำเดิม ขณะโทรมา เขาพูดไปร้องไปตลอด ซึ่งสมัยอยู่กันมาเขาก็ชอบช่วยเหลือทุกคน ที่จะไปจี้ แทง ใครเขาไม่ทำเด็ดขาด เขามีแต่การใช้ชีวิตวัยรุ่นทั่วไป เรื่องเสพเรื่องไร แบบนี้ แต่โหดร้าย ฆ่าคนด้วยมีด 24 แผล เป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ หลังจากตำรวจจับกุมตัวไป ทางครอบครัวไม่เคยเห็นสำนวนการสอบสวนหรืออะไรเลย พอไปถามตำรวจก็เงียบ แล้วตำรวจก็พาไปแถลงข่าวทั้งๆที่เขาปฏิเสธ ทั้งนี้ ตนเองมีโอกาสได้ดูบาดแผลของศพจากภาพที่ตำรวจเอามายืนยันว่า เขาเป็นคนทำเพื่อให้เห็นสภาพศพเป็นอย่างไร เห็นชัดว่า บาดแผลผู้ตายเป็นลักษณะการถูกฟันด้วยมีดยาว ถ้าเป็นมีดเดือยไก่จะต้องแทง หรือกรีดก็จะเป็นเส้นเล็กๆ มันจะไม่ใช่รอยฟันที่ลักษณะแผลเหวอะขนาดนั้น และก็ตั้ง 24 แผล ซึ่งถ้าคนๆเดียวทำ คงไม่ได้ถึงขนาดนั้น


จึงเรียกร้องให้มีการรื้อคดีใหม่ ทำความจริงให้กระจ่างกว่านี้ ตนและครอบครัวเคารพศาล แต่ดีใจที่มีพยานเห็นเหตุการณ์ออกมาเล่าความจริง อยากให้ทำให้กระจ่าง เพื่อให้สังคม และครอบครัวคลายความสงสัย แม้เขาจะไม่ฟื้นแล้ว แต่ความจริงก็เป็นความจริง ทางครอบครัวพร้อมจะยอมรับความจริง ขณะนี้ทางครอบครัวก็กำลังหารือกันอยู่อาจขอให้ใครเข้ามาช่วยเหลือ ทำความจริงให้กระจ่าง