สำหรับพื้นที่ของวัดจองคา มีเนื้อที่กว่า 8 ไร่ ต่อมาพ่อเฒ่านันตา (อู๋) วงศ์อนันต์ ได้บริจาคเงิน เพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดจองคา โดยพ่อเฒ่านันตา (อู๋) ได้เป็นเจ้าภาพสร้างวิหารขึ้น 1 หลังแทนวิหารที่มุงด้วยหญ้าคา แล้วจึงว่าจ้างนายช่างชาวเมียนมามาออกแบบและทำการก่อสร้างวิหาร รูปแบบของพระวิหารเป็นวิหารไม้สักทั้งหลัง ศิลปกรรมแบบเมียนมา หลังคามุงจั่วยกเป็นช่อชั้นลดหลั่นกันลงมาอย่างสวยงาม มุงหลังคาด้วยแป้นเกร็ด (กระเบื้องไม้) เพดานภายในตกแต่งประดับประดาด้วยกระจกสีลวดลายวิจิตรพิศดาร มีเสาไม้ลงรักปิดทองทั้งสิ้น 68 ต้น ค่าก่อสร้างในสมัยนั้นประมาณ 45,000 บาทเศษ
พระอธิการสันติ ชยธมโม เจ้าอาวาส วัดนันตาราม กล่าวว่า ในการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์วัดจองคาใช้เวลากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน อายุร่วม 100 กว่าปี และได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดพะเยา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งไทย และชาว ต่างชาติ เข้ามาเที่ยวชมสักการระและถ่ายรูปวิหารไม้สักที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพะเยา โดยภายในวัดจะมีมัคคุเทศก์ตัวน้อย6-7 คนคอยบริการให้ความรู้และแนะนำสถานที่ประวัติความเป็นมาของวัดนันตารามให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม สร้างความฮือฮาให้กับนักท่องเทียวเป็นอย่างมาก