svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

รัฐมนตรีสาธารณสุขติดตามความก้าวหน้าความร่วมมือด้านสาธารณสุข ไทย-กัมพูชา

15 มิถุนายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รัฐมนตรีสาธารณสุขไทย-กัมพูชาติดตามความก้าวหน้าความร่วมมือด้านสาธารณสุขไทย-กัมพูชา หลังลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 วันนี้ (15 มิถุนายน 2561) ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานร่วมกับนายแพทย์มัม บุนเฮง รัฐมนตรีสาธารณสุขกัมพูชา ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ (Steering Committee) ระดับรัฐมนตรี


         พัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขไทยกับกัมพูชา ครั้งที่ 2 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะกิจกรรมภายใต้แผน 3 ปี ไทย-กัมพูชา สาขาสาธารณสุข ระหว่างปี 2560 2562


          ศาสตราจารย์ คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกลให้สัมภาษณ์ว่า ความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยและกัมพูชา นับว่ากิจกรรมต่าง ๆ มีความก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง เช่น การเสริมสร้างศักยภาพ การแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ แนวปฏิบัติที่ดีในการเฝ้าระวังโรคติดต่อตามบริเวณชายแดน โดยเฉพาะการกำจัดโรคมาลาเรีย ความร่วมมือในการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ การพัฒนาจุดผ่านแดน การส่งเสริมแนวทางสุขภาพหนึ่งเดียว การฝึกอบรมพยาบาลและผดุงครรภ์และนักระบาดวิทยา  การพัฒนาระบบส่งต่อของกัมพูชา โดยเฉพาะการพัฒนาโรงพยาบาลพี่-น้อง ระหว่างโรงพยาบาลตราดกับโรงพยาบาลเกาะกง และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้วกับโรงพยาบาลมงคลบุรี ซึ่งเป็นความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรการแพทย์ ตามโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้มีความร่วมมือและตกลงกันไว้แล้ว



          ศาสตราจารย์ คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกลกล่าวต่อว่า ที่ประชุมฯ ได้ขอให้เร่งดำเนินกิจกรรมตามแผน 3 ปีที่จะสิ้นสุดในปีหน้าให้สำเร็จตามกำหนด และเห็นชอบให้เริ่มต้นความร่วมมือระหว่างจังหวัดสุรินทร์กับอุดรมีชัยในแผน 3 ปี รวมทั้งหารือรูปแบบกลไกในการดำเนินความร่วมมือ กำหนดหน่วยงานรับผิดชอบระหว่างสองประเทศ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสื่อสารระหว่างกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประสานงาน และเกิดความร่วมมือเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมการจัดทำแผน 3 ปี ฉบับที่ 2 ที่กรุงเทพฯ ในปีหน้าต่อไป

logoline