svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

จากบ้านพัก "ศาล" ลามมา "ทหาร" เหตุใดหรูแพง แทงตา

05 เมษายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ลาม!! กับข่าวคราวของการใช้งบประมาณของคนในระดับผู้นำ ชนชั้นข้าราชการไทย ที่ทำให้สังคมกังขาคลางแคลงใจ กับเรื่องของการก่อสร้างบ้านพัก ซึ่งดูไปดูมาราวกับเป็น "รีสอร์ทเกรดพรีเมียม" หรือบ้านจัดสรรหรูหรา ซึ่งหลังจากเกิดประเด็นบ้านพักตุลาการเชียงใหม่ วันนี้ลามมาบ้านพักทหารแล้ว !

สำหรับเคสแรกนั้นเป็นข่าวมาระยะเวลาหนึ่ง กับการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 และที่พักข้าราชการตุลาการ โดยใช้พื้นที่ของ "กรมธนารักษ์" ใน ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพและใกล้กับเขตอุทยานแห่งชาติ สุเทพ-ปุย

แต่โครงการนี้ภาคประชาชนในพื้นที่คัดค้านและเสนอให้รื้อบ้านพักดังกล่าว มาตั้งแต่ช่วงปี 2558 ก็ได้มีการชะลอหยุดการสร้างไปช่วงหนึ่ง

หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว การก่อสร้างยังคงดำเนินการอยู่ แถมยังจะใกล้แล้วเสร็จแล้วในเดือนพฤษภาคมนี้ จึงมีผลทำให้ประชาชนเข้าร้องเรียนให้มีการตรวจสอบอีกครั้ง

จากบ้านพัก \"ศาล\" ลามมา \"ทหาร\" เหตุใดหรูแพง แทงตา

ที่สุด พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาตรวจสอบและได้แถลงผลว่า การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายทุกอย่าง ดังนั้นจึงให้ก่อสร้างต่อไปได้ !!

แต่กระแสคัดค้านของคนไทยก็ยังคงมีอยู่ และยังขยายเป็นวงกว้างอีกระลอก แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว สำหรับชาวบ้าน หรือชาวเชียงใหม่ คงไม่สามารถพุ่งประเด็นไปในเรื่องทางกฎหมายได้มากนัก

เพราะไม่ว่าจะเรื่องของการใช้ที่ดิน ซึ่งเป็นที่ของ ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ และเรื่องของบริษัทรับเหมาก่อสร้างอย่าง บริษัท พี.เอ็น.เอส. ไซน์ จำกัด ที่เป็นคู่สัญญารับจ้างงานก่อสร้าง ในช่วงปี 2556-2560 จำนวน 4 สัญญา รวมวงเงิน 734,825,000 บาท ซึ่งผู้มีอำนาจในบริษัทนี้ คือ คนที่นามสกุลเดียวกับอดีต ส.ส.เชียงใหม่

จากบ้านพัก \"ศาล\" ลามมา \"ทหาร\" เหตุใดหรูแพง แทงตา

แต่ทั้งสองเรื่องนี้ ได้รับคำอธิบายมาแล้วว่า ทำถูกต้องขั้นตอนทางกฎหมายทุกอย่าง ตรวจสอบได้ !

ดังนั้น สำหรับชาวบ้านที่พอจะสู้ได้ คงเหลือแต่เพียงการนำเสนอภาพของโครงการที่ต้องเรียกว่าเป็น "ทัศนะอุจาด" เพราะมีการรุกล้ำเข้าไปในป่าบริเวณเชิงดอยสุเทพอย่างชัดเจน จนชาวบ้านพากันเรียกว่า "หมู่บ้านป่าแหว่ง"



จากบ้านพัก \"ศาล\" ลามมา \"ทหาร\" เหตุใดหรูแพง แทงตา



และเวลานี้ ประชาชนที่คัดค้านการก่อสร้างนี้ ก็กำลังออกมาเคลื่อนไหวอย่างแข็งขัน ด้านหนึ่งคือ เฟซบุ๊กขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ที่ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของมหากาพย์บ้านพักเชิงดอยแห่งนี้ และเชิญชวนผูกริบบิ้นสีเขียวที่ข้อมือ พร้อมแฮชแท็ก #ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ

อีกด้านหนึ่งบรรดาจิตอาสาชาวเชียงใหม่ ที่เรียกว่า "ภาคีขอคืนบ้านพักตุลาการ" ก็กำลังเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ แล้ว โดยเริ่มออกเดินเมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา

จากบ้านพัก \"ศาล\" ลามมา \"ทหาร\" เหตุใดหรูแพง แทงตา

งานนี้ จึงยังต้องรอดูกันว่า ในวันที่ 9 เมษายน ที่จะถึงนี้ กับข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งให้มีการเจรจาเพื่อหาข้อยุติเรื่องนี้ ณ ตึกบัญชาการ มณฑลทหารบกที่ 33 ผลจะเป็นอย่างไรต่อไป

ขณะที่เรื่องแรกยังคงอยู่ในกระแสคำถาม และรอคอยว่าจะจบลงแบบไหน ปรากฏว่าล่าสุดมีงานงอกมาอีกเรื่อง แถมยังเกิดในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกันกับการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ ดังกล่าว



เมื่อล่าสุด 3 เมษายน ที่ผ่านมา เพจ CSI LA ได้เผยแพร่ภาพที่ถูกส่งมาจากสมาชิกเพจ โดยระบุว่า "เป็นบ้านพักนายทหารที่หมู่บ้านสวัสดิการทหารบก ใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่สร้างบนที่ดินฟรี หลังหนึ่งตกหลายสิบล้านบาท!" จนกลายเป็นกระแสในสังคมขึ้นมาในท่วงทำนองว่าทำไมท่านๆ จึงทำอะไรขวางความรู้สึกของประชาชนเยี่ยงนี้

แต่ที่สุดทางด้านของ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ก็ออกมาชี้แจงอย่างฉับไว โดยระบุว่า โครงการหมู่บ้านสวัสดิการทหารบกมีมานานแล้ว และมีทุกจังหวัด

โดยเป็นการเช่าพื้นที่ของราชพัสดุ ซึ่ง 1 คนสามารถเช่าพื้นที่ได้ไม่เกิน 100 ตารางวา เพื่อสร้างบ้านพัก โดยผู้เช่าต้องออกค่าสร้างบ้านพักเอง มีสัญญาการเช่าที่ดิน 30 ปี แบ่งจ่ายเป็นรายปี

ทั้งยังระบุว่า เหมือนกับการเช่าที่ดินของที่ราชพัสดุทั่วไป คือไม่สามารถเปลี่ยนมือผู้เช่า หรือโอนขายให้ผู้อื่นได้ เว้นแต่สืบสายโลหิต เช่นพ่อกับลูกที่สามารถอยู่ได้จนกว่าจะครบระยะเวลาสัญญาเช่า เพราะที่ดินดังกล่าวไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของตัวเอง

โดยมีอัตราส่วนการแบ่งเช่าพื้นที่แบ่งเป็นข้าราชการทหาร 70 เปอร์เซ็นต์ และข้าราชการพลเรือน 30 เปอร์เซ็นต์ แต่สำหรับจังหวัดอื่นอาจแบ่งเป็นข้าราชการทหาร 50 เปอร์เซ็นต์ และข้าราชการพลเรือน 50 เปอร์เซ็นต์

พร้อมยืนยันว่าถ้าจะพูดเรื่องการรุกล้ำป่านั้น บอกเลยว่าที่น่ี่ไม่ได้รุกล้ำพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หรืออุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อีกทั้งไม่ได้เป็นพื้นที่ลาดชันและไม่แตะพื้นที่อุทยานใดๆ เป็นพื้นที่ราบติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า รวมถึงพื้นที่โดยรอบยังติดกับทุ่งนาของชาวบ้าน ไม่ได้ติดกับพื้นที่เขา" (http://www.komchadluek.net/news/regional/319481)

อย่างไรก็ดี ในด้านหนึ่ง คนไทยทั่วไปกลับรู้กันดีว่า เรื่องการประกาศขาย หรือให้เช่าบ้านภายในหมู่บ้านสวัสดิการทหารบกนั้น มีมานานแล้วในหลายโครงการ ในพื้นที่ เป็นเรื่องปกติ

หลายคนก็อดนึกถึง "บ้านธนารักษ์" ไม่ได้ เพราะก็เป็นบ้านสวัสดิการเพื่อข้าราชการและลูกจ้างประจำกองทัพบกเช่นเดียวกันเหมือนกัน

จากบ้านพัก \"ศาล\" ลามมา \"ทหาร\" เหตุใดหรูแพง แทงตา



โดยบ้านธนารักษ์นี้ ทางกองทัพบกร่วมกับกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง จัดทำโครงการบ้านธนารักษ์ ด้วยการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินราชพัสดุ ที่อยู่ในความปกครองของหน่วยต่างๆ ในกองทัพบก โดยให้มีการจัดสร้างบ้านพักอาศัย ในราคาถูก "เพื่อจำหน่ายให้แก่กำลังพล" ข้าราชการและลูกจ้าง

สำหรับผู้ร่วมโครงการ จะต้องทำสัญญาเช่าที่ดินกับกรมธนารักษ์ในระยะเวลา 30 ปี และสามารถต่อสัญญาเช่าต่อไปได้ มีอัตราค่าเช่าที่ดินเริ่มต้นปีแรก 1.5 บาท/ตร.ว./เดือน, โดยที่ผ่านมาบ้านเมืองเรามีบ้านธนารักษ์มากมายหลายที่

ยกตัวอย่าง บ้านธนารักษ์-กองทัพบก จังหวัดเชียงราย ที่เพิ่งประกาศขายช่วงปี 2559 ก็ระบุว่าทำเพื่อข้าราชการ กองทัพบกและลูกจ้างในสังกัด ซึ่งแม้ว่าลักษณะของบ้าน ไม่แตกต่างไปจากบ้านจัดสรรทั่วไปๆ โดยหากเป็นบ้านเดี่ยวพื้นที่ 100 ตร.ว. ราคาเพียง 1.85 ล้านบาทเท่านั้น (เพราะเป็นที่ดินเช่า)

แต่มีข้อมูลช่วงปี 2559 จากศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เยี่ยมชมหมู่บ้านนี้ พบว่า บ้านธนารักษ์ กองทัพบกที่เชียงรายนี้ แม้จะเป็นที่ดินของกรมธนารักษ์ เป็นการเช่าที่ดิน 30 ปี และต่อสัญญาทุกๆ 30 ปี โดยเป็นลักษณะสร้างตามออเดอร์ ผู้เช่าทำสัญญากับกรมธนารักษ์แล้ว จึงดำเนินการก่อสร้าง

แต่ประเด็นคือ ผู้เช่าซึ่งเป็นข้าราชการ สามารถโอนสิทธิให้แก่เอกชนได้หลังเช่าครบ 5 ปี !

ก็ไม่แน่ใจว่า กับ "หมู่บ้านสวัสดิการทหารบก" ที่เป็นข่าวอยู่นี้ จะมีรูปแบบเหมือนกันหรือไม่ หรืออาจจะมีหลักเกณฑ์ตามที่แม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่าไม่สามารถเปลี่ยนมือผู้เช่า หรือโอนขายให้ผู้อื่นได้ เว้นแต่สืบสายโลหิต คงต้องรอผู้รู้มาอธิบายต่อในวาระต่อไป

แต่ที่แน่ๆ กับภาพที่เห็นทั้งสองเคส ไม่ว่าจะเป็นกรณีบ้านพักศาลในพื้นที่แม่ริม เชิงดอยสุเทพ ซึ่งเหมือนกับเซาะเข้าไปในป่า แทงสายตาคนไทยสุดๆ

หรือกับบ้านพักทหารในกรณีล่าสุด ที่สวยหรูดูดี จนอดถามไม่ได้ว่าบ้านพักข้าราชการที่สร้างบนพื้นที่เช่าราคาแสนถูก จนเกือบฟรีนี้ จะต้องหรูหราอลังการขนาดนั้น

ทั้งสองเรื่องกรณี ไม่ได้เกิดกับใครที่ไหน แต่เป็นสถาบันที่สำคัญ ทั้ง "ศาล" และ "ทหาร" เรื่องนี้ แม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่ค่อยจะถูกใจประชาชนโดยเฉพาะในโลกออนไลน์ และผู้เคลื่อนไหวทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพสักเท่าไร


จากบ้านพัก "ศาล" ลามมา "ทหาร" เหตุใดหรูแพง แทงตา : คอลัมน์... เจาะประเด็นร้อน

logoline