svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทรัมป์ทวีตระบุตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงอย่างรุนแรง กำลังทำผิดพลาดครั้งใหญ่

08 กุมภาพันธ์ 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทรัมป์ทวีตระบุตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงอย่างรุนแรงกำลังทำผิดพลาดครั้งใหญ่ "Big Mistake" สวนทางข่าวดี "Good Mews" เนื่องจากกระแสข่าวทางด้านเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่ดีขึ้น ชณะที่ดาวโจนส์ยังคงผันผวนรุนแรงระหว่างชั่วโมงซื้อขาย มีการสวิงตัวถึง 508 จุด ถึงแม้ว่าดาวโจนส์จะมีอาการสงบลงทรุดตัวเพียง 19 จุดในวันพุธก็ตาม


โดยเป็นผลมาจากความพยายามผลักดัน Dollar index ทะลุ 90.31 ในวันนี้ แต่ยังเป็นการอ่อนค่าลง 1.97% นับจากต้นปีนี้ และอ่อนค่าลง 10.29% ในรอบ 1 ปีมานี้ โดยที่การเคลื่อนไหวของดอลลาร์ยังคงผันผวนในระหว่างชั่วโมงเทรด หลังจากบอนด์ยีลด์รัฐบาลสหรัฐ 10 ปียังคงผันผวนพุ่งทะลุล่าสุดที่ 2.83% ทั้งที่มีการปรับลดลงที่ 2.65% ในวันอังคาร


1. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเป็นครั้งแรกนี้มีขึ้นหลังจากเกิดการตกต่ำของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ว่า ในอดีต ตลาดหุ้นจะดีดตัวขึ้นเมื่อมีการรายงานข่าวดี แต่ปัจจุบันนี้ แม้มีการรายงานข่าวดี ตลาดหุ้นกลับดิ่งตัวลง นี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ที่สวนกระแสข่าวดีที่มีมากมายเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ

หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดดิ่งลงหนักเป็นประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์ลงลึกถึง 1,600 จุด โดยต่อเนื่องมาจากวันศุกร์ที่ดิ่งลง 666 จุด แม้จะมีการดีดตัวกลับพุ่งขึ้น 567 จุดในวันอังคาร แต่ดาวโจนส์ยังคงดิ่งลงถึง 5% จากจุดสูงสุดที่ระดับ 26,612 ในวันที่ 26 มกราคม และถึงแม้ว่าบรรบากาศการซื้อขายในวันพุธโดยที่ดาวโจนส์จะเร่ิมนิ่งปรับตัวลดลงเพียง 19 จุดหรือ 0.08% แต่ยังคงมีทิศทางผันผวนอย่างรุนแรง และมีสัญญาณลบในตลาดซื้อขายล่วงหน้า



2. ขณะที่หุ้นวอลล์สตรีททั้ง 3 ดัชนีหลักทรงตัวในทิศทางทางปรับตัวลงเล็กน้อย โดยที่ดาวโจนส์ปิดที่ 24,893 ลดลง 19.42 จุด หรือ 0.08% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,681 ลดลง 0.5% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,051 ลดลง 0.9%

จากการที่นักลงทุนยังคงมีแรงเทขายหุ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางความตื่นกลัวต่อกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อที่ถูกกดดันจากตัวเลขจ้างงานและค่าแรงในสหรัฐขยายตัวสูงขึ้นมากกว่าคาด

โดยที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนมกราคม โดยปรับตัวขึ้น 200,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง และยังเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี ประกอบค่าแรงโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 9 เซนต์ต่อชั่วโมง หรือ 0.3% จากเดือนก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี



3. นอกจากนี้ แรงกดดันสำตัญให้ดอเบี้ยมีทิศทางปรับขึ้นรวดเร็วในปีนี้ ยังมาจากการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราผลตอบแทนบอนด์รัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปีที่เป็นอัตราอ้างอิงในตลาด จนทะลุระดับ 2.88% เมื่อวันจันทร์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี จะทำให้ดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นรวดเร็วด้วยนั้น ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลเชิงลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

ล่าสุด บอนด์ยีลด์รัฐบาลสหรัฐ 10 ปียังคงผันผวนพุ่งทะลุล่าสุดที่ 2.83% หลังเปิดตลาดที่ 2.76% และเตะระดับสูงสุดที่ 2.86% อีกครั้งเมื่อวันพุธ ทั้งที่มีการปรับลดลงที่ระดับ 2.65% ในวันอังคาร



4. ดาวโจนส์ยังคงผันผวนรุนแรงระหว่างชั่วโมงซื้อขาย มีการสวิงตัวถึง 508 จุด ถึงแม้ว่าดาวโจนส์จะมีอาการสงบลงทรุดตัวเพียง 19 จุดในวันพุธ โดยเคลื่อนไหวต่ำสุดและสูงสุดระหว่าง 24,785 กับ 25,293

ท่ามกลางวุฒิสภายอมรับในข้อตกลงเพิ่มงบใช้จ่ายในช่วง 2 ปีข้างหน้าอีก 300,000 ล้านดดอลลาร์ สำหรับด้านการทหาร งบเยียวยาภัยพบัติทางธรรมชาติ และลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวทถึงข้อตกลงเรื่องผู้อพยพเข้าสหรัฐ

ขณะที่เควิน แฮสเซทท์ ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ ออกมายืนยันว่า นักลงทุนจะมีรายได้มากขึ้นจากมาตรการปฏิรูปภาษีของรัฐบาล ซึ่งอาจส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้าลงทุนในตลาดหุ้นสอลล์สตรีทเพิ่มขึ้น นับเป็นการช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนในระยะยาว

ถึงแม้ว่า ตลาดหุ้นทรุดตัวลงในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แต่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง แต่ก็จะไม่ทำให้ร้อนแรงเกินไป จนทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นจนส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ ทางทำเนียบขาวก็มีการติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนสามารถซื้อและขายได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อให้ตลาดหุ้นดำเนินไปอย่างมีเสถียรภาพ



5. ส่วนตลาดหุ้นเอเชียมีภาพการลงทุนที่ผสมผสาน โดย NIKKEI 225 ญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,700 เพิ่มขึ้น 55.57 จุด หรือ 0.26% หั่งเส็งฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 30,342 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 19.33 จุด หรือ 0.06% รวมทั้งหุ้นไทยปิดภาคเช้าเพิ่มขึ้น 10.42 จุด หรือ 0.58% แตะที่ 1,795 ขณะที่เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ทรงตัวลบ 28.21 จุด หรือ 0.85% แตะที่ 3,281

หลังจากมีความพยายามผลักดัน Dollar index ทะลุ 90.31 แต่ยังเป็นการอ่อนค่าลง 1.97% นับจากต้นปีนี้ และอ่อนค่าลง 10.29% ในรอบ 1 ปีมานี้ โดยที่การเคลื่อนไหวของดอลลาร์ยังคงผันผวนในระหว่างชั่วโมงเทรด

logoline