ถอดบทเรียน "เต่าออมสิน"

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.คณะสัตว์แพทย์ศาสาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงข่าว "การรักษาและอาการล่าสุดของ...เต่าออมสิน" ซึ่งมีสื่อไทยและต่างชาติให้ความสนใจมาซักถามจำนวนมาก ถึงอาการล่าสุด โดย ศาสตราจารย์ สัตว์แพทย์หญิง ดร.อัจฉริยา ไศละสูต กล่าวว่าเต่าออมสินได้จากไปแล้วในเวลา 10.10 น.วันนี้ สัตว์แพทย์ทุกคนได้ดูแลสุดความสามารถจริงๆ เพื่อนำกลับสู่ธรรมชาติให้ได้ โดยการศึกษาเป็นบทเรียนสังคมได้รู้ว่าทุกชีวิตมีค่าเราต้องดูแล จะนำซากไว้เป็นกรณีศึกษาของนิสิตสัตว์แพทย์ และจัดพิธีทำบุญให้เต่าออมสินด้วย พร้อมกับระดมจัดหาเงินเข้ากองทุนช่วยวิจัยสัตว์น้ำ ซื้อกล้องส่องเอนโดสโครป เพื่อช่วยชีวิตสัตว์อื่นๆ
ด้านศาสตราจารย์ สัตว์แพทย์ รุ่งโรจน์ ธนาวงษ์นุเวช คณบดีคณะสัตว์แพทย์ กล่าวว่าขอบคุณทุกคนเป็นกำลังใจเต่าออมสิน ที่มาอยู่กับรพ.สัตว์แพทย์จุฬาฯ เป็นปรากฎการณ์ให้นานาชาติ ได้รับรู้การโยนเหรียญให้สัตว์อื่นๆก่อให้เกิดผลกระทบ ถือเป็นวิกฤติที่ช่วยลดปัญหานี้ในอนาคต ซึ่งการผ่าตัดวันที่ 6 มี.ค. เอาเหรียญออกมาจำนวนมาก จนเต่าฟื้นตัวดีมาก ว่ายน้ำได้กินได้ ต่อจากนั้นมีการซึมป่วยจึงผ่าตัดเพิ่มเติมรอบสอง ตรงนี้ตรงนี้ต้องขอบคุณเต่าออมสิน ทำให้สังคมเริ่มตระหนักรับรู้ว่าการโยนเหรียญทำร้ายสัตส์ ทำให้คนเปลี่ยนพฤติกรรม เห็นทุกชีวิตมีคุณค่า จุดที่สำคัญเต่าออมสินที่เป็นเต่าตนุได้สอนเราว่าไม่ควรเอาสัตว์มาขังไว้ ระลึกถึงเต่าออมสินกันตลอดไป ซี่งการตายมาอาการโลหิตเป็นพิษ จากโลหะหนักที่ทำให้เต่าออมสินเสียชีวิต รวมถึงภาวะแทรกซ้อนร่างกายอ่อนแอด้วย
ด้านรองศาสตราจารย์ สัตว์แพทย์หญิง ดร.นันทริกา ซันซื่อ ผอ.ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ กล่าวว่าไม่ได้นึกว่าวันนี้มาคุยกันเรื่องแบบนี้ จริงจะพาไปสัตหีบ ไปว่ายน้ำต่อ หลังผ่าตัด เพราะออมาสินมีพัฒนาการที่ดีมาก ได้ใช้ช่วงชีวิตที่เหลือของเขาว่ายน้ำได้กินอาหารได้ จึงเกิดผ่าตัดครั้งสอง พบนิเกลโลหะหนักในกระแสเลือด กดภูมิคุ้มกันตัวเองทั้งหมด ค่าของตับ ไต มีปัญหาหมด จนกระทั่ง เมื่อช่วงเช้าออมสินค่อยๆไปอย่างสงบ ให้ยากระตุ้นครั้งสุดท้ายไม่ตอบสนองแล้ว จากนี้จะให้ภาควิชาพญาธิผ่าพิสูจน์อีกครั้ง เป็นบทเรียน เวลากินสิ่งแปลกปลอมเข้าไปกระทบมาก ซึ่งมีอาการปวดท้องมาเป็นเวลาหลายปีไม่สามารถว่ายน้ำได้ ส่วนเต่าหรือสัตว์ที่อยู่ตามสวนสัตว์ ตามวัด ถือว่ามีเจ้าของ เรายินดีช่วยดูช่วยรักษาให้ มีครื่องเอ็กเรย์ไปตรวจได้
"เรื่องออมสินอยากให้เป็นครั้งสุดท้าย ทุกคนเข้าใจได้ สิ่งที่คาดไม่ถึง สัตว์ไปอยู่ในบ่อคนโยนเหรียญเพื่อทำบุญ เป็นการเราทำร้ายเขาโดยไม่ตั้งใจทุกคนเปลี่ยนพฤติกรรม บอกคนข้างๆอย่าทำ ส่วนการทำบุญให้ออมสิน เพราะทุกคนในศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ เห็นออมสินเป็นเหมือนญาติเพื่อนคนหนึ่ง เราเสียไป ไปทำบุญวัดปทุมวนาราม เพราะเต่าออมสินทุกอย่างสอนเรา ในชาติถ้ามีจริงเกิดมามีชีวิตที่ดีกว่านี้ ทำบุญให้สัตว์อื่นๆด้วย "ดร.นันทริกา กล่าว
ดร.นันทริกา กล่าวว่าสำหรับการผ่าตัดไม่ใช้เอาสิ่งอุดตันแล้วจะหายปกติแต่เต่าออมสิน ไม่ได้กินอาหารธรรมชาติมานาน ร่างกายอ่อนแอขาดสารอาหารด้วย รวมทั้งภาวะความเครียด อยู่กับสัตว์จำนวนมาก ในที่แคบ การกินเหรียญเข้าไปอาจเกิดจากความเบื่อ หาอะไรแทะเล่น อย่างไรก็ทำให้เต่าออมสินมีความสุขช่วงสุดท้ายได้กินปกติและว่ายน้ำปกติ เรามีความผุกพันกันมาก เป็นบทเรียนพฤติกรรมในสังคมเลิกใช้สัตว์เป็นอุปรกรณ์ในการทำบุญ ช่วยกันเปลี่ยนสังคมเป็นมิตรกับสัตว์ อยู่กับธรรมชาติโดยสวัสดิภาพที่ดีด้วย
ระหว่างนั้น สัตว์แพทย์หญิงนันทริกา ร้องไห้ จนบางช่วงไม่สามารถแถลงข่าวได้ และต้องเดินลุกจากเวทีแถลงข่าวไปซับหน้าสักพักและกลับมาร่วมเวทีต่อ
ผู้ช่วยศาสตรจารย์ นายสัตว์แพทย์ ภาสกร พฤกษะวัน อ.ภาควิชาศัลยศาสตร์ กล่าวว่าหลังผ่าตัดช่องท้องมีพื้นที่ว่างมาก ทำให้ตัวลำไส้ มีโอกาสบิดหมุนตัวมากผิดปกติ จึงทำให้เรื่องไม่คาดฝัน พวกลำไส้เกิดการบิดตัว ทำให้ผ่าตัดครั้งที่สอง ไม่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้
นายสัตว์แพทย์ นิพนธ์ สิริลดากุล สัตว์แพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์เล็กกล่าวว่าการผ่าตัดรอบสองเพราะมีแก็สในลำไส้เล็กเยอะมาก ผ่าเปิดระบายแก๊ส และมีอาการบิดสองรอบ ขยายไม่เท่ากัน ตรงขั้วลำไส้ ทำการบิดคืนไม่ปกติ ยังพบน้ำในช่องท้องมาก เพราะลำไส้ทำหน้าที่ไม่ได้