ช็อก! ชาวออสซี่เปลี่ยนพฤติกรรม ฉกสินค้ากันมากขึ้น

หน่วยงานเฝ้าระวังการแข่งขันและสหภาพการค้าแห่งออสเตรเลีย (Australia Council of Trade Unions) หรือ ACTU ระบุว่า ชาวออสเตรเลียกำลังเผชิญปัญหาปากท้องท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ เมื่อตลาดที่มีผู้เล่น 2 ราย คือ 2 ซูเปอร์มาร์เก็ตดัง "โคลส์" (Coles) กับ "วูลเวิร์ธส์" (Woolworths) พากันปรับราคาที่ "สูงเกินไป" และไม่มีแรงจูงใจให้ลดราคา เพราะแทบไม่มีการแข่งขันกันเลย นำไปสู่พฤติกรรมการ "ฉก" สินค้าถ้ามีโอกาส

ชาวเมืองซิดนีย์คนหนึ่งยอมรับว่าขโมยนม ผัก และบิสกิตช็อกโกแลตยอดนิยม "ทิม แทมส์" ( Tim Tams) ที่ได้รับสมญาว่า "ขนมแห่งชาติ" เมื่อ 3 ปีก่อน เขาบอกด้วยว่าแม้กระทั่งถุงชอปปิงที่เขาพก ก็ยังเป็นตัววัดความเข้มงวดในการจับจ่าย เพราะมันจะจำกัดการซื้อของเขาไว้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนพนักงานบริษัทคนหนึ่งบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจขโมย แต่ถ้าสบโอกาสก็จะไม่ลังเลที่จะหยิบสินค้าใส่ถุงชอปปิงรีไซเคิลที่พกติดตัว

พฤติกรรมการฉกของเริ่มหลังสิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 เมื่อราคาสินค้าพากันปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่สิ่งจำเป็นอย่างอื่น รวมทั้งพลังงานก็ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดวิกฤตในการดำรงชีวิต และแม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแต่ราคาสินค้าก็ยังไม่ยอมลดลง สร้างความไม่พอใจให้สาธารณชน โดยเฉพาะการ "รวมหัว" กันขึ้นราคาของซูเปอร์มาร์เก็ตที่ครองตลาด 2 ใน 3 ของประเทศ และต่างก็ทำกำไรมหาศาลกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เมื่อปีที่แล้ว



การผูกขาดยังลามไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่อื่น ๆ เช่น ธนาคารและสายการบิน ที่มีอำนาจทางการตลาดมากเกินไป ทำให้รัฐบาลต้องขยับด้วยการประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่า ได้มอบหมายให้คณะกรรมการการแข่งขันและผู้บริโภคแห่งออสเตรเลีย ( Australian Competition and Consumer Commission) เข้าไปตรวจสอบการแข่งขันและราคาในภาคซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อดำเนินการสืบสวนต่อไป

ความรู้สึกของผู้บริโภคทั่วไปในเวลานี้คือ การถูกขูดรีด รู้สึกเหมือนถูกหลอกเมื่อเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต และแม้จะเกิดกระแสไม่พอใจรุนแรง แต่ก็ไม่มีใครคิดว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายมาเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ เมื่อไม่มีใครช่วย หลายคนก็คิดง่าย ๆ ว่า การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการ "ขโมย"