นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ วัย 52 ปี แถลงทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติในวันจันทร์ (29 เมษายน 2567) ว่า เขาตัดสินใจแล้วว่าจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป และจะเป็นผู้นำของรัฐบาลที่มีกำลังเข้มแข็งยิ่งขึ้น เขาบอกด้วยว่า การตัดสินใจนี้เป็นเพราะได้รับกำลังใจจากการแสดงพลังสนับสนุนอย่างกว้างของประชาชนที่ออกมาชุมนุมช่วงสุดสัปดาห์
ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาสร้างความตกใจแก่คนทั้งประเทศจากการโพสต์จดหมายเปิดผนึกผ่านทาง X ที่ระบุว่า เขาต้องการพักงานจนถึงวันจันทร์เพื่อขอเวลาทบทวนว่าสมควรปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อหรือไม่ หลังจากมีข่าวว่าศาลเปิดการสอบสวนข้อกล่าวหาว่า เบโกนา โกเมซ ภริยาของเขาใช้อิทธิพลก้าวก่ายและทุจริตคอร์รัปชัน
แต่ในช่วงการแถลงเขาบอกว่า ภรรยาและเขารู้ดีว่า การใส่ร้ายป้ายสีจะยังคงไม่สิ้นสุด หลังจากพวกเขาเผชิญเรื่องเหล่านี้มา 10 ปีแล้ว พร้อมกับยืนยันว่า พวกเขาจะสามารถเอาชนะได้ในที่สุด เขากล่าวโทษด้วยว่า พรรคฝ่ายค้าน ได้แก่ พรรคป็อปปูลาร์ และพรรคว็อกซ์ มีส่วนแพร่กระจายข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล
ขณะที่มีรายงานว่า มีผู้สนับสนุนของนายกรัฐมนตรีซานเชซประมาณ 12,500 คนออกมาชุมนุมในวันเสาร์ และอีก 5,000 คนในวันอาทิตย์ เพื่อเรียกร้องว่าอย่าลาออก พร้อมกับให้กำลังใจให้เขาดำรงตำแหน่งต่อไป
อย่างไรก็ตามการเลือกดำรงตำแหน่งต่อไปก็มีเสียงทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยจากประชาชนในกรุงมาดริด โดยคนหนึ่ง บอกว่า ดีแล้วที่เขาไม่ลาออก เพราะประเทศยังไม่ต้องการการเลือกตั้งใหม่หรือเปลี่ยนรัฐบาลในเวลานี้ แต่อีกคน บอกว่า ไม่แปลกใจ ก็แค่ละครฉากหนึ่ง อีกคนบอกด้วยว่า เหมือนเป็นการโกงประเทศ เป็นกลยุทธ์ในการปกปิดคอร์รัปชัน เป็นการสร้างกระแสว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อ เพื่อหวังเรียกคะแนนเสียงในการเลือกตั้งที่แคว้นกาตาลุญญาที่จะจัดขึ้นในวันที่ 12 พฤษภาคม จึงถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างร้ายแรงมาก ๆ
ซานเชซเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2561 หลังชนะการลงมติไม่ไว้วางใจโค่นล้มมาเรียโน ราฮอย และเขานำพรรคสังคมนิยม (PSOE) ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤศจิกายน 2562 แต่ไม่สามารถครองเสียงข้างมาก ทำให้ต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม และต่อมาเขาเลือกจัดเลือกตั้งก่อนกำหนดในเดือนพฤษภาคม 2566 หลังพรรคพ่ายแพ้อย่างหนักในการเลือกตั้งระดับภูมิภาคและท้องถิ่น สุดท้ายเขาสามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่และเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มีวาระ 4 ปี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566