อควาเรียมสงขลา อนุสรณ์สถานทุจริต  | สืบสวนความจริง | 28 ต.ค. 66 | PART 3

 อควาเรียมสงขลา อนุสรณ์สถานทุจริต 

การตรวจสอบการทุจริตโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือ “อควาเรียมหอยสังข์”ที่ จ.สงขลาที่ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 1,400ล้านบาทปัจจุบันถูกทิ้งร้างกลายเป็นอนุสรณ์สถานแห่งการทุจริตที่ชาวสงขลาจี้ให้เร่งเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี ติดตามจากรายงานคุณสุพิชฌาย์ รัตนะ ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี

“ศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา” หรือ “อควาเรียมหอยสังข์” ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นริมฝั่งทะเลสาบสงขลา เนื้อที่ราว70ไร่ตั้งอยู่ภายในวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ ต.พะวง อ.เมือง สงขลา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)  ทำเลที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของสงขลา อยู่ไม่ไกลจากสะพานติณสูลานนท์ที่ใช้งบประมาณไปแล้ว 1,400ล้านบาทถูกทิ้งร้างมานานกว่า  14 ปี กลายเป็น“อนุสรณ์สถานแห่งการทุจริต”ที่สร้างความอัปยศให้กับคนสงขลา 

 “ศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา” ถูกออกแบบให้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามโดดเด่นเป็นรูปหอยสังข์ขนาดใหญ่  ขึ้นชื่อว่าเป็น “อควาเรียมหอยสังข์” ที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  วัตถุประสงค์หลักของโครงการ..จะเป็นสถานที่จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ พันธุ์ไม้น้ำ และการเพาะขยายพันธุ์ที่มีความทันสมัย เป็นสถานที่ศึกษาวิจัย และจำลองระบบนิเวศทะเลสาบสงขลาเพื่อการเรียนรู้ควบคู่การท่องเที่ยว  ภายในอาคารครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ล้ำสมัย ทั้งห้องภาพยนตร์ ส่วนจัดแสดงตู้ปลาขนาดเล็กและขนาดใหญ่จำนวน 50ตู้  ตื่นตาตื่นใจอุโมงค์ความยาวขนาด 19 เมตรและ 25 เมตรที่จำลองทะเลสาบสงขลาเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่สิ่งที่กล่าวมานี้...ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

 

สภาพอาคารที่ถูกทิ้งร้าง..ไร้การใช้ประโยชน์ ประตูทางเข้าถูกล็อกกุญแจเอาไว้ ขณะที่ภายในชำรุดทรุดโทรมไม่ต่างกัน ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ  ระบบแอร์ และบันไดเลื่อนปัจจุบันใช้งานไม่ได้  แสงสว่างที่เล็ดลอดเข้ามา..ทำให้จินตการได้ถึงแนวคิดของการใช้ประโยชน์  โดยเฉพาะจุดนี้ทางเข้าอุโมงค์น้ำขนาดใหญ่ 2 อุโมงค์ ที่อยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งาน  

 

ทีมข่าวสืบสวนความจริง ได้เข้าสำรวจอาคารแห่งนี้ พร้อมด้วย “สรรเพชญ บุญญามณี” ส.ส.สงขลา ที่บอกว่ามาตรวจสอบในฐานะตัวแทนคนสงขลาที่ครั้งหนึ่งเคยฝันอยากมาใช้บริการที่รอแล้ว รอเล่า จากวัยเด็ก สู่วัยรุ่น และวัยกลางคน “อควาเรียมแห่งนี้”ไม่มีวี่แววจะสร้างเสร็จ หากสานฝันได้อยากให้คนรุ่นลูกได้มีโอกาสใช้บริการสักครั้งอย่างน้อยๆงบประมาณที่ทุ่มลงไป 1,400 ล้านบาทจะได้ไม่สูญเปล่า
 

ย้อนรอยเส้นทาง “อควาเรียมหอยสังข์สงขลา” พบว่า โครงการนี้มีสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หรือ สอศ. เป็นเจ้าของโครงการที่เสนอให้จัดทำ โดยมีนายบรรหาร ศิลปะอาชา  หัวหน้าพรรคชาติไทยในขณะนั้น ร่วมเป็นประธานที่ปรึกษาโครงการ ฯ โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2551 ระยะเวลา 4ปีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2554 งบประมาณก้อนแรก  835 ล้านบาท

 

 แต่โครงการมีความล่าช้ากว่ากำหนด  และพบว่ามีการขออนุมัติวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 2ครั้ง จำนวน  381 ล้านบาทและ286 ล้านบาท ระหว่าง ปี2558-2561 รวมเป็นเงินงบประมาณก่อสร้างที่ใช้จ่ายไปแล้วกว่า 1,400ล้านบาท นอกจากนี้มีหลักฐานและข้อมูลผู้รับเหมายื่นขอเปลี่ยนแปลงแบบหรือสเปคงานถึง  102 รายการ และที่สำคัญพบว่ามีการแก้สัญญาถึง 6 ครั้งด้วยกันเรื่องนี้จึงมีพิรุธที่ต้องตรวจสอบ

 

จากวันที่เริ่มสร้าง ..นับถอยหลังสู่การถูกทิ้งร้าง ตลอด 14 ก้าวย่าง 15 ปี มีร้อยคนถาม ล้านคนทักเมื่อไหร่จะสร้างเสร็จ และไม่เพียงเท่านั้นเครือข่ายพลเมืองสงขลาเคยลุกขึ้นมาทวงถามอยู่บ่อยครั้ง อย่างเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2565นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในขณะนั้น ได้หารือนายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)และ ตัวแทนภาคประชาชน เพื่อหาทางออกเรื่องนี้ ซึ่งก็ได้ข้อสรุป  6 แนวทาง
คือ 1.ให้สร้างอควาเรียมเหมือนเดิม 2.สร้างอควาเรียม แต่บูรณาการเทคโนโลยีเสมือนจริงเข้าไปด้วย 3.จัดทำเป็นศูนย์ศึกษาพันธุ์พืชและป่าชายเลน 4.จัดทำเป็นศูนย์อบรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 5.โอนให้จังหวัดมาดำเนินการต่อ และ 6.จัดทำเป็นศูนย์แสดงสินค้าและท่องเที่ยวทางน้ำ แต่จนถึงขณะนี้ไม่มีอะไรคืบหน้าเข้าทำนองไฟไหม้ฟางที่ลุกโชนและวูบดับ 
 

การเดินหน้าสาฝัน “ควาเรียมหอยสังข์ “ไม่ว่าจะเลือกแนวทางไหนก็จำต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติ ส่วนข้อกังวลที่ว่าด้วยเรื่องข้อกฎหมายหลังจากปปช.ภาค9แจ้งข้อกล่าวหาบุคคล 27 รายชื่อที่อาจเกี่ยวข้องการทุจริตนั้น ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 9ระบุว่าไม่เป็นอุปสรรคหากจะเดินหน้าโครงการ

การบริหารงานที่ล้มเหลวของโครงการ “อควาเรียมหอยสังข์” สะท้อนมุมมองความผิดพลาดของการกระจายอำนาจและรายได้สู่ท้องถิ่นที่ไร้ประสิทธิภาพ ส่วนกลางคิด ส่วนกลางทำ ส่วนกลางทุจริต แต่พื้นที่เสียหายคือท้องถิ่น จึงไม่ใช่รูปแบบการกระจายอำนาจที่ถูกต้องในมุมมองของนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ถวิลหาการกระจายอำนาจที่แท้จริง

 

“อควาเรียมหอยสังข์” อนุสรณ์สถานการทุจริตที่คนท้องถิ่นสงขลาเฝ้ามองถึงเวลาหรือยัง??ที่จะลบล้างความอัปยศนี้ให้สิ้นไป