
อ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด บนสงครามกระแสอนุรักษ์
กรมชลประทาน ขออนุญาตก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ําคลองวังโตนด ซึ่งเป็น 1 ใน 4 อ่างเก็บน้ำ ประกอบด้วย อ่างคลองประแกด และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำคลองหางแมว อ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2567 โดยอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด ตั้งอยู่หมู่ที่ 11 บ้านวังสัมพันธ์ และหมู่ที่ 18 บ้านคลองยายไท ตําบลขุนซ่อง อําเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี พื้นที่หัวงาน และพื้นที่น้ําท่วม รวม 11,982 ไร่
โครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด มีลักษณะเป็นเขื่อนดิน สูง 25 เมตร ยาว 3,000 เมตร ความจุ 99.50 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่รับน้ำฝน 255 ตร.กม. และมีปริมาณน้ำท่าไหลลงอ่างฯ ในเกณฑ์เฉลี่ย 120 ล้าน ลบ.ม./ปี สามารถพัฒนาเพิ่มพื้นที่ชลประทาน ในลุ่มน้ำวังโตนดได้ 87,700 ไร่ เป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับการอุปโภคและบริโภค ให้กับคนในพื้นที่กว่า 80,000 คน ครอบคลุมพื้นที่อ.แก่งหางแมว อ.ท่าใหม่ และ อ.นายายอาม คิดเป็น 4,116 ครัวเรือน และพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
พื้นที่โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด คือการสร้างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น 6,191 ไร่ และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนซ่อง 5,791 ไร่ ย้อนแย้งกับนโยบายป่าไม้แห่งชาติ 2522 กําหนดให้มีพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศอย่างน้อยร้อยละ 40
การนำพื้นที่ป่าไม้ ไปสร้างอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จะทำให้พื้นที่ป่าลดลงอีกร้อยละ 0.08 ของพื้นที่ป่าที่เหลืออยู่
เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ภาณุเดช เกิดมะลิ สมาคมอุทยานแห่งชาติ และคณะผู้แทนองค์กรเครือข่ายอนุรักษ์ 20 องค์กร ขอให้กรมชลประทาน พิจารณาทบทวนโครงการพัฒนาแหล่งน้ําทุกขนาดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และนโยบายการจัดการน้ํา โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จะส่งผลกระทบป่าดิบชื้น มีความเปราะบางของระบบนิเวศ เป็นการทําลายแหล่งอาศัยของช้างป่า อย่างสิ้นเชิง
การประเมินการสูญเสียพื้นที่ป่าสําคัญ โดยในรายงาน EHIA อธิบายว่า เป็นป่าเบญจพรรณ ข้อเท็จจริงคือสภาพป่าเป็นป่าดิบแล้งที่ราบต่ำ และกําลังเข้าสังคมพืชป่าดิบชื้นที่เหมาะสําหรับเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่ามากที่สุดในภาคตะวันออก
การสร้างอ่างเก็บน้ําภายในอุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น ที่เป็นแหล่งอาศัยของช้างป่า เป็นการทําลายแหล่งอาศัยของช้างป่าอย่างสิ้นเชิง เพิ่มโอกาสช้างป่า ออกนอกพื้นที่ป่ามากยิ่งขึ้น ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแนวทางการแก้ปัญหาคนกับช้างป่า
แม้หลายหน่วยงานออกมาต่อต้านการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด แต่ก็ดูเหมือนว่าแรงขับเคลื่อนอาจยังไม่เพียงพอต่อความต้องการทางเศรฐกิจ
สิ่งแวดล้อมเป็นต้นทุนตามธรรมชาติที่ทุกคนได้รับโดยไม่ต้องแปรรูปเป็นเงิน ถ้าเราใช้ป่าที่เป็นที่เก็บความอุดมสมบูรณ์ไปแล้ว เราจะไปหาความอุดมสมบูรณ์ได้จากที่ไหน
นี่อาจเป็นสงครามระหว่างนักอนุรักษ์กับรัฐบาล ที่ต้องจับตาดูว่าจะจบลงอย่างไร