
ปิดตำนาน "เนเน่โมเดลลิ่ง" เครือข่ายแพร่ภาพลามกเด็กแหล่งใหญ่ของโลก
ย้อนกลับไปปี 2560 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับข้อมูลจากตำรวจสากล หรือ Interpol ว่าภายใต้ปฏิบัติการ Black Wrist พบภาพลามกอนาจารเด็กในประเทศไทย นำมาสู่การบูรณาการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวบรวมพยานหลักฐาน เสนอเป็นคดีพิเศษที่ 77/2563
ดีเอสไอ สืบสวนขยายผลจนพบว่า ดนุเดช แสงแก้ว หรือในวงการจัดหานักแสดงรู้จักในชื่อ เนเน่โมเดลลิ่ง ได้ชื่อว่ามีชื่อเสียงของประเทศไทย ในการรับจัดหานักแสดง และนายแบบเด็กให้กับภาพยนตร์ โฆษณา ละคร หรือรายการโทรทัศน์ มีนักแสดงเด็กในสังกัดจำนวนมาก ดีเอสไอ มีหลักฐานว่า คนๆ นี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ภาพลามกอนาจาร ที่พบในปฏิบัติการ Black Wrist
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวว่า เริ่มตั้งแต่ปี 2560 ทางตำรวจสากลประสานมาทางกรมสอบสวนคดีพิเศษว่ามีกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ล่อลวงเด็ก เพื่อนำภาพลามกอนาจารไปแพร่หลายผ่านโซเชียล มีกลุ่มบุคคลเกี่ยวข้องจำนวนมาก และกระจายไปในต่างประเทศรวมถึงประเทศไทย ทางดีเอสไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจค้นเบื้องต้น พบเว็บไซด์มีจำนวนสมาชิกกว่า 65,000 ราย ดีเอสไอประสานตำรวจออสเตเรียดำเนินการเข้าตรวจค้น จนทำให้ทราบว่ากลุ่มบุคคลที่ล่วงละเมิดเด็ก คือเนเน่ ที่ปรากฎเป็นข่าว
ดนุเดช แสงแก้ว หรือ เนเน่ ถูกจับกุมเมื่อ 11 ก.พ.2564 ที่บ้านพัก ซึ่งใช้เป็นสำนักงานเนเน่โมเดลลิ่ง ดีเอสไอ แจ้งข้อหานำภาพลามากเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และอีกหลายข้อหา จากการขยายผลสืบสวน และจับกุมในครั้งนี้ พบคลังภาพลามกอนาจารเด็กมากกว่า 500,000 ไฟล์ภาพ นับว่าเป็นการได้มาซึ่งภาพลามกอนาจารเด็กที่มากที่สุด และเกี่ยวพันกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กจำนวนหลายพันราย
ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กล่าวว่า ดีเอสไอทำงานเกี่ยวกับคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กโดยใช้สื่อออนไลน์มาประมาณ 16 ถึง 17 ปีที่ผ่านมาในคดีนี้เป็นคดีที่มีกรอบความร่วมมือที่มากที่สุดมีหน่วยงานที่มาร่วมแรงร่วมใจกันในการที่จะสนับสนุนการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากที่สุดเท่าที่ผ่านมาในระยะเวลา 16-17 ปีที่ดีเอสไอเข้ามามีบทบาทในการทำงานด้านนี้
หนึ่งในนั้นก็จะมีภาพภาพหนึ่ง ซึ่งเด็กลักษณะเล่นคอมพิวเตอร์ภาพส่อไปในทางลามกอนาจารเด็กเราจึงมาสืบต่อว่าภาพนี้อยู่ตรงไหนของประเทศไทย จนมีภาพที่น้องใส่ชุดนักเรียนเราจึงระบุได้ว่าน้องอยู่แถวไหน จนกระทั่งมีการจับกุมผู้กระทำความผิด ผู้กระทำความผิดสารภาพว่าสถานที่ที่ใช้ในการถ่ายรูปอยู่ที่เนเน่โมเดลลิง เด็กถูกชักชวนให้เข้าสู่วงการบันเทิงทักใน Facebook Instagram หรือแพลตฟอร์มต่างๆซึ่งคุณพ่อคุณแม่เราต้องยอมรับว่าผู้ปกครองบางท่าน มีความนิยมที่จะอยากที่จะนำภาพลูกที่น่ารักนำเสนอผ่านสื่อสาธารณะต่างๆคนร้ายใช้ช่องทางนี้ในการติดต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง
ปิดตำนานเนเน่โมเดลิ่ง ล่าสุดศาลพิพากษาจำคุก 121 ปี 223 เดือน ชดใช้เงิน 2,100,000 บาท คดี ดนุเดช แสงแก้ว ผู้ประกอบการ เนเน่โมเดลิ่ง ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และพบรูปภาพอนาจารกว่า 500,000 ไฟล์ภาพ ภายใต้การบูรณาการร่วมกันระหว่างไทยและต่างประเทศ
12 กรกฎาคม 2566 ศาลอาญา พิพากษาว่า ดนุเดช แสงแก้ว มีความผิดรวม 60 กระทง ในความผิดฐานพรากและพาเด็กไปเพื่อการอนาจาร กระทำอนาจาร ชำเรา และพยายามกระทำชำเราเด็ก ครอบครองและส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็ก นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งสื่อลามกอนาจาร จำเลยให้การรับสารภาพ ลดเหลือโทษจำคุก รวม 121 ปี 223 เดือน โทษจำคุกให้รับโทษไม่เกินอัตราตามมาตรา 91 ประมวลกฎหมายอาญา พิพากษาจำคุกไม่เกิน 50 ปี
ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กล่าวว่า ถามว่าทำไมเด็กไม่เล่าให้ใครฟัง พวกนี้มีจิตวิทยาในการกล่อม ในความที่อายุยังน้อยยังไม่ถึงวัยที่จะเรียนรู้เรื่องราวการมีเพศสัมพันธ์เด็กเข้าใจว่านั่นคือสิ่งที่ไม่ผิดจริยธรรมไม่ได้เป็นสิ่งผิดกฏหมายโดยเขาใช้วิธีเปิดวิดีโอคลิปลามกอนาจารให้เด็กดูแลเด็กทำตาม นอกจากสาธารณะแล้วไปเดินตามที่ต่างๆสาธารณะเอานำบัตรไปแจกตามตลาดนัด ผู้ปกครองหลงเชื่อคิดว่านำพาลูกหลานเข้าสู่วงการบันเทิงได้ สุดท้ายเค้าก็เอาจังหวะที่ไว้เนื้อเชื่อใจกูมิ่งเด็กสำเร็จนำมาสู่การที่เด็กถูกละเมิดทางเพศ ไว้เฉลี่ยที่เนโมเดลลิงล่วงละเมิดทางเพศอยู่ที่ประมาณอนุบาลกำลังก้าวเข้าสู่ระดับประถมต้น
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวว่า ภาพลักษ์ของประเทศไทย ทั่วโลกจับตามองประเทศไทยใช้เด็กเป็นเครื่องมือสนองความต้องการทางเพศ ประเทศไทยเป็นประเทศที่ยังไม่เจริญ
การล่วงละเมิดส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กที่ถูกละเมิดเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาต่อไปได้ ทำให้เด็กอับอายและไม่กล้าสู้หน้าใคร และร้ายแรงที่สุดอาจเกิดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ตามมา
นอกจากการบังคับใช้กฎหมายด้วยการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีโครงการ Keep Eyes On ซึ่งร่วมกับ Human Mass สถานศึกษาในกระทรวงศึกษาธิการ และสมาชิกเครือข่าย DSI Station ซึ่งจะเป็นการทำงานในอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยดูแล ป้องกัน มิให้เกิดการละเมิดทางเพศเด็กในอนาคต
ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กล่าวว่า นวัตกรรมนอกจากในเรื่องของการไปสืบจับการไปสืบสวนจับกุม จับยังไงเจ้าหน้าที่ก็ไม่พอในการทำงาน สถิติตั้งแต่ 2019 จนถึงปัจจุบันข้อมูลจากศูนย์ป้องกันปราบปรามในเรื่องละเมิดทางเพศเด็กแห่งชาติแพลตฟอร์มสหรัฐ ยอดการพบเคสละเมิดอนาจารเด็กตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปัจจุบันประมาณ 68% สูงขึ้นมา โควิดอาจเป็นปัจจัยหนึ่ง
ดีเอสไอมีโครงการป้องกัน โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการป้องกัน เด็กในการใช้อินเทอร์เน็ต
ปัจจัยที่จะเกิดเหตุลักษณะแบบนี้มี 3 อย่าง หนึ่งคือตัวเด็กเอง สองสิ่งแวดล้อม Keep Eyes On จะเข้ามาเป็นวัควีนป้องกัน และสามความสามารถของคนร้าย เราเป็นการเพิ่มวัคซีนให้เด็กในการป้องกัน โดยพ่อแม่ผู้ปกครองเอาวัคซีนไปใส่โดยไม่ต้องฉีดยา