Nation Crime เปิดโปงขบวนการ "อุ้มบุญ" 1

Q1 รพีพรรณ : สวัสดีค่ะ มาพบกับรายการที่จะพาทุกท่านไปไขทุกข้อสงสัย เปิดโปงทุกปมคดี ค้นหาความจริง สอดแทรกข้อมูลสืบสวนสอบสวนเชิงลึกพร้อมร่วมเฝ้าระวังและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับสังคม กับ  NATION CRIME   Q2 ต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ตำรวจได้บุกทลายอาคาร 5 ชั้น ย่านถนนสีลม ซึ่งเป็นย่านธุรกิจสำคัญในเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร หลังจากขยายผลกรณีชายชาวจีนสวมบัตรประจำตัวคนที่ไม่มีสัญชาติไทย พบว่าภายในมีการแบ่งซอยเป็นห้องพัก มีอุปกรณ์ไว้สำหรับดูแลหญิงไทยที่รับอุ้มบุญให้กับชาวจีน และที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นคือ พบบุคคลต่างด้าวอีก 7 ราย กรณีนี้ถือเป็นเคสล่าสุด   Q3 แต่ก่อนหน้านี้ตำรวจก็เคยบุกจับขบวนการอุ้มบุญมาแล้วหลายราย มากกว่านั้น ยังพบอีกว่าปัจจุบันขบวนการนี้มีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป มีการรับสมัครแม่อุ้มบุญทางโซเชียลมีเดียกันอย่างโจ๋งครึ่ม หรือแม้กระทั่งบางหมู่บ้านรับทำกันเป็นอาชีพ

VO1 นี่คือคำยืนยันของน้ำหวาน หญิงอุ้มบุญ วัยเพียง 34 ปี เธอยอมรับว่า ตัวเองรับอุ้มท้องให้กับชาวจีน เพราะไม่มีเงินเลี้ยงดูครอบครัวและลูกอีก 2 คน กับภาระที่ต้องใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่ทุกวันนี้เธอเสมือนเป็นเสาหลักของครอบครัว//   VO2 น้ำหวาน เล่าย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีเพื่อนที่รู้จักกันโพสต์เฟซบุ๊ก รับอุ้มท้องให้ชาวต่างชาติ ซึ่งมีรายได้ดี เธอจึงติดต่อไปที่เอเจนซี่ โดยคุณสมบัติหญิงที่จะรับอุ้มท้อง จะต้องเคยผ่านการอุ้มท้องมาแล้ว และสุขภาพต้องแข็งแรงสมบูรณ์ ถ้าตรวจร่างกายไม่ผ่านก็ไม่สามารถทำได้ เมื่อเธอตกลง เอเจนซี่ จะทำหน้าที่ทั้งประสานงาน และพาเธอไปฝังตัวอ่อนที่ประเทศจีน // VO3 น้ำหวาน บอกว่า เอเจนซี่จะให้เลือกว่าต้องการจะฝังตัวอ่อนในมดลูกที่ประเทศไหน //รวมถึงการใช้ชีวิตระหว่างตั้งครรภ์ //และการคลอดบุตร มีทั้งประเทศไทย จีน หรือกัมพูชา แต่เธอเลือกที่จะฝังตัวอ่อนในจีน และมาใช้ชีวิต และคลอดลูกในไทย ซึ่งอาจจะแตกต่างจากแม่อุ้มบุญบางคนที่เลือกคลอดในต่างประเทศ เพราะจะได้ไม่มีประวัติเคยผ่านการมีบุตรมาแล้ว   VO4 ส่วนสนนราคาอุ้มท้องจะมีให้เลือกว่า ถ้าเป็นเด็กคนเดียว จะได้เงินประมาณ 4 แสนบาท แต่ถ้าเป็นเด็กแฝดจะอยู่ที่ 5 แสนบาท เธอจึงเลือกตั้งท้องเด็กแฝด โดยเอเจนซี่ จะทยอยจ่ายเงินให้ตั้งแต่การฝังตัวอ่อนครั้งแรก และจ่ายรายเดือนให้ เดือนละ 2 หมื่นบาท และค่านมเพื่อบำรุงครรภ์อีกเดือนละ1000 บาท เป็นเวลาทั้งหมด 9 เดือนระหว่างที่ตั้งครรภ์ และเมื่อคลอดเด็กเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้เงินที่เหลือรวมแล้วเกือบ 2 แสนบาท โดยที่เราไม่สามารถจับเนื้อตัวเด็กได้เลยตั้งแต่คลอดออกมาลืมตาดูโลก เพราะกลัวเกิดความผูกพัน จะได้ดูหน้าเด็กเพียงแค่ภาพถ่ายเท่านั้น// VO5 หญิงอุ้มบุญคนนี้ เล่าต่อว่า คนที่มาจ้างอุ้มบุญเป็นชายรักชายชาวจีนที่อยากมีลูก แต่มีไม่ได้ จึงมาจ้างอุ้มบุญในไทยซึ่งมีราคาถูกกว่าประเทศเขาหลายเท่าตัว //เธอเองเคยพบผู้ว่าจ้าง ตอนพาเด็กไปฉีดวัคซีน เขาบอกว่าอยากมีลูกจริงๆ ดูแล้วเขารักลูกแฝดที่เธอตั้งท้องมาก ซึ่งอาจจะแตกต่างจากเพื่อนบางคนที่อุ้มท้องแล้วเด็กเกิดไม่สมบูรณ์ก็ทิ้งให้แม่อุ้มบุญเป็นภาระ จะเรียกร้องอะไรก็ไม่ได้ เพราะรู้ว่าสิ่งที่ทำผิดกฎหมาย//   VO6 5 พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว และตำรวจ เข้าช่วยเหลือเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญผิดกฎหมาย ที่ถูกนำมาฝากเลี้ยงไว้กับกลุ่มบุคคลในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพฯ พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย จากการขยายผลคดีขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทย เพื่อรับจ้างอุ้มบุญให้กับผู้ว่าจ้างชาวต่างชาติที่มีลักษณะองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในจังหวัดหนองคาย //   VO7 เมื่อ Nation Criam ตรวจสอบข้อมูลขณะที่ในโซเชียลมีเดีย ก็พบว่ามีการรับทำอุ้มบุญ และเสนอราคาให้กับผู้ที่สนใจอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะแตกต่างจากในอดีตที่โซเชียลยังไม่ได้เริ่มใช้งาน ก็ทำให้คนที่รับทำส่วนใหญ่จะเปิดเป็นคลินิกเถื่อน อย่างที่ตำรวจ และสาธารณะสุขเคยบุกเข้าไปทลายมาแล้วหลายแห่ง// Q4 รพีพรรณ : ทั้งหมดนี้คือเสียงสะท้อนของผู้ที่เคยรับจ้างอุ้มท้อง โดยที่เธอไม่มีทางเลือกในชีวิต จึงตัดสินใจยอมทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ช่วงหน้าเนชั่นไครมจะพาคุณผู้ชมไปเปิดโปงขบวนการอุ้มบุญในไทยว่าเขาทำกันอย่างไร ก่อนถูกตำรวจจับกุมตัว