
รพีพรรณ : ในขณะที่การสืบสวนทางวิทยาศาสตร์พบศพ เจนจิราแล้ว ที่เหลือคือสถานที่ลงมือ “เสริม ชีวิตบนโลกนี้ กับชีวิตอันเป็นนิรันดร์กับพระเจ้า อันไหนทรงคุณค่ากว่ากัน การที่เสริมโกหกอยู่ตลอด เพื่อเอาตัวรอดในชีวิตนี้ และพกพาวิญญาณอันไม่บริสุทธิ์ไป เสริมคิดว่าจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตนิรันดร์กับพระองค์หรือ” คำพูดขัดเกลาทางศาสนา ยังพอทำให้ เสริม รู้สึกผิดอยู่บ้าง และเป็นที่มาของคำรับสารภาพสถานที่จริงในการฆ่าและชำแหละศพ เจนจิรา คือห้องพักของเสริมนั้นเอง หลังเกิดเหตุ ทุกคนได้พยายามวิเคราะห์บุคลิกภาพของเสริม ว่ามีการอาการป่วยทางจิตเวช แต่ก็ไม่ได้รับการยืนยัน แต่สิ่งที่ทุกคนพูดเหมือนกันคือพฤติกรรมที่ก่อเหตุมาจาก การหึงหวง โกรธ จึงตัดสินใจฆาตกรรมเพียงชั่ววูบ แต่การทำลายศพเป็นเพียงการทำลายหลักฐานเท่านั้น เสริมถูก ศาลจำคุกตลอดชีวิต ได้รับการอภัยโทษ 5 ครั้ง ปัจจุบัน เสริมพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2555 รวมจำคุก13ปี9เดือน ต่อมามีการเปลี่ยนชื่อ นามสกุล เพื่อเข้าสมัครสมาชิก เนติบัณฑิต หลังเรียนจบ นิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่คณะกรรมการสภาเนติบัณฑิต มีมติเอกฉันท์ไม่รับ เนื่องจากตรวจพบว่ามีประวัติ ก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญเป็นที่ทราบกันอยู่ทั่วไป ขณะนี้เสริมยังคงใช้ชีวิตแบบสงบ ไม่ขอออกสื่อใด แต่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ ก่อนพ้นโทษถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ที่ลงมือก่อเหตุในวันนั้นเพราะโกรธ และเชื่อว่าเขาถูกหักหลัง แต่หลังยิงไปแล้วกลับรู้สึกกลัว ในความเป็นจริงไม่ได้อยากชำแหละศพ สงสาร อย่าคิดว่ามันรู้สึกดีที่ต้องชำแหละร่างคนรัก คนที่อยู่มาด้วยกัน แต่มันจำเป็น หลังจากที่ตำรวจเข้ามาทำคดี ทำใจไว้แล้ว
ว่าคงถูกจับกุมเข้าสักวัน การที่เรียนนิติศาสตร์ เพราะอยากช่วยเหลือคนที่ไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย จากการที่เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ทำให้รู้ว่าบางคนไม่ได้ผิด แค่ไม่รู้กฎหมายเท่านั้น ความหวังสุดท้ายคิดว่าอยากออกไปเจอแม่สักครั้ง ในช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าเขาอาจจะไม่ยอมรับ เพราะผมทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ส่วนตัวยังศรัทธาในความรัก แต่ที่เราเจออาจจะไม่ได้สวยงาม และหวังมาสักวันจะเจอกับความรักที่งดงาม ส่วนเรื่องที่ผ่านมา/เพียงอารมณ์ชั่ววูบที่ทำให้ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ส่วนครอบครัวเจนจิรา ผมต้องขอโทษจริงๆที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องสูญเสียผู้ซึ่งเป็นที่รัก ผมเสียใจและกำลังรับผลกรรมของมันอยู่ มาถึงตรงนี้หลายคนคงตั้งคำถามว่า บทลงโทษที่เสริม ได้รับมันสมควรกับความเจ็บปวด บาดแผลในใจของญาติเจนจิรา หรือไม่ ที่ต้องสูญเสียแก้วตาดวงใจไปตลอดชีวิต การออกมาใช้ชีวิตสังคมภายนอกของเสริม สาครราษฎร์ เขาจะได้รับโอกาส จะอยู่ร่วมกับสังคมไปในทิศทางใด ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้เลย