
รพีพรรณ: สวัสดีค่ะ มาพบกับรายการที่จะพาทุกท่านไปไขทุกข้อสงสัย เปิดโปงทุกปมคดี ค้นหาความจริง สอดแทรกข้อมูลสืบสวนสอบสวนเชิงลึก พร้อมร่วมเฝ้าระวังและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับสังคม กับ NATION CRIME
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 26 ปีที่แล้วหรือช่วงปี 2541 กับคดีฆาตกรรมที่สะเทือนวงการนักศึกษาชุดกราวน์ เมื่อนักศึกษาแพทย์ชาย ปี 2 สังหารนักศึกษาแพทย์หญิง ปี 5 ก่อนชำแหละร่างเป็นชิ้นๆ ทิ้งบ่อเกรอะภายในหอพัก ย่านเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นข่าวกระฉ่อนทั่วประเทศ ในยุคนั้น สื่อมวลชนติดตามรายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าแทบจะเฝ้าโรงพักกันเลยทีเดียว ในสัปดาห์นี้เราจะพาท่านผู้ชม ย้อนกลับไปพบกับคดีสุดสะเทือนขวัญ ในแวดวงนักศึกษาแพทย์ “เจนจิรา พลอยองุ่นศรี กับ” เสริม สาครราษฎร์” สำหรับ เจนจิรา พลอยองุ่นศรี หรือ ปุ้ย เป็นเด็กสาว อ.สามพราน จ.นครปฐม / ชีวิตครอบครัวของเธออาจจะไม่สมบูรณ์เหมือนกับใครหลายคน /พ่อ-แม่ แยกทางกัน พ่อยังคงประกอบธุรกิจอยู่ในจังหวัดนครปฐม ส่วนแม่ไปประกอบอาชีพอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ความฝันของเด็กสาวคืออยากเป็นแพทย์ อาชีพที่มีคนนับหน้าถือตา แรงผลักดันทำให้สามารถเอ็นทรานซ์ ติดคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตามที่คาดหวังไว้ ในส่วนของ เสริม สาครราษฎร์ เด็กหนุ่มจาก จ.ชลบุรี ครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อ-แม่ ประกอบอาชีพค้าขาย ความใฝ่ฝันคืออยากเป็นวิศวะกรคอมพิวเตอร์ ด้วยความที่พ่อเป็นคนเจ้าระเบียบ เขาถูกส่งไปเรียนที่อัสสัมชัญ ศรีราชา โรงเรียนชายล้วน ด้วยความที่เรียนเก่ง เริ่มสอบเทียบอยู่หลายปี ตั้งแต่อยู่มัธยมศึกษาปีที่ 4 จนกระทั่งเอ็นทรานซ์ได้คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทางภาคใต้ แต่เจ้าตัวไม่ชอบ จึงมุมานะอ่านหนังสื่อและเริ่มสอบเอ็นทรานซ์อีกครั้ง สุดท้ายสมใจ เขาสามารถสอบเข้าได้คณะวิศวกรรม และศึกษาจนจบระดับปริญญาตรี
หลังเกิดเหตุ สื่อ และเจ้าหน้าที่ต่างวิเคราะห์พฤติกรรมของ เสริม ว่าเป็นคนเก็บกด ไม่ค่อยพูดค่อยจาถูกกดดันด้านการเรียน จากครอบครัว พ่ออยากให้เรียนหมอจะได้เป็นหน้าเป็นตาให้กับวงตระกูล แต่ไหนเลยใครจะรู้ว่าสาเหตุที่เสริมตัดสินใจเรียนแพทย์ แท้จริงแล้ว เป็นเพราะหญิงสาวที่ชื่อ เจนจิรา ย้อนกลับไปสมัยที่ เสริม เรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่โรงเรียนที่มีแต่ผู้ชายล้วน ทำให้เขาศรัทธา เลื่อมใส แนวคิดตามศาสนาคริสต์ จนกระทั่งเข้ามาศึกษาระดับปริญญา ในกรุงเทพมหานคร และเข้าร่วมเป็นสมาชิก สภาศริสตจักรย่าน คลองเตย สถานนี้ทำให้เขาได้เจอกับ เจนจิรา ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมในฐานะสมาชิกใหม่ “เขาเคยพูดถึงเรื่องอนาคตของเขา กับเราว่า หากเรียนจบแล้วอยากจะไปอยู่เมืองนอก และอยากมีแฟนเป็นหมอ คือตอนนั้นเราคบกันแบบเพื่อน ยังไม่ได้บอกว่าเราชอบเขา และจากตรงนั้นทำให้เราตัดสินใจเรียนหมอ” นี้คือคำสัมภาษณ์ส่วนหนึ่ง ของ เสริม ในคอลัมน์ HI CLASS ระหว่างที่ต้องโทษอยู่ในเรือนจำ ที่บอกถึงเจตนาเรียนทางด้านแพทย์ เพราะตกหลุมรักหญิงสาวที่ชื่อเจนจิรา จากการที่ทั้งคู่มีนิสัย การใช้ชีวิตที่เหมือนกัน รวมไปถึงสภาพครอบครัว ทำให้ทั้งคู่พูดคุย เข้าใจ และรู้ใจกันและถึงขึ้นไว้ใจ ทำให้ระยะหลัง เจนจิรา มักจะไปพักที่ห้องพักของเสริม สลับกับการกลับบ้านตัวเอง แต่ความผิดปกติเริ่มเกิดขึ้น เริ่มจากเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2541 นางสุดา ปรัชญาภัทร แม่ของ เจนจิรา พลอยองุ่นศรี ได้เข้าพบ พ.ต.ต.วิศาล พันธุ์มณี สว.สส.สน.พญาไท เพื่อแจ้งความว่าลูกสาวของตนเองได้หายตัวไป อย่างน่าสงสัย พร้อมกับรถยนต์โตโยต้า ทะเบียน 8ษ8580 กทม. และทรัพย์สินบางส่วน ผู้ที่น่าสงสัยคือ เสริม สาครราษฎร์ เพื่อนชายคนสนิท ก่อนที่จะมาแจ้งความนางสุดา ได้ไปหา นายเสริม ที่ห้องพัก พร้อมกับขอเข้าไปด้านในห้อง แต่นายเสริม ปฏิเสธอ้างไม่รู้เรื่องการหายตัวไปของลูกสาว และไม่ยอมให้เพื่อนและญาติเข้าไปในห้องพัก จากคำบอกเล่าพบพิรุจในหลายจุด ทำให้เจ้าหน้าที่เรียกเพื่อนของ เจนจิรา รวมถึง นายเสริม เข้าสอบปากคำ จากการสอบปากคำ นายเสริม พบพิรุจหลายจุดก็จริง แต่ เจ้าหน้าที่ยังไม่มีหลักฐาน จำต้องปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยไปก่อน ด้วยสัญชาตญาณ สายสืบ ที่มองว่าเรื่องนี้ผิดปกติ จึงจัดชุดเฝ้าสะกดรอย ดูความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัย แล้วนำมาประมวล ประกอบกับเทคนิคการสอบสวน แบบเข้มข้น สุดท้าย เสริม เริ่มคายข้อมูลยอมรับสารภาพ ช่วงหน้าเราจะพาท่านผู้ชมไปดูการสืบสวน ชนิดพลิกหน้าวงการนิติวิทยาศาสตร์ และพูดคุยกับ แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ในช่วงนั้นลงมาปฏิบัติหน้าที่ในคดีนี้ด้วยตัวเอง