เปิดใจ &quot;เณรแอ&quot; ชายผู้มีฉายาว่า &quot;จอมขมังเวทย์&quot; กับชีวิตหลังออกจากเรือนจำ พร้อมเตือนภัยสังคม เหยื่อความเชื่อและไสยศาสตร์ ติดตามพร้อมกันเนชั่นไครม วันพุธ 15.00 น. เนชั่นทีวี 22

“เณรแอ จอมขมังเวทย์” ปลุกเสกกุมารทอง | Nation Crime

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			Q1 รพีพรรณ : สวัสดีค่ะ มาพบกับรายการที่จะพาทุกท่านไปไขทุกข้อสงสัย เปิดโปงทุกปมคดี ค้นหาความจริง สอดแทรกข้อมูลสืบสวนสอบสวนเชิงลึกพร้อมร่วมเฝ้าระวังและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับสังคม กับ &nbsp;NATION CRIME

			&nbsp;

			Q2 ต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ตำรวจได้บุกทลายอาคาร 5 ชั้น ย่านถนนสีลม ซึ่งเป็นย่านธุรกิจสำคัญในเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร หลังจากขยายผลกรณีชายชาวจีนสวมบัตรประจำตัวคนที่ไม่มีสัญชาติไทย พบว่าภายในมีการแบ่งซอยเป็นห้องพัก มีอุปกรณ์ไว้สำหรับดูแลหญิงไทยที่รับอุ้มบุญให้กับชาวจีน และที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นคือ พบบุคคลต่างด้าวอีก 7 ราย กรณีนี้ถือเป็นเคสล่าสุด 

			&nbsp;

			Q3 แต่ก่อนหน้านี้ตำรวจก็เคยบุกจับขบวนการอุ้มบุญมาแล้วหลายราย มากกว่านั้น ยังพบอีกว่าปัจจุบันขบวนการนี้มีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป มีการรับสมัครแม่อุ้มบุญทางโซเชียลมีเดียกันอย่างโจ๋งครึ่ม หรือแม้กระทั่งบางหมู่บ้านรับทำกันเป็นอาชีพ

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			VO1 นี่คือคำยืนยันของน้ำหวาน หญิงอุ้มบุญ วัยเพียง 34 ปี เธอยอมรับว่า ตัวเองรับอุ้มท้องให้กับชาวจีน เพราะไม่มีเงินเลี้ยงดูครอบครัวและลูกอีก 2 คน กับภาระที่ต้องใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่ทุกวันนี้เธอเสมือนเป็นเสาหลักของครอบครัว//

			&nbsp;

			VO2 น้ำหวาน เล่าย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีเพื่อนที่รู้จักกันโพสต์เฟซบุ๊ก รับอุ้มท้องให้ชาวต่างชาติ ซึ่งมีรายได้ดี เธอจึงติดต่อไปที่เอเจนซี่ โดยคุณสมบัติหญิงที่จะรับอุ้มท้อง จะต้องเคยผ่านการอุ้มท้องมาแล้ว และสุขภาพต้องแข็งแรงสมบูรณ์ ถ้าตรวจร่างกายไม่ผ่านก็ไม่สามารถทำได้ เมื่อเธอตกลง เอเจนซี่ จะทำหน้าที่ทั้งประสานงาน และพาเธอไปฝังตัวอ่อนที่ประเทศจีน //

			VO3 น้ำหวาน บอกว่า เอเจนซี่จะให้เลือกว่าต้องการจะฝังตัวอ่อนในมดลูกที่ประเทศไหน //รวมถึงการใช้ชีวิตระหว่างตั้งครรภ์ //และการคลอดบุตร มีทั้งประเทศไทย จีน หรือกัมพูชา แต่เธอเลือกที่จะฝังตัวอ่อนในจีน และมาใช้ชีวิต และคลอดลูกในไทย ซึ่งอาจจะแตกต่างจากแม่อุ้มบุญบางคนที่เลือกคลอดในต่างประเทศ เพราะจะได้ไม่มีประวัติเคยผ่านการมีบุตรมาแล้ว

			&nbsp;

			VO4 ส่วนสนนราคาอุ้มท้องจะมีให้เลือกว่า ถ้าเป็นเด็กคนเดียว จะได้เงินประมาณ 4 แสนบาท แต่ถ้าเป็นเด็กแฝดจะอยู่ที่ 5 แสนบาท เธอจึงเลือกตั้งท้องเด็กแฝด โดยเอเจนซี่ จะทยอยจ่ายเงินให้ตั้งแต่การฝังตัวอ่อนครั้งแรก และจ่ายรายเดือนให้ เดือนละ 2 หมื่นบาท และค่านมเพื่อบำรุงครรภ์อีกเดือนละ1000 บาท เป็นเวลาทั้งหมด 9 เดือนระหว่างที่ตั้งครรภ์ และเมื่อคลอดเด็กเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้เงินที่เหลือรวมแล้วเกือบ 2 แสนบาท โดยที่เราไม่สามารถจับเนื้อตัวเด็กได้เลยตั้งแต่คลอดออกมาลืมตาดูโลก เพราะกลัวเกิดความผูกพัน จะได้ดูหน้าเด็กเพียงแค่ภาพถ่ายเท่านั้น//

			VO5 หญิงอุ้มบุญคนนี้ เล่าต่อว่า คนที่มาจ้างอุ้มบุญเป็นชายรักชายชาวจีนที่อยากมีลูก แต่มีไม่ได้ จึงมาจ้างอุ้มบุญในไทยซึ่งมีราคาถูกกว่าประเทศเขาหลายเท่าตัว //เธอเองเคยพบผู้ว่าจ้าง ตอนพาเด็กไปฉีดวัคซีน เขาบอกว่าอยากมีลูกจริงๆ ดูแล้วเขารักลูกแฝดที่เธอตั้งท้องมาก ซึ่งอาจจะแตกต่างจากเพื่อนบางคนที่อุ้มท้องแล้วเด็กเกิดไม่สมบูรณ์ก็ทิ้งให้แม่อุ้มบุญเป็นภาระ จะเรียกร้องอะไรก็ไม่ได้ เพราะรู้ว่าสิ่งที่ทำผิดกฎหมาย// 

			&nbsp;

			VO6 5 พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว และตำรวจ เข้าช่วยเหลือเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญผิดกฎหมาย ที่ถูกนำมาฝากเลี้ยงไว้กับกลุ่มบุคคลในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพฯ พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย จากการขยายผลคดีขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทย เพื่อรับจ้างอุ้มบุญให้กับผู้ว่าจ้างชาวต่างชาติที่มีลักษณะองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในจังหวัดหนองคาย //

			&nbsp;

			<div>
			<table align="left" hspace="0" vspace="0">
				<tbody>
					<tr>
						<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
						VO7 เมื่อ Nation Criam ตรวจสอบข้อมูลขณะที่ในโซเชียลมีเดีย ก็พบว่ามีการรับทำอุ้มบุญ และเสนอราคาให้กับผู้ที่สนใจอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะแตกต่างจากในอดีตที่โซเชียลยังไม่ได้เริ่มใช้งาน ก็ทำให้คนที่รับทำส่วนใหญ่จะเปิดเป็นคลินิกเถื่อน อย่างที่ตำรวจ และสาธารณะสุขเคยบุกเข้าไปทลายมาแล้วหลายแห่ง//

						Q4 รพีพรรณ : ทั้งหมดนี้คือเสียงสะท้อนของผู้ที่เคยรับจ้างอุ้มท้อง โดยที่เธอไม่มีทางเลือกในชีวิต จึงตัดสินใจยอมทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ช่วงหน้าเนชั่นไครมจะพาคุณผู้ชมไปเปิดโปงขบวนการอุ้มบุญในไทยว่าเขาทำกันอย่างไร ก่อนถูกตำรวจจับกุมตัว 
						</td>
					</tr>
				</tbody>
			</table>
			</div>
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

Nation Crime เปิดโปงขบวนการ "อุ้มบุญ" 1

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			Q5 รพีพรรณ : หลายคนอาจจะมีคำถามว่าทำไมขบวนการอุ้มบุญในไทยกลับมาเกิดขึ้นอีกแล้ว หรือในความเป็นจริงแล้วขบวนการเหล่านี้ไม่ได้ห่างหายไปไหน เพียงแต่ไม่เป็นข่าว วันนี้คุณพรรณทิพา ได้ไปพูดคุยกับ พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 บช.สอท. (ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4) ถึงปัจจัยการเกิดอุ้มบุญมาจากอะไรบ้างค่ะ

			&nbsp;

			Q6 พรรณทิพา :&nbsp; คือมีทั้ง 2 อย่างที่คุณรพีพรรณบอกเลยค่ะ คือ ขบวนการนี้มีอยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว กับอีกส่วนคือ จีนได้เปิดประเทศหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายเป็นช่องโหว่ให้ขบวนการอุ้มบุญกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยปัจจัยการเกิดคือ 

			&nbsp;

			Q7 กฎหมายการอุ้มบุญในจีน เป็นกฎหมายสำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตร และว่าจ้างการอุ้มบุญ ไม่สามารถที่จะกำหนดเพศได้ว่าต้องการเพศชายหรือหญิง โดยชาวจีนส่วนมากต้องการที่จะได้บุตรชาย เพื่อไว้สืบสันดานแก่วงศ์ตระกูล และค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างอุ้มบุญต่อครั้งมีจำนวนเงินที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับการว่าจ้างอุ้มบุญในประเทศไทย โดยราคาอยู่ที่ 5-10 ล้านบาท ต่อ1ครรภ์ แต่ถ้าในไทยจะอยู่ที่ 2-3 ล้านบาทต่อ1ครรภ์

			&nbsp;

			Q8 กลุ่มคนเพศเดียวกัน (เช่น ชายรักชาย) ที่อยู่ในจีน ถือเป็นกลุ่มที่สังคมจีนยังไม่ให้การยอมรับ หากกลุ่มคนเหล่านี้ต้องการที่จะมีบุตรหรือทายาทไว้สืบสันดาน หรือสืบทอดวงศ์ตระกูลไม่สามารถที่จะทำได้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางมาทำที่ประเทศไทย

			&nbsp;

			Q9 ประเทศไทยมีแพทย์ที่มีความสามารถและความเชี่ยวชาญ&nbsp; ประกอบกับค่าบริการทางแพทย์ราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาค และลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งของไทยเปรียบเสมือนศูนย์กลาง หรือฮับ การเดินทางจากจีนมายังไทยค่อนข้างที่จะสะดวก

			&nbsp;

			Q11 รพีพรรณ : กระบวนการอุ้มบุญนี้ เขามีจุดประสงค์กับเด็กที่เกิดมาอย่างไร ตรงนี้คุณพรรณทิพามีการพูดคุยข้อมูลมาว่าอย่างไรบ้างคะ

			&nbsp;

			Q12 พรรณทิพา :&nbsp; กระบวนการในลักษณะนี้ มีทั้งนำเด็กไปเลี้ยงดูเป็นลูกจริงๆ เพราะตัวเองไม่สามารถมีลูกได้ กับอีกส่วนคือ นำเด็กไปปลูกถ่ายอวัยวะ ที่มีดีเอ็นเอตรงกับผู้ว่าจ้างเมื่อเด็กคนนั้นโตขึ้น ส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์แทนอาจจะยังมีไม่มากนัก

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			VO8 ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 สอท. ในฐานะรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ตสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (TICAC) บอกว่า วิธีการของขบวนการอุ้มบุญ อันดับแรกชายจีน หรือชาติอื่นๆ ที่ว่าจ้างอุ้มบุญจะต้องเดินทางมาในประเทศไทย เพื่อทำการเก็บอสุจิที่สถานบริการทางแพทย์ โดยส่วนมากจะเปิดให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ 

			&nbsp;

			VO9 จากนั้นกลุ่มขบวนการอุ้มบุญจะรับสมัครหญิงไทย อายุประมาณ 25 - 35 ปี หรือหญิงคนนั้นมีความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ที่จะเป็นแม่อุ้มบุญ ส่วนมากจะมีการประกาศทางกลุ่มคนใกล้ชิด หรือเครือญาติที่เคยรับจ้างอุ้มบุญ หรือใช้วิธีการโฆษณาหรือสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการยื่นข้อเสนอให้กับแม่อุ้มบุญต่อการอุ้มบุญเด็ก 1 คน เป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูงมาก &nbsp;และนายหน้าจะมีการหักเปอร์เซ็นเป็นค่าหัวคิว

			&nbsp;

			VO10 เมื่อได้หญิงที่พร้อมในการอุ้มบุญแล้ว ก็จะนำหญิงไทยคนนั้นมาตรวจสุขภาพ ตรวจมดลูก ว่ามีความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์หรือไม่ หากมีความพร้อมจะนัดหมายในการมาเก็บไข่ และหญิงอุ้มบุญก็จะได้รับค่าตอบแทนเป็นลำดับ 

			&nbsp;

			VO11 เมื่อมีการเก็บไข่แล้วกลุ่มอุ้มบุญจะนำไข่และอสุจิเดินทางไปทำการผสมกันในประเทศเพื่อนบ้านโดยจะให้หญิงอุ้มบุญเดินทางไปฝังไข่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน (โดยเหตุผลที่ไม่สามารถทำในไทยได้ เนื่องจากประเทศไทยยังมีข้อกฎหมายเรื่องการว่าจ้างอุ้มบุญที่มีความรุนแรง) 

			&nbsp;

			VO12 จากนั้นเมื่อทำการฝังตัวอ่อนลงในมดลูกแล้ว จึงจะเดินทางกลับมายังประเทศไทย และไปคลอดบุตรที่จีน และนำบุตรส่งให้กับกลุ่มขบวนการอุ้มบุญและเดินทางกลับมายังไทยและรับเงินตามข้อตกลง หรือบางกลุ่มก็คลอดบุตรในไทยและจดทะเบียน

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			VO13 ขบวนการอุ้มบุญมีหลายกลุ่มที่กระจายอยู่ในประเทศไทย โดยมีทุนจีนอยู่เบื้องหลัง มีเงินหมุนเวียนจำนวนมหาศาล ไม่สามารถประเมินได้ แค่เพียงกลุ่มเดียวที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้มีเงินหมุนเวียนประมาณ100ล้านบาท ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเดียวกับน.ส.นวพร ภาเกียรติสกุล ที่ตำรวจจับกุมได้ย่านสีลม หรือไม่ อยู่ระหว่างการขยายผล// 

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			VO14 ก่อนหน้านี้ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจกลางคืนอย่าง &ldquo;ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์&rdquo; ออกมาระบุเรื่องการ &ldquo;อุ้มท้องซื้อสัญชาติ&rdquo; โดยการจ้างอุ้มท้อง จนเกิดขบวนการ &ldquo;กลืนชาติไทย&rdquo; ขึ้นอย่างเป็นระบบ ทั้งการซื้อทรัพย์สิน ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน และการจัดตั้งบริษัท เมื่อเด็กได้รับสัญชาติไทยและเติบโตขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจ //

			&nbsp;

			VO15 ไม่แตกต่างจากข้อมูลของนักวิชาการที่พบว่า ชาวจีนเริ่มเข้ามาในไทยมากขึ้น ทั้งเข้ามาศึกษาและมาหาช่องทางในการประกอบอาชีพ ซึ่งมีโอกาสแย่งอาชีพคนไทย ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่เอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจของชาวจีน// 

			Q13 รพีพรรณ :&nbsp; ช่วงหน้าเนชั่นไครมจะไปดูข้อกฎหมายอุ้มบุญในประเทศไทย คือพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจิญพันธุ์ทางการแพทย์ ปี พ.ศ. 2558 กฎหมายฉบับนี้ระบุว่าอย่างไร สามารถทำได้หรือไม่และมากน้อยแค่ไหน รวมถึงการแก้ไขปัญหาการอุ้มบุญ ติดตามช่วงหน้าค่ะ
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

Nation Crime เปิดโปงขบวนการ "อุ้มบุญ" 2

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			Q14 รพีพรรณ : เจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ปี พ.ศ. 2558 เพื่อช่วยคู่สามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสและมีบุตรยากให้มีบุตรได้โดยใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่เหมาะสมเข้ามาช่วย แต่ไม่สามารถรับจ้างตั้งครรภ์ได้ เพราะจะเข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์

			&nbsp;

			+++++++++++เทป-อ่านต่อ++++++++++++++

			&nbsp;

			VO16 รองโฆษกสภาทนายความ ระบุว่า กฎหมายฉบับนี้มีการบัญญัติขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือคู่สามีภรรยาที่มีลูกยาก หญิงที่รับตั้งครรภ์แทนจะต้องเป็นพี่น้องท้องเดียวกันกับคู่สามีภรรยา และเคยมีบุตรมาแล้วเท่านั้น กฎหมายของไทยจึงห้ามโฆษณา และห้ามรับจ้างอุ้มบุญ ห้ามซื้อขายไข่และอสุจิ หากมีการฝ่าฝืนกฎหมายจะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 10 ปีปรับไม่เกิน 200,000 บาท//

			&nbsp;

			VO17 สำหรับคู่สามีภรรยาที่ต้องการให้หญิงอื่นตั้งครรภ์แทนจะต้องมีคุณสมบัติ คือต้องจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย กรณีเป็นคนไทยที่สมรสกับต่างชาติจะต้องจดทะเบียนสมรสไม่น้อยกว่า 3 ปี จะต้องผ่านการตรวจประเมินโดยแพทย์ที่มีคุณสมบัติตามแพทย์สภากำหนด และแพทย์ผู้ให้บริการจะต้องยื่นขออนุญาตที่สำนักสถานพยาบาล และการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ กคทพ. //

			&nbsp;

			VO18 ส่วนหญิงที่รับตั้งครรภ์แทนจะต้องมีสัญชาติไทยไม่ใช่พ่อแม่หรือลูก แต่จะต้องเป็นพี่น้องท้องเดียวกันกับของสามีหรือภรรยาผู้ที่ต้องการมีบุตรและเคยมีบุตรมาก่อน จะต้องได้รับความยินยอมจากสามีด้วย//

			&nbsp;

			<div>
			<table align="left" hspace="0" vspace="0">
				<tbody>
					<tr>
						<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
						VO19 ทางออกของปัญหาการอุ้มบุญ จะต้องแก้ไขกฎหมายจากใต้ดินขึ้นมาบนดิน โดยทำให้ถูกต้อง แต่ต้องมีเงื่อนไขที่ชัดเจน แม้ว่าปัจจุบันมีสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์อยู่หลายแห่ง แต่ก็ยังมีการลักลอบทำอุ้มบุญกันอยู่//

						&nbsp;

						++++++++++++ปล่อยเสียง++++++++++++++

						&nbsp;
						</td>
					</tr>
					<tr>
						<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
						Q15 รพีพรรณ : ขบวนการอุ้มบุญจะทำไม่ได้เลย หากไม่มีคนว่าจ้างและผู้รับจ้างอุ้มบุญ ทว่าหากมีการเปิดรับทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับแก้ไขกฎหมาย ก็จะไม่มีคนลักลอบกระทำผิด

						&nbsp;

						Q16 สัปดาห์หน้าเนชั่นไครม จะพาคุณผู้ชมไปติดตามคดีที่สังคมให้ความสนใจ เมื่อหญิงสาวธรรมดา วัย 34 ปี สู่ฆาตกรต่อเนื่องนับ 10 ศพ อย่าง &ldquo;แอม ไซยาไนด์&rdquo; มูลเหตุอะไรที่ทำให้หญิงคนหนึ่งตัดสินใจลงมือก่อเหตุได้อย่างโหดเหี้ยมและเลือดเย็นเพียงนี้ และที่สำคัญเธอทำเพียงลำพังหรือไม่ ห้ามพลาดค่ะ
						</td>
					</tr>
				</tbody>
			</table>
			</div>

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

Nation Crime เปิดโปงขบวนการ "อุ้มบุญ" 3

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			Q19 รพีพรรณ : แก๊งลูกหมู ถือเป็นจุดเริ่มต้นของขบวนการอุ้มรีดค่าไถ่ ที่คนร้ายจะใช้วิธีการแฝงตัวมากับแก๊งค้ามนุษย์ ที่จะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 โดยใช้จังหวะและโอกาสนี้กระทำผิดกฎหมาย เพราะคนเหล่านี้ไม่กล้าที่จะกระทำผิดในประเทศของตัวเอง(จีน) เพราะกฎหมายในจีนแรงถึงขั้นประหารชีวิตสถานเดียว จึงเลือกไทยเป็นฐานการก่อเหตุ

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			VO11 อดีตประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตร ป เอก/โท (นานาชาติ) สาขาอาชญาวิทยา และการบริหารงานยุติธรรมมหาวิทยาลัยมหิดล วิเคราะห์แก๊งอุ้มรีดชาวจีนที่กลับมาก่อเหตุในไทยว่า ช่วงเวลานี้เหมาะแก่การเอื้อให้ผู้กระทำผิดมองหาจังหวะและโอกาสในการลงมือก่อเหตุ แต่ขบวนการเหล่านี้จะอุ้มคนจีนด้วยกัน โดยจะไม่นิยมอุ้มคนไทย ซึ่งชาวจีนที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่เป็นเป็นคนที่มีฐานะปานกลางค่อนข้างดีจนไปถึงระดับล่าง ที่มาหาช่องทางทำธุรกิจในไทยหรือมาศึกษาเล่าเรียน และตกเป็นเหยื่อในที่สุด//

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			VO12 การปราบปรามแก๊งอุ้มรีด ต้องเป็นนโยบายของภาครัฐที่ควรจะเร่งแก้ไข โดยการจัดระบบการควบคุมตัวเลขการเดินทางเข้าออกของชาวจีน รวมถึงการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐที่เรียกรับเงิน//

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			รพีพรรณ : ขบวนการอุ้มรีดเรียกค่าไถ่ เป็นจุดเริ่มต้นของแก๊งมังกรจีนสีเทา ที่เมื่อตำรวจขยายผลกลับพบขบวนการแก๊งอุ้มบุญผุดขึ้นมาอีก หลังจากตำรวจทลายแก๊งอุ้มบุญกลางเมืองหลวงในไทย อย่างย่านธุรกิจสำคัญ นั่นก็คือสีลม ไปก่อนหน้านี้ รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามเนชั่นไครม สัปดาห์หน้า ค่ะ
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

Nation Crime แฉขบวนการอุ้มรีดเรียกฆ่าไถ 3

Nation Crime แฉขบวนการอุ้มรีดเรียกฆ่าไถ 2

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			Q1&nbsp; รพีพรรณ : สวัสดีค่ะ มาพบกับรายการที่จะพาทุกท่านไปไขทุกข้อสงสัย เปิดโปงทุกปมคดี ค้นหาความจริง สอดแทรกข้อมูลสืบสวนสอบสวนเชิงลึกพร้อมร่วมเฝ้าระวังและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับสังคม กับ &nbsp;NATION CRIME

			&nbsp;

			Q2&nbsp; รพีพรรณ : สวัสดีค่ะ มาพบกับรายการที่จะพาทุกท่านไปไขทุกข้อสงสัย เปิดโปงทุกปมคดี ค้นหาความจริง สอดแทรกข้อมูลสืบสวนสอบสวนเชิงลึกพร้อมร่วมเฝ้าระวังและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับสังคม กับ &nbsp;NATION CRIME

			&nbsp;

			Q3&nbsp; ปฎิเสธไม่ได้ว่าแก๊งอาชญากรข้ามชาติชาวจีนที่อุ้มเรียกค่าไถ่เกิดขึ้นในประเทศไทยมานาน และล่าสุดขบวนการเหล่านี้มีให้เห็นมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากทางการไทยได้เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวชาวจีน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยได้อย่างเต็มรูปแบบ และนี่จึงเป็นโอกาสและความเสี่ยงในการเกิดเหตุอาชญากรรมที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

			&nbsp;

			Q4&nbsp; เช่นเดียวกับ คดีที่เกี่ยวกับกลุ่มแก๊งชาวจีน เกิดการอุ้มชาวจีนด้วยกันเองเพื่อเรียกค่าไถ่ บางรายถูกทรมาน ถูกตัดอวัยวะ และบางรายถูกทำร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิต 

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			+++++++++++++ปี 2540+++++++++++++

			&nbsp;

			VO1&nbsp; ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2540 เกิดเหตุ &ldquo;หลง เหมย จู&rdquo; หญิงชาวจีน ร่วงตกจากคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท จากการชันสูตรพบร่องรอยคล้ายถูกจับทรมานติดต่อกันหลายวัน&nbsp; เมื่อตรวจสอบที่ห้องพักพบหญิงชาวจีนถูกขังอีก 3 คน ตามร่างกายถูกซ้อม ทุกคนถูกบังคับให้เขียนจดหมาย เพื่อเรียกค่าไถ่เป็นเงินคนละ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังเกิดเหตุตำรวจขยายผลทราบว่าผู้ก่อเหตุเกี่ยวข้องกับ &ldquo;แก๊งลูกหมู&rdquo; หากใครไม่ให้เงินก็จะส่งต่อไปประเทศที่สาม เพื่อบังคับให้เป็นโสเภณี//

			&nbsp;

			++++++++++++ปี 2552+++++++++++++++

			&nbsp;

			VO2&nbsp; ในปี 2552 มีนักธุรกิจชาวไต้หวัน คู่สามีภรรยา ได้เดินทางมาเมืองไทย ก่อนที่จะมีคนไทยและไต้หวัน อ้างเป็นตำรวจบุกจับตัวถึงสนามบิน แล้วนำตัวไปกักขัง ก่อนจะออกอุบายเพื่อเรียกเงินค่าไถ่ 30 ล้านบาท สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกทลายที่บ้านพักและจับกุมคนร้ายมีชายสัญชาติไต้หวัน 5 คน และสัญชาติไทย 1 คน 

			&nbsp;

			+++++++++++++ปี2560++++++++++++++

			&nbsp;

			VO3&nbsp; การอุ้มรีดไม่ได้มีเพียงแค่ขบวนการธรรมดาเท่านั้น ทว่า &ldquo;แก๊งยากูซ่า&rdquo; จากประเทศญี่ปุ่นก็เคยก่อเหตุในเมืองไทยมาแล้ว โดยวันที่ 7 มิถุนายน 2560 ภรรยาชาวไทยของ &ldquo;วาตานาเบ้ ชินามิ&rdquo; เจ้าของบริษัทเครื่องมือแพทย์ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ทองหล่อ ว่า สามีถูกอุ้มหายไปจากย่านแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.

			<div>
			<table align="left" hspace="0" vspace="0">
				<tbody>
					<tr>
						<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
						VO4&nbsp; เมื่อตำรวจแกะรอยตามเบาะแส และจากการเข้าตรวจค้นพบคนร้ายอีก 2 คน และ วาตานาเบ้ สภาพถูกมัดด้วยสายไฟอยู่บนเตียง สภาพถูกทรมาน ขณะที่คนร้าย 3 คน ทั้งหมดเป็นชาวญี่ปุ่น และที่น่าตกใจภายในห้องพบเลื่อย ถุงพลาสติกสีดำ คล้ายจะเตรียมเอาไว้ฆ่าหั่นอำพรางศพ หากบุกไปช่วยเหลือช้ากว่านี้ วาตานาเบ้ คงไม่รอด//

						Q5&nbsp; รพีพรรณ : คดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นคดีเก่าที่เกิดขึ้นในอดีต และหลังจากนั้นก็เงียบหายไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ปัจจุบันคดีเหล่านี้กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง และมีให้เห็นมากขึ้นหลายคดีในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือนมานี้&nbsp; จะมีคดีใดบ้าง จุดประสงค์ของการอุ้มคืออะไร ไปรับชมกันต่อช่วงหน้าค่ะ
						</td>
					</tr>
				</tbody>
			</table>
			</div>

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

Nation Crime แฉขบวนการอุ้มรีดเรียกฆ่าไถ 1

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			รพีพรรณ : มีข้อมูลที่น่าสนใจจากนักวิชาการด้านอาชญาวิทยา เรื่องการฆ่าหั่นศพในอดีต ซึ่งมีมานานตั้งแต่ในสมัยโรมัน&nbsp; เพื่อเป็นการระบายความแค้น ข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามให้เกิดความหวาดกลัว โดยส่วนใหญ่จะเป็นการตัดศรีษะและส่งไปให้ศรัตรูดู ซึ่งอาจจะแตกต่างไปจากปัจจุบันที่วิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและเทคโนโลยีที่เข้ามา จึงทำให้การก่อเหตุไม่ค่อยเป็นในลักษณะนั้น 

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

+++++++++++เทป-อ่านต่อ++++++++++++++

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			&nbsp;
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

VO13&nbsp; อดีตประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตร ป เอก/โท (นานาชาติ) สาขาอาชญาวิทยา และการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลกับเนชั่นไครมว่า การฆ่าหั่นศพเกิดขึ้นมานานทั้งฝั่งตะวันออก และตะวันตก ในยุคสมัยโรมัน ทั้งเยอรมันนี ฟินแลน สวีเดน ส่วนตะวันออก มีทั้งจีนและฮ่องกง แต่ส่วนใหญ่การก่อเหตุจะเป็นการระบายความแค้น ข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามให้เกิดความหวาดกลัว โดยจะเป็นการตัดศรีษะและส่งไปให้อีกฝ่ายดู แต่ก็มีบางกรณีที่เป็นการหั่นศพ โดยการเลาะใบหน้า เพื่อไม่ให้สามารถตรวจอัตลักษณ์ได้ หรือไม่ให้เข้าถึงหลักฐานทางนิติเวชในการตรวจสอบดีเอ็นเอ ด้วยการทำลายร่องรอยต่างๆ จากการชำแหละศพแยกส่วนมือ เท้า และศีรษะ โดยการชำแหละมีตั้งแต่การหั่น 1 ท่อน ไปจนถึง 9 ท่อน ซึ่งส่วนใหญ่รู้และมีสติดีในการกระทำ//

&nbsp;

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			VO14&nbsp; คดีฆ่าหั่นศพหลายคดี มีลักษณะใกล้เคียงกัน ส่วนใหญ่จะเกิดจากคนใกล้ตัว คนรู้จัก มาจากความโกรธแค้น ผิดหวังในความรัก การถูกหักหลัง นำความลับไปเปิดเผยกับคนอื่น เพราะปกติแล้วคนที่ฆ่าคนอื่น หากไม่โมโห หรือแค้นมากๆ ก็ใช้ปืนยิงให้ตายแล้วหนี แต่การลงมือฆ่าหั่นศพ หากไม่แค้นมากคงไม่กระทำ //

			&nbsp;

			VO15&nbsp; นอกจากนี้ยังพบว่า อาชีพที่สามารถฆ่าหั่นศพได้มี 3 กลุ่มที่พบ คือ อาชีพหมอ คนที่อยู่ในโรงฆ่าสัตว์ และเจ้าหน้าที่นิติเวช ซึ่งเป็นอาชีพที่คุ้นเคยกับศพกับสัตว์ จึงมองว่าเป็นเรื่องง่ายถ้าหากจะลงมือก่อเหตุ// 

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			VO16&nbsp; นอกจากการฆ่าหั่นศพแล้ว ยังมีวิธีการอำพรางศพอีกหลากหลายวิธี ทั้งการฆ่าเผานั่งยาง และการ &ldquo;ขึ้นเมรุ&rdquo; ซึ่งการขึ้นเมรุ ก็คือกานำศพไปเผาด้วยอุณหภูมิความร้อนที่สูง ทำให้กลายเป็นเถ้ากระดูก จนไม่สามารถตรวจหาดีเอ็นเอได้ และกลายเป็นบุคคล &rdquo;สูญหาย&rdquo; ไปในที่สุด//

			&nbsp;

			Q16&nbsp; รพีพรรณ : &nbsp;ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าใครจะฆ่าใคร // ฆ่าด้วยวิธีไหน //และแรงจูงใจในการฆ่าคืออะไร ผู้กระทำผิดมักถูกจับกุมและได้รับโทษตามกฎหมายเสมอ &ldquo;ไม่ช้าก็เร็ว&rdquo;//
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

&nbsp;

Nation Crime “รักต้องฆ่า” ดอนฆ่ากิ๊กสาวทิ้งใต้ทางด่วน 3

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			Q5&nbsp; รพีพรรณ : ครอบครัวของพิณ ทราบข่าวการจากไปของ พิณ&nbsp; ลูกสาวคนโตในพี่น้อง 3 คน ต่างรู้สึกเสียใจ และทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากให้ตำรวจลงโทษสถานหนักประหารชีวิตผู้ก่อเหตุ เพราะลงมือก่อเหตุได้อย่างโหดร้ายเกินกว่ามนุษย์จะทำได้ 

			&nbsp;

			Q6&nbsp; โดยครอบครัว ไม่เคยรู้จักกับ ดอน มาก่อน ลูกสาวไม่ค่อยได้เล่าเรื่องราวส่วนตัวให้ฟังมากนัก และไม่คิดว่าลูกจะมาด่วนจากไปเร็วแบบนี้ เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ พิณอยากจะทำให้กับครอบครัว

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

Q7&nbsp; มาดูในส่วนของนักอาชญาวิทยากันบ้างค่ะ เพราะมีการวิเคราะห์พฤติกรรมของดอนได้น่าสนใจหลายแง่หลายมุม คุณพรรณทิพา ได้ไปพูดคุยกับ ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาด้านจิตวิทยา และพฤติกรรมอาชญากร คณะสังคมศาสตร์ฯ ม.มหิดล เป็นอย่างไรบ้างค่ะ

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			&nbsp;

			Q8&nbsp; พรรณทิพา :&nbsp; อาจารย์วิเคราะห์ถึงแรงจูงใจในการฆ่าของดอนเป็นอันดับแรก ผู้ก่อเหตุรายนี้ชัดเจนตรงมูลเหตุจูงใจของเขาคือเรื่องความรัก ความหึงหวง ผู้หญิงจะตีจาก จึงเกิดความแค้นและลงมือฆ่า ก็คงเหมือนกับหลายๆ คดีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

			&nbsp;

			Q9&nbsp; ส่วนการหั่นศพก็เป็นหนึ่งในวิธีการทำลายศพที่คิดว่าทำแบบนี้แล้วหลักฐานต่างๆจะถูกทำลายและไม่สาวมาถึงตัว แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือคำรับสารภาพของเขา ที่บอกว่า ได้เลียนแบบพฤติกรรมมาจากการดูหนัง ดูภาพยนต์ หรือยูทูป 

			&nbsp;

			<div>
			<table align="left" hspace="0" vspace="0">
				<tbody>
					<tr>
						<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
						Q10&nbsp; สิ่งเหล่านี้อันตรายมากเพราะการเรียนรู้ในลักษณะนี้เป็นการเรียนรู้ทางเดียว ถึงแม้จะไม่ได้มีปฎิสัมพันธ์กับคนอื่น ก็ทำให้เกิดความก้าวร้าวรุนแรงได้จากการเสพสื่อนานๆ และถี่ๆ ซึ่งการดูหนังแนวฆาตกรรมสยองขวัญ แล้วเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบถือว่ามีเปอร์เซ็นสูงที่จะเกิดขึ้น เพราะมีตัวอย่างให้เห็นในบางประเทศ

						และตัวเขาเองก็มองว่าสิ่งที่ทำเหมือนเป็นเกมส์ๆ หนึ่ง ที่พอตำรวจจับกุมตัวได้ ก็พูดว่า &ldquo;ไม่คิดว่าจะเกมส์เร็วแบบนี้&rdquo; 

						&nbsp;
						</td>
					</tr>
				</tbody>
			</table>
			</div>

			Q11 &nbsp;สิ่งสำคัญคือเราต้องศึกษาและรู้พื้นฐานของคนๆนั้น ว่าเขาเติบโตมาอย่างไร เพราะสภาพทางจิตใจ และบุคลิคภาพของคนเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมที่พบเจอมาอย่างปฎิเสธไม่ได้ และพฤติกรรมการเลียนแบบอาจถูกซึมซับโดยไม่รู้ตัว

			&nbsp;

			<div>
			<table align="left" hspace="0" vspace="0">
				<tbody>
					<tr>
						<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
						Q12&nbsp; รพีพรรณ : และแบบนี้การแก้ปัญหาคืออะไรค่ะคุณพรรณทิพา

						&nbsp;
						</td>
					</tr>
				</tbody>
			</table>
			</div>

			Q13&nbsp; พรรณทิพา :&nbsp; นักอาชญาวิทยา แนะนำว่า ผู้ปกครองหรือคนใกล้ชิดต้องคอยสอดส่อง คอยเตือน คอยสั่งสอน
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>

หรือมีวิธีแนะนำให้เด็กหรือคนทั่วไป ไม่เสพสื่อที่มีความรุนแรง หรือเนื้อหาหนัก และนานเกินไป เพราะจะส่งผลให้คนๆนั้นเกิดความเครียดได้&nbsp; แต่ควรให้หันไปอ่านหนังสือหรือเล่นกีฬาแทนจะสามารถช่วยได้&nbsp; &nbsp;

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			Q14&nbsp; รพีพรรณ :&nbsp; การฆ่าหั่นศพจริงๆ แล้วเกิดขึ้นมานานมาก ทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก ที่ลงมือก่อเหตุก็มีหลายปัจจัยที่เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากความรัก ซึ่งอาจดูสวนทางกับประเทศไทยที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาจากความรัก แม้ว่าจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ก็ยังมีให้เห็นเป็นข่าวอยู่บ้าง ช่วงหน้าเนชั่นไครมจะพาไปย้อนดูต้นกำเนิดการฆ่าหั่นศพ และมูลเหตุจูงใจต่างๆ มาจากอะไร

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>
</div>

Nation Crime “รักต้องฆ่า” ดอนฆ่ากิ๊กสาวทิ้งใต้ทางด่วน 2

<div>
&nbsp;

<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			Q2&nbsp; เนชั่นไครมยังคงนำเสนอซีรีย์ฆ่าหั่นศพตลอดเดือนเมษายน โดยสัปดาห์นี้นำคดีสะเทือนขวัญ อย่างคดีของ &ldquo;ดอน หรือ ชาญวิทย์&rdquo; นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ฆ่าหั่นศพกิ๊กสาววัย 30ปี ก่อนนำศพไปฝังดิน //โดยเจ้าตัวยอมรับว่าที่ฆ่าแล้วหั่นศพ เพราะเลียนแบบพฤติกรรมภาพยนต์ต่างประเทศ

			&nbsp;

			Q3&nbsp; จะเห็นว่าคดีฆาตกรรมฆ่าหั่นศพ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก และมีให้เห็นเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง โดยพฤติกรรมของคนที่จะฆ่าหั่นศพได้ คนทั่วไปอาจมองว่าคนคนนั้น ต้องจิตใจเยือกเย็น เหี้ยมโหดมากพอที่จะลงมือชำแหละหั่นศพออกมาทีละชิ้นได้ แต่ลึกๆ แล้วเขาคิดอะไรอยู่ และสาเหตุที่แท้จริงมาจากอะไร มาหาคำตอบพร้อมกันค่ะ

			&nbsp;

			+++++++++เทป-อ่านต่อ++++++++++++

			&nbsp;

			VO1&nbsp; ภาพจากกล้องวงจรปิด ของคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านสำโรง สมุทรปราการ บันทึกภาพขณะ &ldquo;ชาญวิทย์&rdquo; หรือ ดอน วงศ์สหาก อายุ 35 ปี เดินออกมาจากลิฟต์ ในมือหิ้วถุงดำขนาดใหญ่ 2 ใบ//

			&nbsp;

			VO2&nbsp; เมื่อเดินออกจากประตูลิต์แล้วเขาเลี้ยวไปทางขวา ซึ่งจะนำเขาไปที่จอดรถ และนี่จะนำไปสู่เรื่องราว &ldquo;พิษสวาทฆาตกรรม&rdquo; //

			&nbsp;

			VO3&nbsp; เรื่องราวของ ดอน กับ อรนันท์ หรือ พิณ นราทร เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 โดยทั้งคู่อยู่ด้วยกันภายในห้องเช่า ที่ดอน และพิณ เช่าไว้เป็นรังรักของทั้งสอง มานานนับปี 

			&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 

			VO4&nbsp; ก่อนที่พิณ จะหายตัวไป ในวันที่ 30 กันยายน 2565 หลังจากตำรวจรับแจ้งจากแม่บ้านของคอนโดฯ จึงเข้าตรวจสอบ//

			&nbsp;

			<div>
			<table align="left" hspace="0" vspace="0">
				<tbody>
					<tr>
						<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
						VO5&nbsp; เมื่อเปิดประตูเข้าไป พบดอน นั่งอยู่ภายในห้อง โดยไม่แสดงท่าทีขัดขืน และยังมีสีหน้าเรียบเฉย ซ้ำยอมรับ ว่า เป็นฆาตรกรและลงมือหั่นศพ พิณ ภายในห้องน้ำ และทำความสะอาดพื้นห้องน้ำไปแล้ว

						&nbsp;

						VO6&nbsp; คำสารภาพ ของ ดอน ตำรวจยอมรับว่า เหนือความคาดหมาย เพราะไม่คิดว่าเขาจะยอมเปิดปากรับสารภาพโดยไม่ปิดบัง มันทำให้การสืบสวน สอบสวน คลี่คลายคดีของตำรวจรวดเร็ว และไม่สลับซับซ้อน//
						</td>
					</tr>
				</tbody>
			</table>
			</div>

			&nbsp;

			&nbsp;

			&nbsp;

			&nbsp;

			VO7&nbsp; รวมทั้งตรวจนิติวิทยาศาสตร์ ภายในห้องน้ำ พบคราบเลือดที่มองด้วยตาเปล่าจะดูไม่ออก แต่เมื่อใช้เทคนิคนิติวิทยาศาตร์ กลับพบเป็นหลักฐาน ประกอบคำรับสาสรภาพของ ดอน//

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			VO9&nbsp; ตำรวจ สอบสวนหาสาเหตุการลงมือฆ่าหั่นศพ ทราบว่า &nbsp;ดอน และพิณ คบหาดูใจกันมา 3-4 ปี โดยดอน มีภรรยาอยู่แล้ว แต่เกิดมารักใคร่ชอบพอกับ พิณ แต่ต่อมา ดอน ไม่พอใจฝ่ายหญิง จะตีตัวออกห่าง และเกรงว่าฝ่ายหญิง จะปันใจให้ชายอื่น จึงวางแผนก่อเหตุ นานหลายเดือน //

			&nbsp;

			VO10&nbsp; ดอน ซื้ออุปกรณ์ ทั้ง เลื่อย มีด ค้อน ขวาน เสียม ไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว รวมทั้งเขายังขุดหลุม เพื่อฝังชิ้นส่วนศพ รอไว้แล้ว เมื่อเตรียมการทุกอย่างพร้อม ดอน ก็โทรนัดหมาย พิณ ให้มาเจอที่ห้องเกิดเหตุ//

			VO11&nbsp; คำรับสารภาพของดอน นำไปสู่การค้นหาชิ้นส่วนศพ พิณ ที่ถูกฝังไว้ตามจุดต่าง และเมื่อขุดลงไป ก็พบถุงดำหลายใบ&nbsp; ภายในเป็นชิ้นส่วนมนุษย์ หั่นเป็น 7 ส่วน&nbsp; ถุงดำใบแรก เป็นท่อนแขนซ้าย ใบที่สอง ส่วนหัว ใบที่สาม ส่วนขาซ้าย ตั้งแต่หัวเข่า ใบที่สี่ส่วนแขนขวา ข้อศอกลงมา ใบที่ห้า ส่วนขาขวา หัวเข่า ใบที่หก ส่วนลำตัว ต้นคอถึงเอว และใบที่เจ็ด ส่วนท่อนล่าง เอวถึงหัวเข่า//

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			VO12&nbsp; ตามแนวทางการสอบสวนของตำรวจ คดีนี้ เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของดอน จนทำให้ตัวเองหมดอนาคตไป ทั้งที่หน้าที่การงานกำลังไปได้ดี แต่ก็ต้องรับผลกรรมที่ทำไว้ &ldquo;ใครทำอะไรก็ต้องได้แบบนั้น&rdquo; //

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

Nation Crime “รักต้องฆ่า” ดอนฆ่ากิ๊กสาวทิ้งใต้ทางด่วน 1

รพีพรรณ : ในขณะที่การสืบสวนทางวิทยาศาสตร์พบศพ เจนจิราแล้ว&nbsp; ที่เหลือคือสถานที่ลงมือ &nbsp;&ldquo;เสริม &nbsp;ชีวิตบนโลกนี้ กับชีวิตอันเป็นนิรันดร์กับพระเจ้า อันไหนทรงคุณค่ากว่ากัน การที่เสริมโกหกอยู่ตลอด เพื่อเอาตัวรอดในชีวิตนี้&nbsp; และพกพาวิญญาณอันไม่บริสุทธิ์ไป&nbsp; เสริมคิดว่าจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตนิรันดร์กับพระองค์หรือ&rdquo; คำพูดขัดเกลาทางศาสนา ยังพอทำให้ เสริม รู้สึกผิดอยู่บ้าง และเป็นที่มาของคำรับสารภาพสถานที่จริงในการฆ่าและชำแหละศพ เจนจิรา คือห้องพักของเสริมนั้นเอง&nbsp;หลังเกิดเหตุ ทุกคนได้พยายามวิเคราะห์บุคลิกภาพของเสริม ว่ามีการอาการป่วยทางจิตเวช แต่ก็ไม่ได้รับการยืนยัน&nbsp; แต่สิ่งที่ทุกคนพูดเหมือนกันคือพฤติกรรมที่ก่อเหตุมาจาก การหึงหวง โกรธ&nbsp; จึงตัดสินใจฆาตกรรมเพียงชั่ววูบ แต่การทำลายศพเป็นเพียงการทำลายหลักฐานเท่านั้น &nbsp;&nbsp;&nbsp;เสริมถูก ศาลจำคุกตลอดชีวิต ได้รับการอภัยโทษ 5 ครั้ง ปัจจุบัน เสริมพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2555 รวมจำคุก13ปี9เดือน ต่อมามีการเปลี่ยนชื่อ นามสกุล เพื่อเข้าสมัครสมาชิก เนติบัณฑิต หลังเรียนจบ นิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง&nbsp; แต่คณะกรรมการสภาเนติบัณฑิต มีมติเอกฉันท์ไม่รับ เนื่องจากตรวจพบว่ามีประวัติ ก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญเป็นที่ทราบกันอยู่ทั่วไป&nbsp;ขณะนี้เสริมยังคงใช้ชีวิตแบบสงบ ไม่ขอออกสื่อใด&nbsp; แต่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ ก่อนพ้นโทษถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ที่ลงมือก่อเหตุในวันนั้นเพราะโกรธ และเชื่อว่าเขาถูกหักหลัง แต่หลังยิงไปแล้วกลับรู้สึกกลัว&nbsp; ในความเป็นจริงไม่ได้อยากชำแหละศพ สงสาร &nbsp;อย่าคิดว่ามันรู้สึกดีที่ต้องชำแหละร่างคนรัก คนที่อยู่มาด้วยกัน&nbsp; แต่มันจำเป็น หลังจากที่ตำรวจเข้ามาทำคดี&nbsp; &nbsp;ทำใจไว้แล้ว

ว่าคงถูกจับกุมเข้าสักวัน การที่เรียนนิติศาสตร์ เพราะอยากช่วยเหลือคนที่ไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย จากการที่เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ทำให้รู้ว่าบางคนไม่ได้ผิด แค่ไม่รู้กฎหมายเท่านั้น ความหวังสุดท้ายคิดว่าอยากออกไปเจอแม่สักครั้ง ในช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าเขาอาจจะไม่ยอมรับ เพราะผมทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ส่วนตัวยังศรัทธาในความรัก แต่ที่เราเจออาจจะไม่ได้สวยงาม และหวังมาสักวันจะเจอกับความรักที่งดงาม ส่วนเรื่องที่ผ่านมา/เพียงอารมณ์ชั่ววูบที่ทำให้ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ส่วนครอบครัวเจนจิรา ผมต้องขอโทษจริงๆที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องสูญเสียผู้ซึ่งเป็นที่รัก&nbsp; ผมเสียใจและกำลังรับผลกรรมของมันอยู่&nbsp;มาถึงตรงนี้หลายคนคงตั้งคำถามว่า บทลงโทษที่เสริม ได้รับมันสมควรกับความเจ็บปวด&nbsp; บาดแผลในใจของญาติเจนจิรา หรือไม่&nbsp; ที่ต้องสูญเสียแก้วตาดวงใจไปตลอดชีวิต การออกมาใช้ชีวิตสังคมภายนอกของเสริม สาครราษฎร์ เขาจะได้รับโอกาส จะอยู่ร่วมกับสังคมไปในทิศทางใด&nbsp; ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้เลย &nbsp;&nbsp;

Nation Crime “พิศวาสฆาตกรรม” เสริมฆ่าหั่นศพเจนจิรา เบรก 3

&nbsp;รพีพรรณ : หากใครเคยอ่านข่าว เกาะติด การฆาตกรรม เจนจิรา พลอยองุ่นศรี มาบ้าง จะรู้ว่าถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ&nbsp; จะเรียกเค้นสอบ เสริม สาครราษฎร์&nbsp; มากแค่ไหนเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ&nbsp; แต่ในบางจุด บางประเด็น คำให้การของเขาขัดแย้งกันเองกับคำให้การในช่วงแรก&nbsp;&nbsp;คำให้การในช่วงแรก เสริมปฏิเสธ&nbsp; โดยอ้างว่าในวันเกิดเหตุ มีการนัดคุยกับ เจนจิรา จริง แต่เกิดมีปากเสียงกัน ทำให้รู้สึกน้อยใจ จึงเดินทางกลับหอพัก&nbsp; /แต่ตำรวจไม่เชื่อ ขอเข้าไปค้นห้องพักของเสริม&nbsp; ย่านซอยสมประสงค์2&nbsp; แต่กลับไม่พบหลักฐานสำคัญ เพราะเป็นการเข้าค้นปกติไม่ได้ประสานเจ้าหน้าที่นิติเวชร่วมค้นด้วย &nbsp;นอกจากการเรียกมาสอบเค้นแล้ว&nbsp; เมื่อข้อมูลยังคลาดเคลื่อน สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เสริม เข้าเครื่องจับเท็จ&nbsp; ผลที่ออกมาทำให้ตำรวจ มั่นใจว่าเสริมต้องมีส่วนรู้เห็นกับการหายตัวไปของ เจนจิรา อย่างแน่นอน &nbsp;เนื่องจากพบพิรุจ ปกปิดความจริงไว้หลายจุดด้วยกัน &nbsp;เมื่อการสอบสวนเริ่มมาถูกทาง ทำให้ตำรวจมั่นใจมากขึ้นว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ชุดสืบสวน เค้นสอบ ในหลายมุม หลายประเด็น สร้างความกดดัน และมันก็ได้ผล เมื่อเสริมพูดในสิ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในห้องสอบสวนต้องตกตะลึง&nbsp; เขารับสารภาพว่า เป็นคนฆ่า และ ชำแหละ ศพแฟนสาวด้วยตัวเอง &nbsp;แต่การสารภาพของเขา ยังไม่จบแค่นั้น เพราะเขาพลิกแพลง &nbsp;พฤติการณ์ในการก่อเหตุ &nbsp;ตำรวจหัวหมุน หาข้อมูลกันอีกรอบ รวมไปถึงผู้สื่อข่าวด้วยเช่นกัน ใช่ไหมคะคุณ ฐิติชญา

&nbsp;ฐิติชญา : ใช่แล้วคะ&nbsp; คุณรพีพรรณ&nbsp; การสารภาพของเสริมครั้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถ จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาได้ทันที แม้จะยังไม่มีหลักฐาน&nbsp; อันเนื่องมาจากกฎหมายในสมัยนั้น&nbsp; แต่การจะเอาผิดให้ได้ตามกระบวนการของศาล ต้องมีหลักฐาน และพิสูจน์ให้ได้ว่า บุคคลที่หายไปเสียชีวิตแล้ว &nbsp;และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นในการค้นหาศพ เจนจิรา &nbsp;ตามคำให้การ ที่เต็มไปด้วยข้อมูลเท็จของเสริม &nbsp;6 มกราคม 2541 เสริมให้การรับสาภาพว่าฆ่าและชำแหละศพเจนจิรา ในโรงแรมม่านรูด &nbsp;และยังอ้างด้วยว่า &nbsp;หลังจัดการชำแหละศพ ทิ้งลงชักโครก และแยกกระดูกยัดใส่ถุงดำ3ถุง จากนั้นขับรถของผู้ตาย พร้อมถุงกระดูก ไปทิ้งที่สะพานข้ามแม่น้ำบางประกง &nbsp;ก่อนจะกลับห้องพักทำตัวตามปกติ&nbsp; และวันรุ่งขึ้นได้นำรถยนต์ไปล้าง 

ก่อนจะกลับบ้านในจังหวัดชลบุรี เพื่อนำเสื้อผ้าของเจนจิราไปเผาทิ้ง

&nbsp; รพีพรรณ : หลังคำให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นโรงแรมม่านรูด ตามคำกล่าวอ้าง &nbsp;แต่ล้มเหลวด้วย ใช่ไหมคะ

&nbsp;ฐิติชญา : ใช่คะ&nbsp; หลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตามคำให้การของเสริม แต่กลับไม่พบศพหรือคราบเลือด&nbsp; และหลักฐานสำคัญที่ใช้สังหารฆ่าแต่อย่างใด&nbsp; ซึ่งการตรวจพิสูจน์ในครั้งนั้น &nbsp;บุคคลที่เข้ามามีบทบาท สำคัญ ช่วยคลี่คลายคดีหลายคนต้องจำกันได้ แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์&nbsp; &nbsp;เมื่อคำรับสารภาพของผู้ต้องหา&nbsp; ที่ยังปกปิดความจริงในประเด็นสำคัญ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงสำคัญ และเป็นหลักฐานเพียงสิ่งเดียวที่ใช้มัดตัวฆาตกรจนดิ้นไม่หลุด&nbsp;กระโหลกศีรษะ ลักษณะถูกชำแหละใบหน้า&nbsp; และมีร่องรอยการถูกยิงที่ศีรษะ ซึ่งพบในแม่น้ำบางประกง&nbsp; เมื่อวันที่28 มกราคม 2541 ในพื้นที่ สภ.แสนภูดาษ&nbsp; ถูกส่งมายังนิติเวช รพ.ตร. เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล /นิติวิทยาศาสตร์ทำงานสอดประสานกับการสืบสวนทำให้ พบชิ้นส่วนแรกของ เจนจิรา

&nbsp;รพีพรรณ : กระโหลกศีรษะใบนี้ นอกจากจะเป็นชิ้นส่วนชิ้นแรกของเจนจิรา ที่เจ้าหน้าที่พบ ยังเป็นชิ้นส่วนที่นำเจ้าหน้าที่ไปเจอชิ้นส่วนอื่นๆอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ยังเป็นกุญแจที่ไขข้อมูลฆาตกร ถึงมูลเหตุการเสียชีวิตที่ไม่ได้ถูกบีบคอจนตาย &nbsp;&nbsp;ช่วงหน้ามาตามกันต่อ กับสถานที่ ที่ใช้สังหารเจนจิรา และความรู้สึกของฆาตกร หลังพ้นโทษ ออกมาใช้ชีวิตภายนอก

Nation Crime “พิศวาสฆาตกรรม” เสริมฆ่าหั่นศพเจนจิรา เบรก 2

&nbsp;รพีพรรณ:&nbsp; สวัสดีค่ะ มาพบกับรายการที่จะพาทุกท่านไปไขทุกข้อสงสัย เปิดโปงทุกปมคดี ค้นหาความจริง สอดแทรกข้อมูลสืบสวนสอบสวนเชิงลึก พร้อมร่วมเฝ้าระวังและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับสังคม กับ&nbsp; NATION CRIME

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 26 ปีที่แล้วหรือช่วงปี 2541 กับคดีฆาตกรรมที่สะเทือนวงการนักศึกษาชุดกราวน์&nbsp; เมื่อนักศึกษาแพทย์ชาย ปี 2&nbsp; สังหารนักศึกษาแพทย์หญิง ปี 5 ก่อนชำแหละร่างเป็นชิ้นๆ ทิ้งบ่อเกรอะภายในหอพัก ย่านเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นข่าวกระฉ่อนทั่วประเทศ&nbsp; ในยุคนั้น สื่อมวลชนติดตามรายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าแทบจะเฝ้าโรงพักกันเลยทีเดียว &nbsp;ในสัปดาห์นี้เราจะพาท่านผู้ชม ย้อนกลับไปพบกับคดีสุดสะเทือนขวัญ ในแวดวงนักศึกษาแพทย์ &ldquo;เจนจิรา พลอยองุ่นศรี&nbsp; กับ&rdquo; เสริม สาครราษฎร์&rdquo;&nbsp;&nbsp; สำหรับ&nbsp; เจนจิรา พลอยองุ่นศรี หรือ ปุ้ย เป็นเด็กสาว อ.สามพราน&nbsp; จ.นครปฐม / ชีวิตครอบครัวของเธออาจจะไม่สมบูรณ์เหมือนกับใครหลายคน&nbsp; /พ่อ-แม่ แยกทางกัน&nbsp; พ่อยังคงประกอบธุรกิจอยู่ในจังหวัดนครปฐม&nbsp; ส่วนแม่ไปประกอบอาชีพอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา&nbsp; ความฝันของเด็กสาวคืออยากเป็นแพทย์ อาชีพที่มีคนนับหน้าถือตา แรงผลักดันทำให้สามารถเอ็นทรานซ์ ติดคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตามที่คาดหวังไว้ ในส่วนของ เสริม สาครราษฎร์ เด็กหนุ่มจาก จ.ชลบุรี&nbsp; ครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อ-แม่ ประกอบอาชีพค้าขาย&nbsp; ความใฝ่ฝันคืออยากเป็นวิศวะกรคอมพิวเตอร์ &nbsp;ด้วยความที่พ่อเป็นคนเจ้าระเบียบ เขาถูกส่งไปเรียนที่อัสสัมชัญ ศรีราชา โรงเรียนชายล้วน ด้วยความที่เรียนเก่ง เริ่มสอบเทียบอยู่หลายปี ตั้งแต่อยู่มัธยมศึกษาปีที่ 4 จนกระทั่งเอ็นทรานซ์ได้คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทางภาคใต้&nbsp; แต่เจ้าตัวไม่ชอบ&nbsp; จึงมุมานะอ่านหนังสื่อและเริ่มสอบเอ็นทรานซ์อีกครั้ง สุดท้ายสมใจ เขาสามารถสอบเข้าได้คณะวิศวกรรม และศึกษาจนจบระดับปริญญาตรี

&nbsp;หลังเกิดเหตุ สื่อ และเจ้าหน้าที่ต่างวิเคราะห์พฤติกรรมของ&nbsp; เสริม&nbsp; ว่าเป็นคนเก็บกด&nbsp; ไม่ค่อยพูดค่อยจาถูกกดดันด้านการเรียน จากครอบครัว&nbsp; พ่ออยากให้เรียนหมอจะได้เป็นหน้าเป็นตาให้กับวงตระกูล&nbsp; แต่ไหนเลยใครจะรู้ว่าสาเหตุที่เสริมตัดสินใจเรียนแพทย์&nbsp; แท้จริงแล้ว เป็นเพราะหญิงสาวที่ชื่อ เจนจิรา&nbsp;ย้อนกลับไปสมัยที่&nbsp; เสริม&nbsp; เรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่โรงเรียนที่มีแต่ผู้ชายล้วน ทำให้เขาศรัทธา เลื่อมใส แนวคิดตามศาสนาคริสต์&nbsp; จนกระทั่งเข้ามาศึกษาระดับปริญญา ในกรุงเทพมหานคร และเข้าร่วมเป็นสมาชิก สภาศริสตจักรย่าน คลองเตย สถานนี้ทำให้เขาได้เจอกับ &nbsp;เจนจิรา ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมในฐานะสมาชิกใหม่ &ldquo;เขาเคยพูดถึงเรื่องอนาคตของเขา&nbsp; กับเราว่า หากเรียนจบแล้วอยากจะไปอยู่เมืองนอก&nbsp; และอยากมีแฟนเป็นหมอ &nbsp;คือตอนนั้นเราคบกันแบบเพื่อน&nbsp; ยังไม่ได้บอกว่าเราชอบเขา และจากตรงนั้นทำให้เราตัดสินใจเรียนหมอ&rdquo;&nbsp; นี้คือคำสัมภาษณ์ส่วนหนึ่ง ของ เสริม&nbsp; ในคอลัมน์&nbsp; HI CLASS &nbsp;ระหว่างที่ต้องโทษอยู่ในเรือนจำ &nbsp;ที่บอกถึงเจตนาเรียนทางด้านแพทย์ &nbsp;เพราะตกหลุมรักหญิงสาวที่ชื่อเจนจิรา จากการที่ทั้งคู่มีนิสัย การใช้ชีวิตที่เหมือนกัน&nbsp; รวมไปถึงสภาพครอบครัว ทำให้ทั้งคู่พูดคุย เข้าใจ และรู้ใจกันและถึงขึ้นไว้ใจ ทำให้ระยะหลัง เจนจิรา มักจะไปพักที่ห้องพักของเสริม สลับกับการกลับบ้านตัวเอง &nbsp; &nbsp;แต่ความผิดปกติเริ่มเกิดขึ้น เริ่มจากเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2541 นางสุดา ปรัชญาภัทร&nbsp; แม่ของ เจนจิรา พลอยองุ่นศรี&nbsp; ได้เข้าพบ พ.ต.ต.วิศาล&nbsp; พันธุ์มณี สว.สส.สน.พญาไท&nbsp; เพื่อแจ้งความว่าลูกสาวของตนเองได้หายตัวไป อย่างน่าสงสัย&nbsp; พร้อมกับรถยนต์โตโยต้า ทะเบียน 8ษ8580 กทม.&nbsp; และทรัพย์สินบางส่วน&nbsp; ผู้ที่น่าสงสัยคือ เสริม สาครราษฎร์ เพื่อนชายคนสนิท ก่อนที่จะมาแจ้งความนางสุดา ได้ไปหา นายเสริม&nbsp; ที่ห้องพัก&nbsp; พร้อมกับขอเข้าไปด้านในห้อง&nbsp; แต่นายเสริม ปฏิเสธอ้างไม่รู้เรื่องการหายตัวไปของลูกสาว&nbsp; และไม่ยอมให้เพื่อนและญาติเข้าไปในห้องพัก จากคำบอกเล่าพบพิรุจในหลายจุด ทำให้เจ้าหน้าที่เรียกเพื่อนของ เจนจิรา&nbsp; รวมถึง นายเสริม เข้าสอบปากคำ&nbsp;จากการสอบปากคำ นายเสริม พบพิรุจหลายจุดก็จริง&nbsp; แต่ เจ้าหน้าที่ยังไม่มีหลักฐาน จำต้องปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยไปก่อน ด้วยสัญชาตญาณ สายสืบ ที่มองว่าเรื่องนี้ผิดปกติ จึงจัดชุดเฝ้าสะกดรอย ดูความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัย แล้วนำมาประมวล&nbsp; ประกอบกับเทคนิคการสอบสวน แบบเข้มข้น สุดท้าย เสริม เริ่มคายข้อมูลยอมรับสารภาพ &nbsp;ช่วงหน้าเราจะพาท่านผู้ชมไปดูการสืบสวน ชนิดพลิกหน้าวงการนิติวิทยาศาสตร์ และพูดคุยกับ&nbsp; แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์&nbsp; อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ &nbsp;ที่ในช่วงนั้นลงมาปฏิบัติหน้าที่ในคดีนี้ด้วยตัวเอง

Nation Crime “พิศวาสฆาตกรรม” เสริมฆ่าหั่นศพเจนจิรา เบรก 1

รพีพรรณ&nbsp; : ปฎิเสธไม่ได้ว่ามูลเหตุจูงใจในการฆ่าหมอผัสพรนั้น มาจากการที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยมีเรื่องราวฟ้องร้องกันมาก่อน ทั้งเรื่องการหย่าร้างและแบ่งทรัพย์สินกันมาแล้ว และทั้งคู่เคยทะเลาะกันจนถึงขั้นที่หมอวิสุทธิ์เคยทำร้ายหมอผัสพร 

&nbsp; เมื่อการสอบสวนของตำรวจเสร็จสิ้น จึงสรุปสำนวนส่งให้อัยการ แต่อัยการ สั่งไม่ฟ้อง ทำให้นายโชติ วัฒนเชษฐ์ พ่อของ พญ.ผัสพร ยื่นฟ้องเองต่อศาล และศาลอาญา ได้ประทับรับฟ้องน.พ.วิสุทธิ์ ในข้อหากระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และกระทำความผิดฐานซ่อนเร้นทำลายศพ และปลอมแปลงเอกสาร จดหมายลางานของผู้ตาย//

&nbsp;คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิตหมอวิสุทธิ์&nbsp; โดยศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาได้พิพากษายืน ประหารชีวิตสถานเดียว ต่อมาหมอวิสุทธิ์ ได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ และเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ปีเดียวกัน ก็มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2550 โดยหมอวิสุทธิ์ ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต//

&nbsp;ล่าสุดพ่อของหมอผัสพรได้เสียชีวิตด้วยโรคชรา ส่วนลูกทั้ง 2 คน ก็ยังติดต่อกับครอบครัวทั้ง 2 ฝ่ายด้วยดี //

&nbsp;รพีพรรณ : คดีนี้ชี้ให้เห็นถึงเรื่องความสัมพันธ์ของสถาบันครอบครัว ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความสำคัญ ที่พึ่งมีทั้งคุณธรรมและจริยธรรม ป้องกันการกระทำความรุนแรงในทุกรูปแบบ รวมถึงปลุกจิตสำนึกในการกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนในสังคม ตระหนักถึงความสำคัญของการสื่อสารภายในครอบครัว เพื่อแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและสังคม ไม่ให้บานปลายไปสู่เหตุสะเทือนใจ เช่นนี้

&nbsp;

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			&nbsp;สัปดาห์หน้า พบกับคดีฆ่าหั่นศพ ที่มีต้นเหตุเกิดจากความรัก กับ &ldquo;คดีพิศวาสฆาตกรรม&rdquo; ฆ่าหั่นศพเจนจิรา ในเมื่อรักมากจนยากจะจากลา เขาเลยพลั้งมือฆ่าเธอ เราจะย้อนรอยกลับไปกว่า 25 ปี กับ รักต้องฆ่า เสริม สาครราษฎร์ สัปดาห์หน้า สวัสดีค่ะ
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

Nation Crime คดีที่ไร้คำสารภาพ “หมอวิสุทธิ์ฆ่าหั่นศพภรรยา” 3

รพีพรรณ : จากการแจ้งความภรรยาหาย สู่หลักฐานที่ตำรวจพบค่อยๆเผยขึ้นมาทีละน้อย ทำให้ตำรวจยิ่งมั่นใจว่าหมอวิสุทธิ์เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของหมอผัสพร ทั้งภาพวงจรปิด ทั้งข้อความที่เพจเจอร์&nbsp; และจดหมายปริศนาที่อ้างว่าเป็นของหมอผัสพรอีก ตำรวจสืบพบอะไรที่น่าสงสัยอีก เราไปพูดคุยกับคุณพรรณทิพากันค่ะ

&nbsp;

พรรณทิพา :&nbsp; เมื่อทุกอย่างเริ่มมีเงื่อนงำ ตำรวจสืบไปจนพบว่าหมอวิสุทธิ์ได้ไปเปิดห้องพักแห่งหนึ่ง ภายในอาคารวิทยนิเวศน์ ตั้งอยู่ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเอาไว้ นำไปสู่การเข้าตรวจค้นห้องพักในอาคารวิทยนิเวศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

&nbsp;ที่ห้องพักพบคราบเลือดภายในท่อน้ำทิ้ง ยิ่งทำให้มั่นใจว่านี่จะนำไปสู่หลักฐานสำคัญ บวกกับข้อมูลนี้ยังสอดคล้องกับพยานที่ได้ยินเสียงกดชักโครกดังทั้งคืนภายในห้องดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่จึงนำรถมาดูดสิ่งปฏิกูลในบ่อเกรอะของอาคาร จนพบชิ้นเนื้อมนุษย์น้ำหนัก 3,330 กรัม ซึ่งเป็นชิ้นเนื้อที่ยังสดใหม่อยู่ และเมื่อเอาชิ้นเนื้อไปตรวจดีเอ็นเอ ปรากฎว่าตรงกับดีเอ็นเอของหมอผัสพร เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับเลือดของลูกชายหมอผัสพร ก็ตรงกันทั้งหมด 

สรุปได้ว่าชิ้นเนื้อเหล่านั้นเป็นของหมอผัสพร ยืนยันด้วยผลตรวจของแพทย์นิติเวช ชิ้นเนื้อที่พบเป็น ลำไส้ ปอด กระบังลม โดยถ้าหากมนุษย์ขาดอวัยวะเหล่านี้บุคคลนั้นย่อมถึงแก่ความตายแน่นอน//

รพีพรรณ : หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ถือเป็นหลักฐานสำคัญในคดีนี้ ไม่ต่างจากพยานบุคคลที่มาให้ปากคำกับตำรวจ รวมไปถึงกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานอื่นๆ ที่ตำรวจรวบรวมไว้ได้ คุณพรรณทิพา ได้ไปพูดคุยกับอดีตตำรวจ ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนคดีนี้ด้วย เป็นอย่างไรบ้าง

&nbsp;

พรรณทิพา :&nbsp; ใช่ค่ะ แม้ว่าปัจจุบันท่านจะเกษียณอายุราชการไปแล้ว โดยตำแหน่งสุดท้ายคืออดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี แต่ยังจดจำคดีนี้เป็นอย่างดี &nbsp;

โดยย้อนไปในขณะนั้นอดีตพนักงานสอบสวนคดีนี้ตั้งข้อสังเกตุหลายข้อ ที่จับข้อพิรุธความผิดปกติของหมอวิสุทธิ์ได้ 

โดยเริ่มตั้งแต่หมอวิสุทธิ์บอกว่าภรรยาตัวเองส่งข้อความทางเพจเจอร์ว่าจะไปปฎิบัติธรรมเป็นเวลา 7 วัน ขอให้ไปรับลูกแทน ซึ่งพอตรวจสอบไปยังศูนย์ข้อความวิทยุเพจเจอร์กลับไม่พบข้อความที่หมอผัสพรฝากไว้ตามที่กล่าวอ้าง

&nbsp;มีจดหมายมาที่โรงพยาบาลรถไฟ อ้างว่าหมอผัสพรลางาน 7 วัน อีกฉบับส่งถึงลูก โดยระบุข้อความในนั้นว่า ให้ป๊า(หมอวิสุทธิ์)ดูแล ขณะที่เพื่อนสนิทของหมอผัสพรที่โรงพยาบาลบอกว่า ลายเซ็นในจดหมายนั้นไม่ใช่ลายเซ็นหมอผัสพร และปกติหมอผัสพรจะไม่ลางานในลักษณะแบบนี้ โดยจดหมายนี้ส่งมาจากจังหวัดจันทบุรี 

&nbsp;ตำรวจมีการตรวจน้ำหมึกลายเซ็นต์ในจดหมายปรากฏว่า น้ำหมึกนั้นเป็นปากกาของหมอวิสุทธิ์ที่ใช้อยู่ประจำ

และ หมอวิสุทธิ์ใช้บัตรเครดิตในการรูดจ่ายค่าอาหาร ที่ไปรับประทานอาหารกับภรรยาที่ร้านโออิชิในวันเกิดเหตุ แต่จากการสอบปากคำทุกครั้งหมอวิสุทธิ์จะยืนยันว่าไม่ได้เจอภรรยาตัวเองมานานแล้ว ซึ่งขัดกับพยานหลักฐานที่ตรวจพบ อีกทั้งจากการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตของหมอวิสุทธิ์ พบว่าถูกใช้ในการซื้อถุงขยะขนาดใหญ่ ก้อนดับกลิ่น กระดาษทิชชู่ เป็นจำนวนมาก ที่ย่านสีลม 

&nbsp; หมอวิสุทธิ์มีการเบิกยา Dormicum (อ่านว่า ดอร์มิคุม ) มาจากโรงพยาบาลจุฬา 50 เม็ด ซึ่งเบิกมาก่อนเกิดเหตุ 1-2 สัปดาห์ ในใบเบิกระบุว่าเบิกมาให้แม่ แต่จากการตรวจสอบประวัติการรักษา แม่ไม่จำเป็นต้องใช้ยานอนหลับชนิดนี้&nbsp; และที่สำคัญ พบว่าทั้งคู่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมา 1-2 ปีแล้ว ความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

รพีพรรณ :&nbsp; มูลเหตุจูงใจอะไรที่ทำให้หมอวิสุทธิ์ลงมือฆ่าภรรยาตัวเอง และหั่นศพเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่ออำพรางคดี และในท้ายที่สุดแล้วศาลมีคำพิพากษาคดีนี้อย่างไร ติดตามต่อช่วงหน้าค่ะ

Nation Crime คดีที่ไร้คำสารภาพ “หมอวิสุทธิ์ฆ่าหั่นศพภรรยา” 2

&nbsp;&nbsp;สัปดาห์นี้เรายังคงนำเสนอซีรีย์ฆ่าหั่นศพตลอดเดือนเมษายน // หากพูดถึงคดีฆ่าหั่นศพ หลายคนคงนึกถึงคดี นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ รพ.จุฬาฯ ฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ รพ.บุรฉัตรไชยากร หรือ โรงพยาบาลรถไฟ ภรรยาตัวเอง เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2544 หรือ 22 ปีที่แล้ว ได้เป็นอย่างดี หรือจะเรียกว่าเป็น &ldquo; คดีฆาตกรรมซ่อนเงื่อน&rdquo; ก็ว่าได้ เพราะคดีนี้สะเทือนขวัญไปทั้งวงการแพทย์และคนทั่วไปเป็นอย่างมาก แม้ว่าคดีนี้จะไม่มีประจักษ์พยาน และไม่มีศพผู้ตาย แต่จากผลการตรวจนิติวิทยาศาสตร์ก็สามารถเอาผิดผู้ก่อเหตุมาลงทัณฑ์ได้

&nbsp;&nbsp;อะไรที่ทำให้สามีที่เป็นถึงหมอที่มีฝีมือดีถึงระดับประเทศ //มีชื่อเสียงโด่งดัง ถึงทำกับภรรยาตัวเองได้อย่างลงคอ และยังทำลายศพเพื่ออำพราง ชนวนเหตุมาจากอะไร มาไขคดีนี้พร้อมกันค่ะ

&nbsp;ย้อนไป 23 กุมภาพันธ์ 2544 หมอวิสุทธิ์ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน. พญาไท หลังภรรยาตัวเอง หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย // เมื่อตำรวจได้สอบปากคำหมอวิสุทธิ์ ก็พบความผิดปกติหลายอย่าง โดยพบเบาะแสสำคัญว่า หมอวิสุทธิ์ เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับหมอผัสพร 

รพีพรรณ : แนวทางทางการสืบสวนเริ่มต้นขึ้นเมื่อคำให้การของหมอวิสุทธิ์นั้นขัดกับหลักฐานที่ตำรวจพบอย่างสิ้นเชิง โดยตำรวจยังได้ข้อมูลว่า ช่วงหลังสองสามีภรรยามีเหตุวิวาทกับบ่อยครั้ง จนต้องห่างกัน แต่ในครั้งนี้หมอผัสพรยอมมาพบกับหมอวิสุทธิ์เนื่องจาก หมอวิสุทธิ์นั้นอยากจะขอปรับความเข้าใจขอคืนดี หมอผัสพรจึงยอมมาพบ ซึ่งครั้งนั้นอาจจะเป็นการพบเจอกันในครั้งสุดท้ายในชีวิตขอหมอผัสพร

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			แนวทางการสืบสวนทราบว่าหมอวิสุทธิ์มีการเตรียมและวางแผนไว้ล่วงหน้า โดยได้ไปเปิดห้องพักแห่งหนึ่ง ภายในอาคารวิทยนิเวศน์ ตั้งอยู่ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเอาไว้แล้ว และหลังจากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. วันเดียวกันได้เดินทางไปรับลูกที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ กลับไปส่งบ้านพักย่านลาดพร้าว ก่อนจะไปซื้อถุงขยะขนาดใหญ่ พร้อมก้อนดับกลิ่น และกระดาษชำระ ที่ห้างแห่งหนึ่ง ย่านสีลม//

			&nbsp;

			&nbsp; นอกจากนี้แนวทางการสืบสวนยังพบว่า มีการว่าจ้างให้พยานที่รับพิมพ์เอกสารที่ร้านแห่งหนึ่ง พิมพ์จดหมายขึ้นมา 2 ฉบับ ฉบับแรกส่งถึง ผอ.รพ.บุรฉัตรไชยากร ฉบับที่ 2 ส่งถึงลูกของเขาทั้ง 2 คน ซึ่งมีเนื้อหาใจความว่า &ldquo;ขอไปปฏิบัติธรรมต่างจังหวัด 7 วัน&rdquo; พร้อมลงลายมือชื่อหมอผัสพร เป็นจดหมายที่ถูกส่งมาจากจังหวัดจันทบุรี//

			รพีพรรณ : ทุกอย่างเริ่มมีเงื่อนงำ เมื่อคำกล่าวของหมอวิสุทธิ์นั้นขัดแย้งกับหลักฐานที่ตำรวจพบอย่างสิ้นเชิง เกิดอะไรขึ้นในห้องพักอาคารวิทยนิเวศน์ ที่ตั้งอยู่ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ห้อง 318 และหมอผัสพรหายไปไหน จดหมายปริศณานี้มาได้อย่างไร มาติดตามและหาคำตอบได้ใน Nation Crime ช่วงหน้าค่ะ
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

Nation Crime คดีที่ไร้คำสารภาพ “หมอวิสุทธิ์ฆ่าหั่นศพภรรยา” 1

รพีพรรณ : ในแง่กฎหมายคดีแอบบี้ ชอย ลูกทั้ง 4 คนที่เกิดจากทั้งสามีเก่าและสามีใหม่ มีสิทธิ์ในมรดกเท่าๆกันทุกคน เพราะถือว่าเป็นผู้สืบสันดานจากเจ้ามรดก ส่วนอดีตสามีเมื่อหย่าร้างกันแล้ว ทรัพย์สินที่มีก็ต้องแบ่ง แต่ทรัพย์สินที่ได้มาหลังจากการหย่าไม่ถือเป็นสินสมรส 

&nbsp;

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ และรองโฆษกสภาทนายความ อธิบายว่า กฎหมายไทย หากหญิงชายจดทะเบียนสมรสด้วยกัน ทรัพย์สินใดที่ได้มาระหว่างการสมรสให้ถือว่าเป็นสินสมรส และทรัพย์สินใดที่ได้มาโดยการให้ทางมรดกหรือให้โดยเสห์หา ถ้าต้องการให้เป็นสินสมรสต้องระบุให้เป็นสินสมรส แต่หากไม่ระบุถือว่าเป็นสินส่วนตัว แต่ถ้าเป็นทรัพย์สินที่งอกเงยขึ้นมาระหว่าง 2 คน ให้ถือเป็นสินสมรส //

			&nbsp;

			VO13&nbsp; ทั้งนี้ถ้าหากอยู่กินด้วยกันและมีบุตร แต่ภายหลังเกิดการหย่าร้าง ถ้าบุตรบรรลุนิติภาวะแล้วไม่มีปัญหา แต่ถ้าบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ คืออายุยังไม่ครบ 20 ปี ตอนหย่าจะต้องมีการตกลงกันว่าให้อำนาจการปกครองอยู่กับฝ่ายแม่หรือฝ่ายพ่อ หรือจะใช้อำนาจปกครองร่วมกัน ข้อนี้ต้องตกลงกันให้ได้ ถ้าตกลงกันไม่ได้ศาลจะเป็นคนชี้และอาจจะไปยอมความกันที่ศาล// &nbsp;และเมื่อหย่ากันแล้วทรัพย์สินก็ต้องแบ่ง แต่ทรัพย์สินที่ได้มาหลังจากการหย่าไม่ถือเป็นสินสมรส //

			&nbsp;

			VO14&nbsp; แต่ถ้าลูกไม่บรรลุนิติภาวะต้องไปดูว่ามีการทำพินัยกรรมหรือไม่ และพินัยกรรมกำหนดให้ใครเป็นผู้จัดการมรดกที่ต้องดูแล หรือกำหนดให้ใครเป็นผู้ปกครองทรัพย์ของผู้เยาว์ที่ต้องดูแล//

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			ทนายความ ยังบอกอีกว่า กฎหมายเรื่องการสมรส การจดทะเบียน หรือมรดก ในประเทศไทยกับกฎหมายต่างประเทศ ใกล้เคียงกันตรงที่ว่า คนที่มีสิทธิ์ที่จะได้รับมรดก ต้องเป็นคนที่ใกล้ตัวก่อน นั่นก็คือลูก ซึ่งเป็นผู้สืบสันดารโดยตรง//

			&nbsp;รพีพรรณ :&nbsp; แม้เวลาจะผ่านมานานถึง 22 ปีแล้ว แต่คดีหมอวิสุทธ์ บุญเกษมสันติ ที่ฆ่าและชำแหละศพภรรยา พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ ยังคงทำให้ใครหลายคนลืมไม่ลง เมื่อนึกถึงคดีการฆ่าหั่นศพ ปฎิเสธไม่ได้ว่าคดีนี้จะถูกพูดถึงอีกครั้ง อะไรที่ทำให้หมอลงมือฆ่าภรรยาตัวเองได้ลงคอ และล่าสุดครอบครัวพญ.ผัสพร เป็นอย่างไร ไปย้อนรอยคดีดังกับเนชั่นไครมสัปดาห์ค่ะ 
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

Nation Crime ฆ่าหั่นศพ ต้มซุป นางแบบสาว "แอบบี้ ชอย" 3

<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			รพีพรรณ : แน่นอนว่าสาเหตุที่ทำให้ทุกคนอยากรู้มากที่สุดว่าทำไม แอบบี้ ชอย จึงถูกอดีตสามี และคนในครอบครัว ร่วมกันวางแผน และลงมือก่อฆาตกรรมก่อนหั่นศพ มาไขปริศนานี้พร้อมกันค่ะ

			ย้อนไปในขณะที่แอบบี้ ยังแต่งงานและคบกับอเล็กซ์อยู่ โดยแอบบี้วางแผนที่จะซื้ออพาร์ตเมนต์หรูให้ครอบครัวของอเล็กซ์อยู่ โดยอเล็กซ์พูดโน้มน้าวเธอว่าให้ใช้ชื่อของบิดาเขาเป็นการชั่วคราวในการซื้ออพาร์ตเมนต์หรูหลังนี้ เพราะจะช่วยลดภาษีที่ต้องจ่ายในการซื้อขายได้มาก พร้อมกับสัญญาว่าถ้าอนาคตเกิดจะขายอพาร์ตเมนต์ก็จะเอาเงินคืนให้แอบบี้

			และหลังจากแอบบี้กับอดีตสามีได้หย่าร้างกัน ครอบครัวของอเล็กซ์ก็ยังคงอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์นี้ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 68 ล้านหยวน หรือประมาณ 340 ล้านบาท (ตัวเลขไม่นิ่ง เชคอีกที)

			พรรณทิพา &nbsp;: ปลายปีที่แล้วแอบบี้ตั้งใจจะขายอพาร์ตเมนต์ แต่ฝ่ายครอบครัวของอดีตสามีไม่ยอม พวกเขาจึงมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง แม้แอบบี้จะเสนอที่อยู่ใหม่ให้ก็ตาม

			ความสัมพันธ์ของแอบบี้กับครอบครัวอดีตสามีนั้นตึงเครียดขึ้น จึงพยายามหาทางออกโดยใช้กฎหมาย ซึ่งเธอพบว่าถ้าเธอมีหลักฐานในการซื้ออพาร์ตเมนต์นี้ เธอก็มีโอกาสที่จะได้ที่แห่งนี้คืน

			รพีพรรณ : จากข้อมูลการสืบสวนพบว่า พ่อของอดีตสามี ซึ่งเคยเป็นตำรวจเก่า เป็นคนวางแผนฆ่า โดยผู้ก่อเหตุที่เหลือก็ร่วมรู้เห็นด้วยเรามาดูทางด้านนักอาชญาวิทยาวิเคราะห์พฤติกรรมการก่อเหตุของผู้ต้องหากลุ่มนี้กันค่ะว่าเป็นอย่างไร คุณพรรณทิพา ได้ไปพูดคุยมาค่ะ

			&nbsp;พรรณทิพา &nbsp;: นักอาชญาวิทยาด้านจิตวิทยา ม.มหิดล วิเคราะห์แบบนี้ค่ะ อยากให้แยกออกเป็น 2 อย่าง คือการฆาตกรรม กับการทำลายศพเพื่ออำพราง ซึ่งการทำลายศพก็มีหลากหลายวิธีหนึ่งในนั้นคือการฆ่าหั่นศพ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องวิเคราะห์คือแรงจูงใจในการฆ่า ในคดีของแอบบี้ ชอย ผู้ก่อเหตุไม่ได้มีคนเดียว คดีนี้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องทรัพย์สินผลประโยชน์ การที่แอบบี้ชอยหายไปจากโลกใบนี้ เขาจะได้อะไรบ้างนั่นก็คือผลประโยชน์ก้อนโตแน่นอน&nbsp;ถ้าถามว่าเขาคิดอะไรอยู่ขณะก่อเหตุ อย่างแรกคือคิดเรื่องทรัพย์สิน ไม่อยากเสียทรัพย์สินนี้ไป ซึ่งอาจใช้วิธีการประนีประนอมแล้วไม่ได้ผล จึงมีการเรียกไปพูดคุยกันในรถแล้วอาจจะเกิดการฆ่ากันขึ้น ส่วนวิธีการทำลายศพเป็นวิธีที่เกิดขึ้นทีหลังอีกทั้งพ่ออดีตสามีก็เป็นอดีตตำรวจ อาจจะรู้วิธีการทำลายหลักฐานได้ดีกว่าคนอื่น จึงใช้วิธีการหั่นศพ เพราะเชื่อว่าน่าจะง่ายต่อการทำลาย

			รพีพรรณ : และการหายตัวไปของคนมีชื่อเสียง แน่นอนว่าต้องเป็นข่าวดัง ตำรวจต้องสืบสาวราวเรื่องได้อย่างแน่นอน และทำไมเขาถึงกล้าลงมือได้ขนาดนี้ค่ะ

			พรรณทิพา &nbsp;: ต้องแบ่งออกเป็น 2 มุมค่ะ&nbsp; คืออันดับแรกเขาอาจจะไม่ได้วางแผนไว้ อาจจะเกิดการพูดคุยกันไม่รู้เรื่องจึงลงมือก่อเหตุ ณ ขณะนั้น // กับอีกอย่างคือเป็นการวางแผนไว้แล้ว ซึ่งนั่นเขาต้องมั่นใจมากว่าการหายไปของคนๆนี้จะไม่สาวมาถึงตัว มั่นใจว่าการทำลายศพจะสำเร็จ แต่ดันมาถูกจับกุมก่อน ซึ่งเป็นไปได้ทั้ง 2 แง่มุม

			แต่จุดอ่อนของฆาตกรกลุ่มนี้ คือการซื้อของ ทั้งเสื้อกันฝน ถุงขยะใบใหญ่ อุปกรณ์ทำความสะอาด ผ้าใบ หากดูโดยรวมการซื้อของเหล่านี้ก็พอจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าซื้อเอาไปทำอะไร รวมถึงสืบสวนเส้นทางการใช้เงิน คดีนี้ก็จะเกิดความชัดเจนมากขึ้น

			&nbsp;

			&nbsp;

			นักอาชญาวิทยาด้านจิตวิทยา และพฤติกรรมอาชญากร คณะสังคมศาสตร์ฯ ม.มหิดล ยังระบุถึงภาพรวมในคดีการฆ่าหั่นศพว่า แต่ละคดีความรู้สึกนึกคิดผู้ก่อเหตุแตกต่างกันไป &nbsp;ที่สำคัญจะต้องศึกษาปูมหลังของแต่ละคน ตั้งแต่เขาเกิดมาจนถึงปัจจุบัน เพราะทุกสิ่งรอบตัวที่เขาต้องเผชิญจะส่งผลให้เขาเป็นแบบนั้น &nbsp;ส่วนการทำลายศพโดยการหั่นศพเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อง่ายแก่การอำพราง แต่หารู้ไม่เป็นวิธีที่ทิ้งหลักฐานมากที่สุด 

			&nbsp;

			&nbsp;อ.ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาด้านจิตวิทยา และพฤติกรรมอาชญากร คณะสังคมศาสตร์ฯ ม.มหิดล

			&nbsp;

			(ประเด็น กระดูมนุษย์เราค่อนข้างใหญ่ หัวกะโหลก ต้นขา ไม่สามารถทำลายได้ง่ายๆ เหมือนกระดูกสัตว์เล็กๆ พูดยาวๆไป จบที่ อยู่ที่สถานที่เอื้อการทำลายศพแบบใด +

			ช่วงขณะหั่นศพ จากคดีประวัติศาสตร์เก็บข้อมูลมา ทั้งวันรุ่นอายุน้อย หรือผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการผ่า เช่น อาชีพแพทย์ ปฎิเสธไม่ได้ว่าอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเลือดเนื้อแผล จะมีความเคยชิน ไม่ได้รู้สึกกลัว ดังนั้นการชำแหละศพ ไม่ได้ตกใจ เพราะเขามีความรู้เรื่องโครงสร้างมนุษย์ หรืออาชีพคนขายเนื้อ ชำชองการใช้อาวุธมีดของมีคม ถ้าเป็นคนทั่วไป อย่างวัยรุ่น สมองทำหน้าที่ไม่เต็มที่&nbsp; )

			รพีพรรณ : จากปมปัญหาความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สินที่เป็นชนวนเหตุ นำไปสู่คดีสะเทือนขวัญฆ่าหั่นศพแอบบี้ชอย ช่วงหน้าทนายความ จากสภาทนายความ จะมาให้ความรู้ถึงข้อกฎหมายเรื่องทรัพย์สินมรดก ว่าถ้าหากเจ้าของทรัพย์นั้นเสียชีวิตแล้ว ใครจะเป็นผู้รับมรดกนั้นต่อไป //อีกทั้งกฎหมายไทยกับกฎหมายในต่างประเทศเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ติดตามเนชั่นไครม ช่วงหน้าค่ะ
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>

Nation Crime ฆ่าหั่นศพ ต้มซุป นางแบบสาว "แอบบี้ ชอย" 2

Nation Crime ฆ่าหั่นศพ ต้มซุป นางแบบสาว "แอบบี้ ชอย" 1

<div>
<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			รพีพรรณ : &nbsp;ปฎิเสธไม่ได้ว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ทั้ง 2 กรณีนี้ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมากขึ้น โดยผู้เสียหายออกมาแจ้งความดำเนินคดีมากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ไม่กล้า เพราะเกิดความอับอายและหวาดกลัว ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขสถิติของมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม ปี 2564 พบความรุนแรงทางเพศ ร้อยละ 48 &nbsp;// และปี 2565 พบความรุนแรงทางเพศ ร้อยละ 73 จะเห็นตัวเลขความรุนแรงพุ่งสูงขึ้น ส่วนใหญ่ผู้ก่อเหตุจะเป็นคนใกล้ตัว ซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนได้ว่าการเกิดเหตุมีจำนวนมากขึ้นจริง//
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			&nbsp;ผู้อำนวยการมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม&nbsp; ยอมรับว่า ประเทศไทยไม่มีศูนย์ที่รับเรื่องคดีข่มขืนโดยตรง จึงทำให้ผู้เสียหายเข้าไม่ถึงสิทธิของกระบวนการยุติธรรมและเงินเยียวยา ถ้าแก้ไขตรงนี้ได้จะเกิดผลดีและตัวเลขคดีข่มขืนจะลดลง//
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			จากกรณีที่เกิดขึ้นทั้ง 2 เหตุการณ์ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยเฉพาะระบบบริการที่เอื้อต่อการนำไปสู่การเรียกร้องสิทธิตามกฎหมาย และคนผิดได้รับการลงโทษ ขณะที่กฎหมายคดีข่มขืนมีการปรับแก้กฎหมายมาโดยตลอด จากเดิมยอมความได้ จนช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ปี 2562 มีการปรับแก้กฎหมายว่าการข่มขืนกระทำชำเราเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ และการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของพนักงานรถไฟก่อนรับเข้าทำงาน//

			&nbsp;

			<div>
			<table align="left" hspace="0" vspace="0">
				<tbody>
					<tr>
						<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
						&nbsp;ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เพิ่มมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น ทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิดในขบวนรถไฟ และการยกเลิกการขายสินค้าในขบวนรถไฟ
						</td>
					</tr>
					<tr>
						<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
						&nbsp;รพีพรรณ : หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สร้างเสียงเรียกร้องให้การรถไฟหาขนทางป้องกันและมาตรการความปลอดภัยที่รัดกุมแน่นหนาขึ้นมากกว่าเดิม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย เร่งฟื้นความเชื่อมั่นในการให้บริการให้กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด ได้แก่ การยกระดับคุณภาพพนักงาน รฟท. คุณภาพการบริการบนขบวนรถ และคุณภาพการรักษาความปลอดภัยบนขบวนรถ ด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดในขบวนรถไฟ และการยกเลิกการขายสินค้าในขบวนรถไฟ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและมั่นใจในการเดินทางแก่ผู้โดยสารที่เป็นสุภาพสตรี และผู้โดยสารที่เดินทางคนเดียว และหวังว่าเหตุการณ์อันโหดร้ายดังกล่าว จะไม่เกิดขึ้นกับใครอีก&nbsp; 
						</td>
					</tr>
				</tbody>
			</table>
			</div>

			&nbsp;
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>
</div>

Nation Crime ย้อนรอยคดีฆ่าข่มขืนเด็กทิ้งรถไฟ 3

<table align="left" hspace="0" vspace="0">
	<tbody>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			รพีพรรณ : เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องแก้มไม่ได้เป็นเหยื่อรายแรก แต่กลับมีผู้เสียหายหญิงอีกคนที่โดนกระทำทางเพศจากพนักงานบนรถไฟ เช่นเดียวกัน เดี๋ยวเราไปพูดคุยกันต่อกับคุณพรรณทิพา ค่ะ

			&nbsp;พรรณทิพา &nbsp;: &nbsp;ค่ะคุณรพีพรรณ เมื่อย้อนไปเมื่อปี 2544 บนรถไฟขบวนสายสุไหงโกลก-กรุงเทพฯ ผู้เสียหายเดินทางเพียงลำพังมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างทางได้เกิดเหตุร้ายขึ้น หลังถูกลูกจ้างปูที่นอน ข่มขืนขณะนอนหลับ 

			&nbsp;หลังเกิดเหตุต้องยอมรับว่า ชีวิตเธอเหมือนตายทั้งเป็นจมอยู่กับอดีต ทำร้ายตัวเองจนเกือบเสียชีวิต และเป็นโรคซึมเศร้าตามมาจนต้องรักษาอาการป่วย 

			&nbsp;หลายอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ ทำให้เธอต้องตัดสินใจย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เพราะไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อในไทยได้ ทั้งที่ตำแหน่งหน้าที่การงานกำลังไปได้สวย แต่เมื่อเกิดเหตุทำให้เธอถูกจ้างให้ออกจากงาน และคนในสังคมที่มีทั้งที่ให้กำลังใจเธอและมีการซ้ำเติมเธอ

			คดีที่เกิดขึ้นมีการตั้งคำถามดังๆจากสังคมว่า ความปลอดภัยในการเดินทางของผู้หญิงเพียงลำพังอยู่ตรงไหน เธอจึงเดินหน้าเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

			&nbsp;รพีพรรณ : คดีนี้เห็นว่าก็มีการเรียกร้องคดีขมขืนเท่ากับโทษประหารเหมือนกันใช่ไหมค่ะ

			พรรณทิพา &nbsp;: ใช่ค่ะ ผู้เสียหายคดีนี้ เห็นด้วยกับโทษประหารชีวิตสถานเดียว และเรียกร้องให้กฎหมายมีบทลงโทษรุนแรงมากกว่านี้ เพราะเธอไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้าย แต่กลับเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งในคดีของน้องแก้ม ปี 2557

			VO6 หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เดินหน้าแจ้งความตำรวจ และขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิเพื่อนหญิง จนมีการต่อสู้คดีกันในชั้นศาล ศาลตัดสินลงโทษจำเลยจำคุก 9 ปี //ส่วนการรถไฟก็มีการต่อสู้กันในชั้นศาล จนในที่สุดก็ชดใช้เงินค่าเสียหายให้ผู้เสียหายเป็นเงินจำนวนหนึ่ง//

			VO7 หลังจากเกิดเหตุกรณีของเหยื่อรายนี้แล้ว ยังเกิดคดีของน้องแก้มขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเธอเห็นข่าวนี้ก็เกิดความรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก พร้อมตั้งข้อสังเกตอีกว่าทำไมการรถไฟไม่มีมาตรการความปลอดภัย แต่ยังปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำอีก//

			VO8 เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เธอเดินหน้าช่วยเหลือสังคมโดยเฉพาะผู้หญิงที่ถูกกระทำทางเพศ จนได้รับรางวัลสตรีนักสิทธิมนุษยชน เนื่องในวันสตรีสากล ปี 2547 //และได้รับรางวัลสตรีดีเด่นด้านด้านการปกป้องสิทธิของตนเอง

			จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปี2565 //
			</td>
		</tr>
		<tr>
			<td align="left" style="padding-top:0cm; padding-right:12px; padding-bottom:0cm; padding-left:12px" valign="top">
			รพีพรรณ : ช่วงหน้ามาดูการเรียกร้องของมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคมถึงการแก้ไขปัญหาคดีข่มขืน รวมถึงปัจจุบันการรถไฟมีการแก้ไขปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยหลังเกิดเหตุอย่างไรบ้าง
			</td>
		</tr>
	</tbody>
</table>

Nation Crime ย้อนรอยคดีฆ่าข่มขืนเด็กทิ้งรถไฟ 2

Nation Crime ย้อนรอยคดีฆ่าข่มขืนเด็กทิ้งรถไฟ 1

มือปืน เพชฌฆาตผู้สร้างอิทธิพลมืด เพื่อข่มขวัญศัตรู &nbsp;ใครอยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้ ปัจจุบันยังมีมือปืนอยู่ในประเทศไทยอีกหรือไม่ 
และคำบอกเล่าประสบการณ์ของ&quot;บังมัด&quot;อดีตมือปืนอุ้มฆ่า ติดตามได้ในรายการ Nation Crime วันเสาร์นีั้ เวลา 13.00น. ทาง Nation TV 22&nbsp;

Nation Crime "มือปืนรับจ้าง อิทธืพลมืดที่กำลังจางหาย " เบรก 3

Nation Crime "มือปืนรับจ้าง อิทธืพลมืดที่กำลังจางหาย " เบรก 2

&nbsp;(รายการเนชั่นทั่วไทย วันที่ 19-05-67 กับประเด็น&nbsp;วิเคราะห์ระเบิดศึกชิง ส.ว.)

ระเบิดศึกชิง ส.ว. | เนชั่นสุดสัปดาห์ | 19-พ.ค.-66 | PART3

&nbsp;(รายการเนชั่นทั่วไทย วันที่ 19-05-67 กับประเด็นวิเคราะห์การเลื่อนยกสุดท้ายก้าวไกลลุ้นยุบ!)

เลื่อนยกสุดท้ายก้าวไกลลุ้นยุบ!  | เนชั่นสุดสัปดาห์ | 19-พ.ค.-66 | PART2

&nbsp;(รายการเนชั่นทั่วไทย วันที่ 19-05-67กับประเด็น&nbsp;&nbsp; วิเคราะห์การเมืองเรื่องกัญชาอีกแล้ว?)

การเมืองเรื่องกัญชาอีกแล้ว? | เนชั่นสุดสัปดาห์ | 19-พ.ค.-66 | PART1

คดีการทุจริตชุมนุมสหกรณ์ปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่ ที่สร้างความเสียหายให้กับเกษตรสวนปาล์มกว่า 36,000 ครอบครัว 
แม้ดีเอสไอเข้าตรวจยึดโรงงานเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2565 แต่ก็ยังคงดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แม้เป็นของกลางในคดี 
ขณะที่ดีเอสไอยังพบพฤติกรรมของอดีตผู้บริหารชุมนุมสหกรณ์ฯ เอื้อประโยชน์พวกพ้อง มีผลประโยชน์ทับซ้อน 
ทำให้ชุมนุมสหกรณ์ฯ ขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ จนต้องหยุดกิจการ และนำมาซึ่งการขายโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน 
ที่พบอีกว่าการทำสัญญาอาจไม่เป็นธรรม นำมาซึ่งการตรวจสอบและยึดโรงงานอีกครั้ง

ตัวจริงสนามข่าว : ไขทุกความจริง ลึกทุกประเด็นร้อน ทุกวันอาทิตย์ (เฟิร์สรัน) เวลา 22:30 น. 
และวันอังคาร (รีรัน) เวลา 15:00 น. ทาง Nation TV 22

มหากาพย์ ทุจริตชุมนุมสหกรณ์ปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่ | ตัวจริงสนามข่าว | 19 พ.ค. 67 | PART 3

ตัวจริงสนามข่าว นั่งเปิดอกคุยกับโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี &quot;ชัย วัชรงค์&quot;&nbsp; 
ถึงประเด็นดราม่า &quot;หุงข้าวเก่า กินข้าวโชว์&quot;&nbsp; 
โดยสัมภาษณ์พิเศษนี้ คุณชลธิชา รอดกันภัย ได้ถามตรงๆ ถึงประเด็นดราม่าที่สังคมสงสัย

ตัวจริงสนามข่าว : ไขทุกความจริง ลึกทุกประเด็นร้อน ทุกวันอาทิตย์ (เฟิร์สรัน) เวลา 22:30 น. 
และวันอังคาร (รีรัน) เวลา 15:00 น. ทาง Nation TV 22

“เณรแอ จอมขมังเวทย์” ปลุกเสกกุมารทอง | Nation Crime