บทเรียนสารวัตรกานต์ ต้องคิดใหญ่ปฏิรูปตำรวจ | สืบสวนความจริง | 25 มี.ค. 66 | PART 3

บทเรียนสารวัตรกานต์ ต้องคิดใหญ่ปฏิรูปตำรวจ

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องยอมรับความจริง เหมือนที่สังคมส่วนใหญ่ เชื่อว่า ความคับแค้นใจของตำรวจ การไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการบริหารงานบุคคล คือ มูลเหตุ สารวัตรคลั่ง ไม่ใช่เรื่องชู้สาวอย่างที่สตช. พยายามเบี่ยงเบนประเด็น

 

พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า ความจริงในวงการตำรวจรู้กันว่า อาการคลั่งมาจากความคับแค้นใจเป็น โดยส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของแต่งตั้งโยกย้าย สารวัตรถูกบรรจุนานกว่า 20 ปีทำงานที่นั่นมาโดยตลอด วันดีคืนดีถูกย้ายมาที่กองบัญชาการศึกษา ทำงานอำนวยการที่ไม่คุ้นเคย ยังไม่พอโดนย้ายไปที่สันติบาล  ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไม่ยอมพูดถึงสาเหตุที่แท้จริงเพราะมันเป็นเรื่องใหญ่ในการแต่งตั้งโยกย้าย

 

การบริหารงานบุคคลตำรวจ ทั้งเลื่อนตำแหน่ง ทั้งแต่งตั้งโยกย้ายโดยไม่มีเหตุผล สร้างความเครียด คับแค้นใจ นำไปสู่พฤติกรรมที่เบี่ยงเบน จากสถิติตำรวจที่ถูกย้ายโดยไม่สมัครใจเท่ากับเสียอนาคต โดยเฉพาะการย้ายข้ามกองบัญชาการ ย้ายข้ามภูมิภาค ตำรวจบางรายถึงขั้นครอบครัววิบัติ

 

พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า เรื่องการบริหารบุคคลตำรวจเป็นเรื่องที่ชั่วร้ายมากคือการเลื่อนตำแหน่งก็ไม่มีความเป็นธรรมอยู่แล้วการแต่งตั้งโยกย้ายก็ไม่เป็นธรรม การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจปัจจุบันกลายเป็นวิธีการหาเงินซึ่งเมื่อก่อนก็ไม่ได้เป็นขนาดนี้ คนไหนมีเส้นอยากจะเป็นอะไรก็ได้เป็น ส่วนคนไม่มีเส้นก็ไม่ต้องเป็นอะไร ซ้ำยังไม่พอเดี๋ยวนี้ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งไม่มีความก้าวหน้ายังไม่พอยังถูกเตะไป เมื่อเขาต้องการตำแหน่งนี้ ผู้บัญชาเกลียดขี้หน้าใครก็ย้ายเขาไปแบบไม่มีเหตุผล ถ้าตำรวจถูกย้ายโดยไม่สมัครใจจะเสียอนาคต ทั้งที่คนส่วนใหญ่ เชื่อว่าสิ่งที่สารวัตรกานต์ พูดว่ามีตำรวจค้ายา มีมูล แต่สตช. กลับมองข้ามสาระสำคัญของเรื่องนี้ไป

 

พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า ปัญหาเรื่องตำรวจค้ายา ความหมายของสารวัตร คงไม่ได้เจาะจงว่าใครเป็นคนทำ ตำรวจผู้ใหญ่ก็พยายามที่จะปิดกลบเกลื่อนเรื่องราวสาเหตุที่แท้จริงพยายามที่จะพูดบิดเบือนจะกลายเป็นปัญหาส่วนตัว

 

สิ่งที่สตช. ต้องทบทวนอย่างเร่งด่วน คือ ยุทธวิธี ปิดล้อม เจรจา และการเข้าจับกุม ว่า อะไรที่เป็นจุดเปลี่ยนทำให้เลยจุดเจรจา

 

พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า คือตำรวจเนี่ยถ้าเราตัดรายละเอียดที่มันไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นกับอำนาจหน้าที่ตำรวจออกก็ถือว่าตำรวจคือผู้รักษากฎหมาย ถามว่าสารวัตรได้ทำร้ายใครหรือยังได้ยินใครหรือยัง เท่าที่ทราบเค้ามีพฤติการณ์ถือปืนไปมาในบ้านหรือบริเวณหน้าบ้านตะโกนโวยวาย แต่ก็ยังไม่ได้ยิงใคร

 

จนกระทั่งตำรวจชุดปฎิบัติการเข้าไปใกล้ใกล้เขาเขาก็ยิ่งสวนออกมาเหมือนลักษณะไล่ออกมา เกิดความตกอกตกใจเราก็กลายเป็นคนที่เป็นภัยไปเลย รู้สึกว่าเขาจะไม่มีความคิดเรื่องการยอมแพ้เพราะยอมไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

 

การตายของสารวัตรกานต์ เกิดจากการวิสามัญฆาตรกรรม รายละเอียดการปฏิบัติ สตช. ต้องเปิดเผยให้สังคมตรวจสอบ ได้ ทำให้คิดใหญ่ไปถึงการปฏิรูปตำรวจ ว่า แท้ที่จริงตำรวจคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพหรือไม่

 

พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า ตั้งข้อสังเกตสงสัยว่าคุณถูกยิงตามข้อมูลว่ายิง 6 นัด  แต่สารวัตรยังมีแรงปีนขึ้นหน้าต่างไม่ปรากฏลอยในภาพนิ่ง ซึ่งมันผิดธรรมชาติ แม้แต่รอยเลือดก็ยังไม่เห็นเค้าถูกยิงก่อนนั้นจิงหรือเปล่าถ้าไม่ใช่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ แปลว่าเค้าถูกยิงหลังจากที่ตกลงมาแล้วหรือไม่ การปฎิบัติทั้งปวงถือว่าต้องเปิดเผยรายละเอียดของการปฎิบัติ และต้องเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ถึงเวลาที่เราจะต้องมาคิดใหญ่เรื่องการปฏิรูปตำรวจ