
การแข่งขันฟุตบอลรายการ "เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ" รอบรองชนะเลิศ คืนวานนี้(16 เม.ย.) ที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" พบกับ ลิเวอร์พูล โดยก่อนพบกันคู่นี้ เรือใบสีฟ้า ทีมจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ผ่านรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยการเอาชนะ เซาแธมป์ตัน 4-1 ทางด้าน หงส์แดง ผ่านรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยการชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-0
เริ่มเกมการแข่งขัน ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ได้ประตูออกนำ จากการโหม่งของ อิบราฮิมา โคนาเต้ นาทีที่ 9 และมาได้ประตูที่ 2 จากความผิดพลาดของแซค สเตฟเฟน ผู้รักษาประตู เรือใบสีฟ้า ในนาที 17 เมื่อแซค ใช้เท้าเล่นบอลหน้าประตูตัวเอง แล้วชักช้าเลยโดน ซาดิโอ มาเน ปราดเข้าสไลด์ส่งบอลตุงตาข่าย ลิเวอร์พูลทิ้งห่าง 2-0 และในนาที 45 ซาดิโอ มาเน่ ปิดสกอร์อย่างสวยงาม จาก ติอาโก อัลคันตารา ดีดบอลลอยไปทางด้านขวาของเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน่ เอียงตัววอลเลย์เสียบเสาแรก จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ออกนำ แมนฯซิตี้ 3-0
กลับมาในเกม 45 นาทีสุดท้าย แมนฯซิตี้ ได้ประตูตีไข่แตก จาก แจ็ค กรีลิช นาทีที่ 47 เกมยังคงเป็นไปแบบสนุก นาที 72 ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูเพิ่มจากจังหวะวางบอลยาวของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สังหารในเขตโทษแต่บอลหลุดข้ามคานออกไป ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนฯซิตี้ ได้สกอร์เพิ่มจาก แบร์นานโด ซิลวา ลิเวอร์พูล เอาชนะ เเมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2
ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล สามารถผ่านเข้าสู่ รอบชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอล "เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ" รอพบผู้ชนะระหว่าง เชลซี พบ คริสตัล พาเลซ โดยเกมนัดชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกันในวันที่ 14 พฤษภาคม จากการชนะนัดนี้ทำให้ลิเวอร์พูล อยู่ในเส้นทางลุ้นคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้ หลังได้มาแล้ว 1 รายการ จาก คาราบาว คัพ
สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
แมนซิตี้ : แซค สเตฟเฟน (ผู้รักษาประตู) - ชูเอา คันเซโล, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก - แฟร์นันดินโญ, ฟิล โฟเดน, แบร์นานโด ซิลวา - ราฮีม สเตอร์ลิง, แจ็ค กรีลิซ, กาเบรียล เชซุส
ลิเวอร์พูล : อลิสสัน เบคเกอร์ , เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ , อิบราฮิมา โกนาเต , เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , นาบี เกอิตา , ฟาบินโญ , ติอาโก อัลคันทารา , ซาดิโอ มาเน , หลุยส์ ดิอาซ , โมฮาเหม็ด ซาลาห์
CREDIT PHOTO : Twitter@LFC