
ถึงเวลารูดม่านปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับข่าวคราวของ “ลิโอเนล เมสซี่” ดาวเตะซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของโลก ทีมชาติอาร์เจนติน่า กับทีมบาร์เซโลน่า สโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่ของประเทศสเปน เนื่องจากอุปสรรคทางด้านการเงิน
ก่อนหน้านี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า “เมสซี่” หมดสัญญากับบาร์ซ่า ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ประจวบเหมาะกับที่ดาวเตะวัย 34 ปี เดินทางไปแข่งขันฟุตบอลโคปา อเมริกา ที่ประเทศบราซิล ก่อนกลับมาพร้อมตำแหน่งแชมป์ ทำให้การพูดคุยเรื่องต่อสัญญาใหม่กับบอร์ดบริหารเป็นเรื่องคาราคาซัง
ก่อนจะมีข่าวร้ายให้แก่แฟนบอลบาร์ซ่าทั่วโลก เมื่อมีการออกแถลงการณ์ผ่านโซเชียลมีเดียของสโมสรว่า ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในสัญญาฉบับใหม่กับ “เมสซี่” ได้ เนื่องจากข้อบังคับทางด้านการเงินของทางลาลีกา สเปน ที่เข้มงวด
"ด้วยเหตุผลดังกล่าว เมสซี่จะไม่อยู่กับบาร์เซโลน่าต่อไป ต่างฝ่ายต่างเสียใจอย่างสุดซึ้ง ที่สุดท้ายแล้ว ความปรารถนาของนักเตะกับสโมสรไม่กลายเป็นความจริง จึงขอขอบคุณสุดหัวใจ สำหรับทุกสิ่งที่เขาช่วยทำให้สโมสร และขอให้เขาโชคดีกับอนาคต ทั้งในเรื่องส่วนตัวและชีวิตนักฟุตบอล"
ถือเป็นการปิดฉากตำนาน ที่ค้าแข้งในสนามคัมป์นู มาอย่างยาวนาน 21 ปี โดย “เมสซี่” ย้ายจากนีเวลส์ โอลด์ บอยส์ มาอยู่กับบาร์เซโลน่า ตั้งแต่ปี 2000 ในวัยเพียง 13 ปี ก่อนจะขึ้นสู่ชุดใหญ่ในปี 2004 พร้อมทำลายสถิติมากมายของสโมสร โดยเจ้าตัวทำทั้งหมด 672 ประตู จากการลงเล่น 778 เกมทุกรายการ
คว้าแชมป์ลาลีกา สเปน 10 สมัย , แชมป์โคปา เดล เรย์ 7 สมัย , ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 4 สมัย , ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 3 สมัย , และสโมสรโลก 3 สมัย
ขณะที่ “สกายเบ็ต” บริษัทรับพนันถูกกฎหมายในอังกฤษ ยกให้ทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่แห่งฝรั่งเศส เป็นเต็ง 1 ในการคว้าตัว “เมสซี่” ไปครอบครอง อัตราต่อรองอยู่ที่ 4/5 (แทง 5 จ่าย 4) , รองลงมาเป็นการเซ็นสัญญาอยู่ต่อกับบาร์เซโลน่า แต่ที่ร่อนแถลงการณ์ที่ปรากฎออกสื่อ อาจเป็นการบีบให้ทางลาลีกา สเปน ปรับเปลี่ยนโครงสร้างบางอย่าง , รวมถึงทีมมหาเศรษฐีอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังมองข้ามไม่ได้