
ส่วนการเตรียมการขณะนี้ พร้อมแล้ว 100% และการวิ่งที่จะมีขึ้น ได้มีการเชิญนักวิ่งอีลิทระดับท็อป ทั้ง เคนย่า , เอธิโอเปีย ,จีน และอาเซอร์ไบจาน มาร่วม เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปตามมาตรฐานการรับรอง จากสมาพันธ์กรีฑานานาชาติ นอกจากนี้ทางผู้จัดงานบุรีรัมย์มาราธอน ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาฝุ่นละออง มีการเฝ้าติดตามตัวเลขมาตรฐานค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ ซึ่งผลการตรวจ พบว่าสภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งนี้จะทำการตรวจสอบสภาพอากาศทุกระยะ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักวิ่ง
ขณะเดียวกันทางผู้จัดงาน ยังมีแผนที่จะเสนอให้ บุรีรัมย์ มาราธอน ก้าวไปสู่มาตรฐานระดับโลกอย่างแท้จริง ในการรับรองให้เป็นงานวิ่งระดับบรอนซ์เลเบิล ในการแข่งขันปีหน้า ( 2563 )และเมื่อต่อยอดสู่การเป็นงานวิ่งระดับบรอนซ์ เลเบิล ได้แล้ว เป้าหมายต่อไป คือพัฒนามาตรฐานการจัดงานให้ดียิ่งขึ้นไปอีกทั้งจำนวนนักวิ่งที่เพิ่มขึ้น และเงินรางวัลที่มากขึ้น
สำหรับ งานวิ่ง "บุรีรัมย์ มาราธอน 2019" ได้รับการรับรองการจัดการแข่งขัน โดยสมาพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) สหพันธ์กรีฑาเอเชีย (AAA)สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (AAT) มีเส้นทางวิ่งผ่านเส้นทางประวัติศาสตร์ และเส้นทางธรรมชาติ บนความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสากล ด้วยการปิดการจราจร100% พร้อมด้วยจุดปฐมพยาบาลตลอดเส้นทางถึง 29 จุด และรถพยาบาลเตรียมพร้อมให้บริการ24 คัน ออกสตาร์ทที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งรถระดับโลกใช้จัดการแข่งขันโมโตจีพี 2018
จากนั้นวิ่งผ่านสันเขื่อนห้วยจระเข้มาก,สนามฟุตบอล ช้างอารีนา, พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช,บ้านเรือนและร้านค้ากลางเมือง, วัดกลางพระอารามหลวง,สวนสาธารณะ , โรงเรียนอนุบาลธีราและศาลากลางจังหวัด(หลังเดิม)ก่อนเข้าเส้ยชัยที่ บุรีรัมย์ คาสเซิ่ล โดยการแข่งขันแบ่งเป็น 4 ระยะทาง ประกอบด้วย มาราธอน 42.195 กิโลเมตร ,ฮาล์ฟมาราธอน
21.1 กิโลเมตร , มินิ มาราธอน 10 กิโลเมตร
และฟันรัน 7 กิโลเมตร