ขณะที่ พยอมเป็นนักกีฬาไทยที่ได้เหรียญทอง 4 สมัย รวม 6 เหรียญทอง ตั้งแต่เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ปี 2545, ครั้งที่ 16 ที่นครกว่างโจว ประเทศจีน ปี 2553, ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ปี 2557 และครั้งนี้ ขณะที่มัสยาได้เหรียญทอง 3 ครั้งติดต่อกัน ในครั้งที่ 16, 17, 18 รวม 5 เหรียญทอง
"ซันชิโร่" วีรัส ณ หนองคาย ผู้ฝึกสอนทีมตะกร้อหญิงไทย กล่าวว่า นัดนี้ทุกคนเล่นตามแผนที่วางไว้ และทำหน้าที่กันได้ดีมาก มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่กดดัน การที่เอาชนะมาได้ แม้จะดูเหมือนง่าย แต่ทั้งหมดเกิดจากการฝึกซ้อมกันมาอย่างหนัก
"ในเวลานี้ทุกชาติพัฒนากันอย่างรวดเร็วมาก ที่ผ่านมาหากเสิร์ฟดี จะทำให้ได้เปรียบ แต่ตอนนี้ทุกทีมทันกันหมดแล้ว จากนี้จึงประมาททีมใดไม่ได้เลย อยู่ที่จังหวะแล้วว่าใครจะดีกว่ากัน" วีรัส กล่าว
สรุปตะกร้อไทยได้ไป 4 เหรียญทอง จากทีมหญิง 4 คน, ทีมชุดชาย, ทีมชุดหญิง, ทีม 2 คนชาย และรวมเหรียญทองตั้งแต่การบรรจุแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์มา ไทยได้ไปแล้ว 26 เหรียญทอง จากการชิงชัย 39 เหรียญทอง
ทั้งนี้ ทัพตะกร้อไทยกวาด 4 เหรียญทอง เอเชี่ยนเกมส์ จากเซปัก-ตะกร้อ ทีมชุดชาย 12 คน, ทีมชุดหญิง 12 คน, ตะกร้อคู่ทีมชุดชาย 9 คน, ทีม 4 คนหญิง รวม 6 คน ตามเกณฑ์ เหรียญทองคนละ 2 ล้านบาท นักกีฬาก็จะได้รวมทั้งสิ้น 78 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับส่วนของสมาคมฯ ที่จะได้รับ 30 เปอร์เซ็นต์จากเงินรางวัลทั้งหมดของนักกีฬา (เหรียญทองละไม่เกิน 6 ล้านบาท) เป็นเงิน 21 ล้านบาท กับ ผู้ฝึกสอนทีมชุดชาย-หญิง และประเภทคู่ ทีมชุดชาย รับ 10 เปอร์เซ็นต์ รวม 6.6 ล้านบาท ส่วนผู้ฝึกสอนทีม 4 คนหญิง รับ 20 เปอร์เซนต์ (ทีมไม่เกิน 6 คน) รวม 2.4 ล้านบาท ซึ่งรวมแล้ว ทัพเซปักตะกร้อไทยจะได้เงินรางวัลจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติกว่า 108 ล้านบาท