
"ก่อนหน้านี้ก็พยายามหานักโภชนาการมาให้คำแนะนำ แต่สุดท้ายเมื่อนักโภชนาการกลับไปทุกอย่างก็ถูกละเลย จนล่าสุดเพิ่งจะได้นักโภชนาการที่สามารถมาอยู่ประจำได้บ้านทองหยอดได้ ช่วงแรกๆ ก็มีปัญหาในการปรับตัวมากเช่นกัน เพราะไม่ใช่รสชาติอาหารที่คุ้นเคย จากเดิมที่เคยกินส้มตำ หรืออาหารรสจัด ก็ต้องเปลี่ยนเป็นอาหารจืด บางครั้งก็รับประทานไม่หมดตามที่นักโภชนาการจัดไว้ แต่ตอนนี้ทุกคนเริ่มปรับตัวได้มาก และในแต่ละสัปดาห์ก็จะมี 1 วันที่ผ่อนปรนให้รับประทานอาหารที่ชื่นชอบได้"
"โค้ชเป้" กล่าวต่อว่า หลังจากที่น้ำหนักของ "น้องเมย์" ลดลง ทำให้การเคลื่อนที่คล่องตัวดีขึ้น สามารถเร่งเกมให้เร็วขึ้นได้ รวมทั้งยังฝึกซ้อมได้นานมากกว่าเดิมด้วย ดังนั้น ตนจึงกล้าตั้งความหวังในศึกเอเชี่ยเนกมส์ครั้งนี้ว่า "น้องเมย์" จะต้องได้เหรียญรางวัลให้ได้ โดยจะลงเล่นในประเภททีมหญิง และหญิงเดี่ยว ส่วนคู่แข่งสำคัญก็มีที่เคยเจอกันมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ไท่ ซื่อ หยิง นักตบขนไก่ มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน, ไซนา เนห์วาล จากอินเดีย รวมถึงคู่ปรับ อาคาเนะ ยามากูชิ จากญี่ปุ่น แต่ตนมั่นใจว่า "น้องเมย์" สู้ได้แน่นอน