
ถัดมาเป็น อุรุกวัย ทีมเต็งจ๋าในกลุ่มนี้ ที่นำโดย คู่หัวหอกคนสำคัญอย่าง หลุยส์ ซัวเรส และ เอดินสัน คาวานี่ ซึ่งทีมจอมโหดนี้ เป็นทีมที่ยิงได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ ที่ 32 ประตู ตามหลังบราซิลยอดทีมระดับโลกทีมเดียว แถมยังเข้ารอบสุดท้าย มาแบบไม่ยากเย็นนอกจากนั้น แนวรับยังมีแข้งมากประสบการณ์ นำโดย ดีเอโก้ โกดิน กัปตันทีมจอมแกร่ง พร้อมด้วย แม็กซี่ เปเรยร่า จากปอร์โต้ รวมถึงกองกลางอย่าง คริสเตียน โรดริเกซ ,คาร์ลอส ซานเซส และ กาสตัน รามิเรซ คอยสนับสนุนเกมรุกอีกจุดเด่นของทีมชุดนี้ คือการที่พวกเขา มีกุนซือสมองเพชรอย่าง ออสการ์ วอชิงตัน ตาบาเรซ ที่คุมทีมมาตั้งแต่ปี 2006 และกลายจะเป็นกุนซือที่คุมทีมยาวนานที่สุดในฟุตบอลโลกหนนี้ โดยกุนซือวัย 71 ปีรายนี้ ได้ลุยฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 4 อีกทั้งยังเคยคุมทีมแล้วหนนึงเมื่อปี 1990 และยังเขาได้พา อุรุกวัย จบอันดับ 4 เมื่อปี 2010 มาแล้ว
ชาติต่อมา เป็น อิยิปต์ ซึ่ง นับว่าเป็นม้ามืดที่น่าจับตามองมากที่สุด ในบอลโลกหนนี้ พวกเขามีทีเด็ด อยู่ที่ โมฮาเหม็ด ซาลาร์ เจ้าของรางวัลพีเอฟเอ และรองเท้าทองคำคนล่าสุดของพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นทั้งหัวใจสำคัญ และความหวังของชาวอิยิปต์ทั้งประเทศ
โม.ซาลาร์ ถือนักเตะแอฟริกัน ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ และยังเป็นกำลังสำคัญของลิเวอร์พูล เขาทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ย้ายจากโรม่ามาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ และเขาทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมกับทีมชาติด้วยเช่นกัน โดยทำ 5 ประตูจาก 5 เกมในรอบคัดเลือก ก่อนนำทัพฟาโรห์ทะลุเข้าสู่รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี
นอกจาก ซาลาร์แล้ว พวกเขายังมีแข้งความหวังอย่าง อาเหม็ด เอลโมฮามาดี้ แนวรับจากแอสตัน วิลล่า, รามาดาน ซอบี้ กองกลางจากสโต๊ค และ โมฮาเหม็ด เอลนีนี จากอาร์เซนอล คอยช่วยเกมรุก อีกทั้งการมาถึงรอบนี้ ต้องยกเครดิตให้ เอ็คตอร์ กูเปร์ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ที่มีน่าจะมีทีเด็ดงัดออกมา เพื่อพาทีมสร้างปาฏิหาริย์ อีกครั้ง
ชาติสุดท้าย อีกหนึ่งตัวแทนจากทวีปเอเชีย อย่างซาอุดิอาระเบีย โดยพวกเขากลับมาเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 แต่สถานการณ์ฟุตบอลภายในประเทศดูเหมือนค่อนข้างจะมีปัญหา หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือถึง 3 คน ในระยะเวลาอันสั้น โดยผลงานที่แท้จริงต้องยกเครดิตให้ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวจ์ กุนซือชาวดัตช์ ที่ถูกปลดจากตำแหน่งในระหว่างรอบคัดเลือกสู่รัสเซีย ก่อนแต่งตั้ง เอ็ดการ์โด้ เบาซ่า เข้ามารับหน้าที่แทน แต่กุนซือชาวอาร์เจนไตน์นี้ ก็นั่งเก้าอี้ได้เพียง 2 เดือน ก่อนโดนไล่ออกหลังฟอร์มอันย่ำแย่ในเกมกระชับมิตร เก้าอี้ร้อนตัวนี้ ถูกส่งต่อมายัง ฮวน อันโตนิโอ ปิซซี่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์อีกคน ซึ่งลาออกจากการคุมทัพชิลี หลังพลาดตั๋วไปบอลโลกที่รัสเซีย ทำให้เกิดคำถามว่า ขุนพลเศรษฐีน้ำมัน พร้อมหรือไม่สำหรับหรับบอลโลกหนนี้?
ทั้งหมดนี้ คือ 4 ทีมในกลุ่มเอ ที่มีทั้งทีมแข็งและอ่อนในสายตาแฟนบอล แต่ทีมใดกันที่จะเป็น 2 ใน 4 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้.. 14 มิถุนายนนี้ รู้กัน!