
นักกีฬาหญิง 18 คน ได้แก่ พยอม ศรีหงษา, นิสา ธนะอรรถวุฒิ, มัสยา ดวงศรี, ศศิวิมล จันทสิทธิ์, เฟื่องฟ้า ประพัศรางค์, แก้วใจ พุ่มสว่างแก้ว, สมฤดี ปรือปรัก, สุดาพร พะลัง, ธิดารัตน์ โสดา, ฐิติมา มหากุศล, นิภาภรณ์ สลุบพล, วิภาดา จิตพรวน, ศิรินันท์ เขียวปัก, มัลลิกา บุญทด, สุพัตตรา เบี้ยทอง, ศิริผล ชัยสิทธิ์, เพ็ญพิชชา โพธิ์บัติ และ นันทภรณ์ บุญอุ้ม
สำหรับ "ปุ้ย" พรชัย เค้าแก้ว ที่ปัจจุบันอายุ 37 ปี จะนำทีมสู้ศึกเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 5 หลังจากก่อนหน้านี้ ลงเล่นไปแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่ครั้งที่ 14 ปี 2002 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้, ครั้งที่ 15 ปี 2006 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์, ครั้งที่ 16 ปี 2010 ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน และครั้งที่ 17 ปี 2014 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ โดยคว้าไปได้ 8 เหรียญทอง มากที่สุดในบรรดานักกีฬาไทยทุกคนในประวัติศาสตร์เอเชี่ยนเกมส์ โดยเจ้าตัวไม่อำลาทีมชาติง่าย ๆ พร้อมทั้งประกาศเดินหน้าสร้างสถิติยากที่จะหาใครมาทำลายได้ต่อไป
"โค้ชกมล" นายกมล ตันกิมหงษ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมชาติไทย เปิดเผยว่า รายชื่อชุดนี้เก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกันที่ศูนย์ฝึกมูลนิธิตะกร้อฯ คลอง 2 ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม ปีที่แล้ว เพื่อเตรียมแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก 2017 "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 32 ต่อเนื่องจนถึงเอเชี่ยนเกมส์ 2018 แต่ถึงตอนนี้เจ้าภาพอินโดนีเซีย ยังไม่ได้สรุปอีเวนต์ทั้งหมด ทำให้การเตรียมทีมยังไม่ชัดเจนว่า จะส่งแข่งขันตามอีเวนต์ไหนบ้าง แต่สำหรับทีมตะกร้อไทยเป้าหมายอย่างเดียวคือ ต้องคว้าแชมป์ทุกอีเวนต์ ที่ส่งเข้าร่วมการแข่งขัน ส่วนคู่แข่งน่ากลัวเป็นอินโดนีเซีย ที่จะอาศัยความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าภาพแน่นอน