
จากกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า สโมสร "ค้างคาวไฟ" สุโขทัย เอฟซี จะไม่เดินทางไปแข่งขันในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ รอบสาม กับทีม เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ทีมดังจากจีน ถึงแม้ว่าจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบสาม ได้ด้วยการไล่ถล่ม ยาดานาร์บอน แชมป์ลีกเมียนมา ไปขาดลอย 5-0 เมื่อวานที่ผ่านมา
โดยทาง สมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานสโมสร สุโขทัยฯ ได้บอกว่า เวลานี้สโมสรกำลังมีปัญหาในการขอวีซ่าให้กับนักเตะที่ยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากสถานทูตจีนได้ปิดทำการในเทศกาลตรุษจีน ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา และจะเปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ดังนั้นสโมสรจะมีเวลาทั้งสิ้นในการทำวีซ่า เพียง 1-2 วันเท่านั้น รวมไปถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางของทั้งทีมที่สูงถึง 1.5 ล้านบาท โดยหากยอมแพ้บาย จะเสียค่าปรับเพียง 7 แสนบาทเท่านั้น
ล่าสุดจากเรื่องดังกล่าว พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาฯฝ่ายต่างประเทศ และโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ บอกว่า หากทีม สุโขทัย ไม่ไปแข่งขัน ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบสาม กับเซี่ยงไฮ้ฯ จะมีผลเสียตามมา มากกว่าการโดนปรับ 7 แสนบาทอย่างแน่นอน เพราะทางเจ้าภาพได้จัดเตรียมการแข่งขันแมตช์นี้เอาไว้แล้ว รวมถึงได้มีการโปรโมท ซึ่งล้วนมีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทางเอเอฟซี ที่จะระบุมาอีกครั้ง รวมถึงทีม สุโขทัย จะโดนแบนห้ามเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้เป็นเวลา 2 ปี ตามระเบียบของเอเอฟซี และจะมีผลต่อการคิดคะแนน MA Ranking ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อจำนวนโตวต้าของทีมจากไทย ที่จะเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลถ้วยเอเชีย ในปีถัดๆไป อีกด้วย