
ศึกคอมมิวนิตี ชิลด์ วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม "จิ้งจอก" เลสเตอร์ แชมป์พรีเมียร์ลีกลงสนามพบกับ "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด แชมป์เอฟเอ คัพ ที่สนามเวมบลีย์ โดย เลสเตอร์ ใช้ตัวหลักจากฤดูกาลที่แล้วทั้งชุด มีเพียงแค่ แอนดี คิง ที่ลงมาแทน เอนโกโล กองเต้ ที่ย้ายทีมไป ขณะที่ แมนฯยูไนเต็ด ส่ง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยืนหัวหอก ประสานเกมรุกกับ เวย์น รูนีย์ หน้าต่ำ ส่วน เฮนทริคมคิตาร์ยาน ยังนั่งสำรอง
เริ่่มเกมได้ 20 นาที เลสเตอร์ หวุดหวิดได้ประตูนำก่อน ชินจิ โอคาซากิ โฉบโหม่งลูกเตะมุมไปชนคาน ก่อนจะเป็น แมนฯยูไนเต็ด ที่ได้ออกนำ เจสซี ลินการ์ด ได้บอลที่กลางสนามก่อนจะลากลุยเข้าไปยิงในเขตโทษผ่าน แคสเปอร์ ชไมเคิล นาทีที่ 32 จบครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ดนำ 1-0
ครึ่งหลัง เลสเตอร์ แก้เกมด้วยการส่ง อาเหม็ด มูซา กองหน้าตัวใหม่ลงมาแทน โอคาซากิ และกลับมาเล่นถึงนาทีที่ 52 ก็ตามตีเสมอได้เมื่อ มารูยาน เฟลไลนี ส่งบอลกลับหลังพลาดถูก เจมี วาร์ดี ฉกไปแตะหลบ ดาวิด เคเดีย ก่อนยิงเข้าไปโล่งๆเป็น 1-1
หลังเสียประตูไป แมนฯยูไนเต็ด กลับมาเดินเกมรุก และได้ประตูนำไปอีกครั้งนาทีที่ 83 อันโตนิโอ บาเลนเซีย กระชากบอลขึ้นทางขวาก่อนเปิดมาหน้าประตู ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ขึ้นโหม่งย้อนชนเสาแรกเข้าประตูไป
จบเกม แมนฯยูไนเต็ด ชนะไป 2-1 ครองแชมป์คอมมิวนิตี ชิลด์ เป็นสมัยที่ 21 ขณะที่ เลสเตอร์ แพ้รวดเป็นนัดที่ 3 ต่อจากความพ่ายแพ้ต่อ บาร์เซโลนา 2-4 และแพ้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 0-4 ในเกมอุ่นเครื่อง