ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย นำลูกทีมฝึกซ้อมครั้งสุดท้าย ที่สนามซ้อมของ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน โดยเน้นการเข้าทำและลองตัวผู้เล่นที่จะใช้เจอกับ แคเมอรูน ก่อนที่ "ซิโก้" จะเปิดเผยว่า การเจอกับ แคเมอรูน ถือว่า ไทย มีความพร้อมมากขึ้นกว่านัดแรกที่ชนะ สิงคโปร์ 2-0 เนื่องจากผู้เล่นได้ฝึกซ้อมร่วมกัน ส่วนเกมกับ แคเมอรูน จะเน้นบอลเร็วเป็นหลักและใช้เกมริมเส้นในการเจาะเข้าทำ ที่สำคัญลูกทีมต้องกล้าเล่น กล้าต่อบอล โดยไม่ต้องเกรงกลัวศักดิ์ศรีของผู้เล่นแคเมอรูน ส่วน ธีรศิลป์ แดงดา หายเจ็บแล้ว ทำให้จะได้เป็นตัวจริงและถือเป็นนัดแรกในรอบ 1 ปีในนามทีมชาติไทย
สำหรับผู้เล่น 11 คนแรก ที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริง ในระบบการเล่น 4-3-3 ประกอบด้วย
ผู้รักษาประตู จะเป็น กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ส่วนแผงแบ็กโฟร์ จะวาง สุทธินันท์ พุกหอม ยืนเซ็นเต้อร์แบ็กคู่กับ ประทุม ชูทอง ส่วนแบ็กซ้าย-ขวา จะเป็น ธีราทร บุญมาทัน กับ พุทธินันท์ วรรณศรี ขณะที่ 3 กองกลาง จะมี อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์, สารัช อยู่เย็น และ ประกิต ดีพร้อม ด้าน 3 กองหน้า จะมี เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ กับ จักรพันธ์ พรใส เดินเกมริมเส้นและคอยสนับสนุน ธีรศิลป์ แดงดา ตัวจบสกอร์ในนัดนี้
ด้านแคเมอรูน ทีมอันดับ 49 ของโลก ภายใต้การคุมทีมของ โฟลเก้อร์ ฟิงเค่ ยืนยันว่าจะส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามแน่นอน นำโดย วินเซ้นต์ อาบูบาก้า กองหน้าจากปอร์โต้, โจเอล มาติป เซ็นเต้อร์แบ็กชาลเก้ และ 2 กองกลางตัวรับ สเตฟาน เอ็มเบียร์ กัปตันทีม จากเซบีญ่า กับ เอยอง เอโนห์ จากสต็องดาด ลีแอช