
ปัจจุบันผู้ให้บริการ Fintech กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในระบบการให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศการดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นบริการการโอนเงิน การชำระค่าสินค้าผ่านแอปพลิเคชันและการทำธุรกรรมทางการเงินแบบออนไลน์ ซึ่งนับวันจะเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดในสังคมยุคดิจิทัลมากขึ้น
“Nation Online” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ “คุณอัศวิน พละพงศ์พานิช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สวัสดีช้อป จำกัด และผู้ร่วมก่อตั้ง “ดีมันนี่” ได้เล่าถึงที่มาที่ไปของการให้บริการในลักษณะที่เป็นธุรกรรมระหว่างประเทศที่ผ่านมาว่า ได้เคยประกอบธุรกิจเทเลคอมเกี่ยวกับบัตรโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ช่วงนั้น ธุรกิจบูมมากและไปได้ดี แต่แล้วก็ต้องถูกแทนที่ (Disrupt) ด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเห็นสัญญาณการสื่อสารแบบ over-the-top (OTT) หรือการสื่อสารผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบเปิด ทั้ง Skype, WhatsApp, Facebook ได้รับความนิยมมากขึ้น และเริ่มมีสมาร์ทโฟนออกมาทำตลาด ส่งผลให้ ธุรกิจเทเลคอม ได้รับกระแสความนิยมลดลงจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ให้บริการ Fin Tech ภายใต้ชื่อทางการค้า “ดีมันนี่” (DeeMoney) เพื่อให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ เนื่องจากเรามีฐานลูกค้าเดิมที่เป็นต่างชาติและเป็นแรงงานต่างด้าวอยู่แล้ว
ดังนั้น เราจึงมองว่า DeeMoney คือช่องทางและโอกาสทางธุรกิจที่น่าจะมีการเติบโต จึงทำให้เราก้าวเข้ามาสู่การเป็นผู้นำตลาดการให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ(money remittance service) ประเภทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน(Non-Bank)
คุณอัศวิน ผู้ร่วมก่อตั้ง “ดีมันนี่” กล่าวว่า บริษัทฯได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อปี 2560 ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท และเริ่มเปิดบริการปี 2561 มาจนถึงปัจจุบันซึ่งปีนี้ก็เป็นปีที่ 6 แล้วในการทำธุรกิจให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า DeeMoney Neo
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การทำธุรกิจในช่วงแรกๆต้องยอมรับว่ามีลูกค้าน้อยเพราะการทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องใหม่แต่หลังจากได้ลงทุนพัฒนาระบบและทำตลาดมาอย่างต่อเนื่องทำให้มีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ธุรกิจของเราเติบโตอย่างรวดเร็วและมีรายได้มากขึ้น
การก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 6 ในการทำธุรกิจของ “ดีมันนี่” ต้องบอกว่าเราเป็นบริษัทฯที่มีการเติบโตทั้งรายได้และกำไร ด้วยทีมงานที่มีศักยภาพมากกว่า 100 คน และบริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มทุนอีก 100 ล้านบาทเพื่อขยายธุรกิจ โดยการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อใช้ในการพัฒนาเครือข่ายระบบออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยคาดว่าจะใช้งบประมาณการลงทุนประมาณ 70-80 ล้านบาท
- DeeMoney มีจุดเด่นอย่างไร
สำหรับจุดเด่นของ DeeMoney ประกอบด้วย
1) เรทดี ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี และคิดค่าธรรมเนียมการทำรายการคงที่ โดยการโอนเงินออกไปประเทศส่วนใหญ่มีค่าบริการอยู่ที่ 125 บาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าบริการของคู่แข่งรายอื่นทาง DeeMoney คิดค่าบริการในราคาที่ดีกว่า
2) ไวดี โดยการันตีระยะเวลาที่เงินจะเข้าบัญชีปลายทางภายใน 1 วันทำการ เมื่อมีการโอนเงินออกไปยังประเทศส่วนใหญ่ที่ให้บริการ
3) ง่ายดี สามารถโอนเงินออกได้สำหรับธุรกรรมเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000 - 800,000 บาทต่อรายการต่อวัน โดยปัจจุบันสามารถโอนเงินออกไปได้มากถึง 43 ประเทศทั่วโลก และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา DeeMoney มียอดธุรกรรมรวมมากกว่า 2 ล้านรายการมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท และในปีนี้ (2566) เราตั้งเป้าหมายว่ามียอดธุรกรรมเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหรือมีมูลค่ากว่า 120,000 ล้านบาท
“อัตราค่าธรรมเนียมการโอนเงินของ DeeMoney เมื่อเทียบกับสถาบันการเงินบางแห่งเราจะมีอัตราที่ถูกกว่าและถ้าเทียบกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non- Bank) ซึ่งเป็นคู่แข่งของเรา ค่าธรรมเนียมเราก็ถูกกว่าเช่นกัน จึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้ลูกค้ามีการบอกต่อกันมาและที่สำคัญ คือ ความรวดเร็วในการให้บริการการโอนเงินไม่ว่าปลายทางจะอยู่ที่ไหนต้องรวดเร็วและถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วและปลอดภัย ”
- DeeMoney เมื่อเทียบกับคู่แข่งเป็นอย่างไร
ถ้าเทียบ DeeMoney กับคู่แข่งในระดับเดียวกันจะเห็นได้ว่าเราคือผู้นำในด้านการให้บริการ ซึ่งเห็นได้จากจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเราอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเพิ่มเรื่อยๆ
นอกจากนี้ อีกหนึ่งเหตุผล คือ หากโอนเงินไปแล้วไม่ถึงมือผู้รับภายใน 1 วันทำการ บริษัทฯก็จะโอนเงินคืนกลับให้กับผู้ส่งต้นทางทันที โดยไม่มีการหักค่าธรรมเนียม ซึ่งโดยปกติสถาบันการเงินจะหักทั้ง 2 ขา หมายความว่าตอนส่งเงินไปให้กับผู้รับปลายทางก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมและเมื่อเงินไม่ถึงผู้รับต้องโอนคืนก็ต้องคิดค่าธรรมเนียมแต่ของเราไม่ได้คิดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ลูกค้ารู้สึกประทับใจในการให้บริการจากทางเรา
ปัจจุบันบริษัทฯมีทั้งลูกค้าประเภทบุคคลและนิติบุคคล ซึ่งเป็นลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ใช้บริการโอนเงินระหว่างประเทศกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ทั้งสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร อินเดีย และฮ่องกง ขณะที่การให้บริการโอนเงินจากต่างประเทศเข้ามาไทยมีประมาณ 100 ประเทศทั่วโลกซึ่งสิ่งที่ทำให้เราเติบโตมาได้ถึงจุดนี้ก็เนื่องมาจากการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ดี
“ในช่วงนี้จะเห็นว่าหลายบริษัทเริ่มหันมาทำธุรกิจโอนเงินระหว่างประเทศกันมากขึ้นทำให้มีการแข่งขันค่อนข้างสูงแต่เชื่อว่าการที่เรามีพันธมิตรที่ดีจะช่วย ทำให้ธุรกิจของเราสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ “
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจับมือพันธมิตรในการให้บริการชำระสินค้าบริการครอบคลุมทั่วโลก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เนื่องจากอยู่ในระหว่างการหารือ ขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมเปิดทำธุรกรรมโอนเงินกับประเทศพม่า คาดว่าจะสรุปรายละเอียดได้เร็วๆนี้ว่าจะให้บริการได้เมื่อใด ซึ่งเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการ Fin Tech ชั้นนำของเมืองไทยที่ให้บริการชำระเงินแบบรวดเร็วและเรียลไทม์
สำหรับการคิดอัตราค่าบริการในแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งการโอนเงินแต่ละวันจะขึ้นอยู่กับกฏระเบียบเงื่อนไขของแต่ละประเทศว่าจะรับโอนเงินมีเพดานสูงสุดได้วันละเท่าไหร่และจำนวนเงินสูงสุดที่โอนได้ต่อวันจะเป็นไปตามข้อบังคับและกฎเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย
ส่วนการโอนเงินในแต่ละครั้งลูกค้าจะต้องทำผ่านแอปพลิเคชันDeeMoney Neo โดยสามารถทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งการโอนแต่ละครั้งมีความปลอดภัยเพราะไม่ได้มีเงินค้างไว้ในแอปพลิเคชันของลูกค้า
โดยลูกค้าที่ต้องการโอนเงินระหว่างประเทศสามารถดาวน์โหลดแอปฯ DeeMoney Neo เพื่อทำการลงทะเบียนและใช้บริการโอนเงินระหว่างประเทศได้ทันที กรณีที่ลูกค้าไม่สะดวกโอนผ่านแอปพลิเคชันก็สามารถใช้บริการที่สาขาของบริษัทซึ่งตั้งอยู่ที่นานาซอย 8 โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 น.-22.00น. หรือติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-821-5555
โดยสรุปแล้ว หากท่านใดต้องการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศและยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดีขอแนะนำ DeeMoney เนื่องจากมีพันธมิตรชั้นนำอยู่ทั่วทุกมุมโลกทั้งธนาคาร (Bank) และผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) โดย DeeMoney สามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้หลากหลายกลุ่มไม่ว่าจะเป็นคนไทย ชาวต่างชาติ รวมถึงแรงงานต่างด้าวทำให้บริษัทได้รับความเชื่อถือมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานจนถึงปัจจุบัน