สำนักงานประกันสังคม ขยายเวลาให้นายจ้างยื่นแบบและนำส่งเงินสมทบผ่าน e-Payment ออกไปอีก 7 วันทำการ นับจากวันที่พ้นกำหนด วันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบ โดยมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ถึง ธันวาคม 2566 เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนและรองรับความสะดวกในการประกอบธุรกิจของนายจ้าง อีกทั้งเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตนให้ได้รับความคุ้มครอง รวมถึงบรรเทา เยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และส่งเสริมการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยสำนักงานประกันสังคมสนับสนุนให้นายจ้างทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมขอเชิญชวนสถานประกอบการทำธุรกรรมนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคมและชำระเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ของธนาคารและหน่วยบริการ เพื่อความสะดวก ลดขั้นตอน ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของนายจ้างอีกด้วย ปัจจุบันมีธนาคารและหน่วยบริการที่ร่วมให้บริการรับชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ทั้งหมด 12 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น ธนาคารมิซูโฮ จำกัด สาขากรุงเทพฯ ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ. ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารดอยซ์ แบงก์ ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ และบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด
ขั้นตอนการนำส่งข้อมูลเงินสมทบและชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment)
ขั้นตอนการพิมพ์และดาวน์โหลดใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์จากระบบ e-Receipt
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง