svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

เปิดคำชี้แจงสุดท้าย "ณฐพร โตประยูร" หลัง"ศาล"ไม่ให้ประกัน นอนคุก"คดีฟอกเงิน"

"ณฐพร โตประยูร" ที่เคยสอยยุบพรรคสีส้ม เเละจองกฐินสามนิ้วมาในวันวาน ตอนนี้เปิดศึก"ฮั้วสว." กับขั้วสีน้ำเงิน เเต่ทำไมวันนี้ศาลไม่ให้ประกันตัว เเละนอนคุกใน "คดีฟอกเงิน" 477 ล้านบาทของสหกรณ์คลองจั่น? "เนชั่นทีวี" ได้มีโอกาสเปิดใจ "ณฐพร" ถึงเงื่อนงำแห่งคดีก่อนที่ใครจะคาดคิด ต้องถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำ

5 มิถุนายน 2568  นายณฐพร  โตประยูร นักร้อง(เรียน)ตัวตึงของเมืองไทยกำลังขยับเกมใหญ่ทางการเมืองอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่  4 มิถุนายน 2568  นายณฐพร ในฐานะอดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินขยับอีกครั้งหลัง เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยว่าการกระทำของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลขาธิการกกต. พรรคภูมิใจไทย กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย สว. นายเนวิน ชิดชอบ นางกรุณา  ชิดชอบ นายทองเจือ  ชาติกิจเจริญ  นายศุภชัย โพธิ์สุ น.ส.วาริน  ชิณวงศ์  นายสมเจตน์  ลิมปะพันธุ์ และนายสุบิน  ศักดา และบุคคลในสำนวนกว่า 200 คนร่วมกันกระทำการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และสั่งให้เลิกการกระทำ พร้อมมีคำสั่งให้กกต. สว. รัฐมนตรีของภูมิใจไทย และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ที่มีรายชื่อตามสำนวนการสอบสวนของสำนักงาน กกต.หยุดปฏิบัติหน้าที่นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งรับคำร้อง

การขยับหมากครั้งล่าสุด ของชายคนนี้จะเป็นอย่างไร หลังจากห้วงที่ผ่านมา "ณฐพร" ยื่นฟ้องร้องทางการเมืองหลากวาระ เเละบางคดี "ณฐพร" โดนกล่าวหาว่าพัวพันทุจริตในคดีที่ชายคนนี้เกี่ยวข้องทั้งทางตรงเเละทางอ้อม

โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568  ศาลอาญา รับฟ้องในคดีที่ พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ณฐพร โตประยูร  นายรัฐสิทธิ์ โตประยูร บุตรชาย  เป็นจำเลยในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน สหกรณ์คลองจั่น กว่า 249 ล้าน แถมศาลไม่ให้ประกัน "ณฐพร" กับลูก เนื่องจากเห็นว่า เป็นคดีที่แบ่งหน้าที่กันทำกระทบความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความเสียหายวงกว้าง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยทั้งสองจะหลบหนี

อย่างไรก็ดี ก่อนที่ ณฐพร จะต้องถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำ "เนชั่นทีวี" ได้มีโอกาสเปิดใจ นายณฐพร ถึงเงื่อนปมคดีเหล่านั้น ท่ามกลางคำถาม ชายคนนี้ยืนบนมุมสีขาวหรือสีเทา...กับประวัติศาสตร์ในวันวาน

ณฐพร  โตประยูร นักร้องเรียน เปิดใจเนชั่นทีวีถึงข้อกล่าวหาต่างๆ

?ที่ผ่านมาโดนกล่าวหาหลายคดี  เช่นกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น(การขายที่ดินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวน 1,838 ไร่ ให้กับบริษัท พิษณุโลกเอทานอล จำกัด มูลค่า477 ล้านบาท เพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้กับสหกรณ์ฯ และบริษัทของนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งได้รับแคชเชียร์เช็คกรณีนี้ด้วย 60 ล้านบาท อ้างว่าเป็นค่านายหน้าเเละคดีนี้โดนต้ังข้อหาว่าฟอกเงิน)
 
"โดยหลักแล้ว ผมเป็นทนายความ ผมมีสำนักงานทนายความ คือ บริษัท อินเตอร์อลายแอนซ์กฎหมายธุรกิจ จำกัด  ผมรับว่าความด้วย เพราะหากผมไม่รับว่าความ คงไม่มีเงินใช้ผมเป็นทนายความที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียง ผมทำแต่ละคดี ค่าจ้างหลักล้านบาททั้งนั้น บางคดีเป็นร้อยล้านบาท ฉะนั้นคดีที่ผมทำ จะเป็นคดีใหญ่ๆ"
 
 

ช่วงนั้น ผมเป็นที่ปรึกษาสกสค.  สหกรณ์คลองจั่น จะไปขอกู้เงิน สกสค. 3,000 ล้านบาท มีการจัดประชุมที่สหกรณ์คลองจั่น วันนั้น ผมบอกว่า ทำไม่ได้ เพราะการที่สกสค.จะให้กู้ 3,000 ล้านบาท เงินมหาศาล และเราไม่มีหลักประกันที่ผู้ขอกู้จะนำมาวางหลัก ประกัน จะเอาเงินไปเฉย ๆ ไม่ได้ นายวัฒนา วรรณโสภา" รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. และผมยืนยันว่า กู้ไม่ได้เรื่องนี้ก็ตกไป


นายณฐพร ในฐานะอดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน

ตอนนั้นนายศุภชัย ก็รู้ว่า ถ้าจะกู้เงินได้ ต้องผ่าน นายณฐพร เพราะผมเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสกสค.และดูแลการเงิน ปรากฏว่า ตอนที่นายศุภชัยจะขายที่ดิน  นายหน้า 3-4 คน มาหาผม และบอกว่า  เกรงว่าเงินที่จะซื้อขายที่ดินกลัวว่าจะไม่ได้เงินค่านายหน้าจากนายศุภชัย และบอกว่าหากผมรับเป็นนายหน้าแล้วจะจ่ายให้ผม 15 ล้านบาท
 
ผมบอกว่า ตกลง หมายความว่า ถ้าเกิดมีคดีเกิดขึ้น ผมจะใช้สำนักงานกฎหมายของผมเป็นคนฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายศุภชัย ที่ดินแปลงนี้เป็นของนายศุภชัย แต่เอาไปจำนองไว้กับคนอื่น แล้วมองว่า ที่ดินซึ่งนายศุภชัย ซื้อมานำเงินสหกรณ์มาซื้อ ที่ดิน ราคาประมาณ 100 ล้านบาท ขายประมาณ 300 -400 กว่าล้านบาท ผมตกลงร่วมเป็นนายหน้า ได้เงิน 60 ล้านบาท   ส่วนแบ่งของผมจะ ได้ 15 ล้านบาท


ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน

ส่วนที่เหลือ ผมบอกว่า ทำแคชเชียร์เช็คมาแล้วกัน ผมรับทำคดีนี้ให้ แล้วผมส่งแคชเชียร์เช็คคืนไป  แคชเชียร์เช็ค สลักหลังโอนโดยไม่ต้องไม่ต้องใส่ชื่อ แต่มีปัญหาว่า ที่ดินแปลงนี้ถูกอายัด โดย กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ปปง.
 
กรณีนี้ต้องให้กรรมการ ปปง. พิจารณา เพราะสหกรณ์คลองจั่นหากขายที่ดินได้ จะขอเงิน 100 ล้านบาท เพื่อไปเสริมสภาพคล่องของสหกรณ์ ที่ประชุมกรรมการสหกรณ์มีมติว่า  ตกลงรับเงิน 100 ล้านบาท อย่าลืมว่า เงิน 400 กว่าล้านบาท  มันไม่ได้ทั้งหมด เพราะที่ดินแปลงนี้จำนองอยู่ประมาณ  200 ล้านบาท หากขายได้ เงินส่วนที่เหลือต้องให้ สหกรณ์ ไป 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ นายศุภชัยก็ได้ไป  นายศุภชัยก็จ่ายแคชเชียร์เช็คให้ผม 60 ล้านบาทและผมเซ็นสลักหลังโอนให้นายหน้าไป
 
นายหน้านั้น ผมไม่รู้เป็นใครบ้าง ผมเหมือนเป็นตัวแทนเฉย ๆ เสร็จแล้วผมก็รับเงิน 15 ล้านบาท ปรากฏว่า สมัยที่นางสุวรรณา สุวรรณจูฑะ เป็นอธิบดีดีเอสไอ ท่านก็สั่งไม่ฟ้องผมในคดีนี้เพราะผมมีหลักฐานการรับเป็นนายหน้าเรียบร้อย  แต่ปรากฏว่ามีหนึ่งคดี คือการทุจริตสนามบินสุวรรณภูมิ ตอนที่ผม เป็นคนสอบสวน นายวิชัย รักศรีอักษร กับรองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยคนหนึ่ง มาพบนายศรีราชา  เจริญพานิช เพื่อขอสำนวนที่ผมเขียน คำร้องไปที่รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมว่า เรื่องเป็นอย่างนี้


  ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมการผู้ตรวจการแผ่นดิน

ปรากฏว่า ตอนที่ทั้งสองคนมาพบนายศรีราชา เเละบอกว่าขอพบผม นายศรีราชาบอกว่าให้พบไม่ได้ หรอก เพราะว่านายณฐพร เป็นที่ปรึกษาของนายศรีราชาและผมไม่ได้เป็นลูกน้อง ต้องถามนายณฐพรก่อน และผมไม่ได้ให้พบ จนกระทั่งผมได้เอกสารข้อมูลทั้งหมด
 

แล้วปรากฏว่า วันดีคืนดี DSI เรียกผมไปรับทราบการแจ้งข้อหาว่า ฟอกเงิน ผมต่อสู้ว่าผมจะฟอกเงินได้อย่างไร ในเมื่อผมมีพยานหลักฐาน   ดีเอสไอเชื่อว่า พยานหลักฐานที่ผมมีอาจจัดทำขึ้นภายหลัง  ช่วงนั้นพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร เป็นอธิบดีคนใหม่ 
 

คือตอนก่อนหน้านั้น นางสุวรรณา สั่งไม่ฟ้อง  แต่พอมาถึงคนๆนี้ก็มาสั่งฟ้อง ผมร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และร้องเรียนทุกคน ปรากฏ ว่า  ปี 2560 ดีเอสไอส่งเรื่องนี้ไปให้อัยการ  เผอิญ คดีนายศุภชัย ศาลตัดสินว่า ไม่ผิดคดีฉ้อโกง เพราะนายศุภชัย ทำในนามสหกรณ์  คนที่มาฝากเงินเพราะว่าอยากได้ดอกเบี้ย
 
ฉะนั้น นายศุภชัย จะผิดคือผิดฐานลักทรัพย์ในจ่ายเช็ค ศาลลง โทษ จำคุก 20 ปี แต่คดีฉ้อโกงและคดีฟอกเงินไม่ผิด ปรากฏว่า  คดีนี้ไม่ผิด มันไม่ใช่จะฟ้องผมคนเดียวเพราะต้องฟ้องประมาณ 20 ราย ในประมาณ 5 คดี และมีการส่งศาลแล้ว  
 
อัยการคดีพิเศษ 4 กับคนที่ถูกฟ้อง ก็บอกศาลว่า ถ้า คดีมูลฐานไม่ผิด คดีสาขาก็จะไม่ผิด ศาลก็สั่งจำหน่ายทุกคดีออกจากระบบความ ผมได้บอกว่า ถ้าอย่างนี้ ถ้าคุณฟ้องผม คุณก็ต้องถูกจำหน่ายคดีเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ผมขอให้ศาลพิจารณา ทราบว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง  ตอนนี้รอศาลฎีกา ผมบอกว่า ถ้าอย่างนี้ ผมก็ขอผัดคดี และขอให้ศาลชะลอการฟ้อง
 
และผมร้องเรียนไปที่อัยการสูงสุด จนกระทั่งมาถึงทุกวันนี้ แต่วันดี คืนดีอัยการก็ส่งเรื่องผมไปที่ DSI  เพื่อให้ส่งตัวผมมาดำเนินคดีในวันที่ 15 มิ.ย.ปีนี้  ผมได้ส่งเรื่องไปที่ DSI ว่า ผมได้ร้องเรียนไปอย่างนี้ และอยู่ในระหว่างพิจารณาของอัยการสูงสุดเพรา ฉะนั้น ผมกับ DSI  ประสานกันอยู่ตลอดเวลา


  ณฐพร โตประยูร  อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
 

ล่าสุดหัวหน้าพนักงานสอบสวน ดีเอสไอก็ให้การมาแล้วว่า  ผมประสานอยู่จริงเเละผมไม่เคยหลบหนี หลังจากผมร้องเรียนไปแล้ว ไม่นานนี้ผู้ใหญ่หลายคนมาบอกผมว่าพวกเขาจะเล่นงานในคดีสหกรณ์คลองจั่นและจะไม่ให้ผมได้รับการประกันตัว และจะส่งอัยการ เพื่อคัดค้านไม่ให้ประกันตัว (ช่วงที่พรรคภูมิใจไทยให้ข้อมูลว่าทำไมดีเอสไอไม่จับกุมนายณฐพรส่งตัวให้อัยการเลย อัยการส่งหนังสือให้ดีเอสไอส่งตัวนายณฐพรสองครั้งเเล้ว)
 

ผมบอกว่า” เฮ้ย! ทำไม่ได้หรอกอย่างนี้ เเละผมก็ไม่เชื่อพอช่วงเช้าวันที่ 27 พ.ค. นายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า คดีคลองจั่นนั้น ผมจะมีมลทิน  คุณเชื่อไหม ตอนเย็นวันนั้น  มีหมายเรียกให้ผมมาพบอัยการในวันที่ 28 พ.ค.เพื่อให้ ไปรับทราบการแจ้งข้อหา
 
วันที่ 28 พ.ค.ดีเอสไอ ไปเจอผม ที่สำนักงานอัยการ พบว่า เพิ่งเซ็นหมายในวันนั้นแต่ ผมไม่ โทษ DSI  เพราะ DSI ไม่ส่งตัวผม เนื่องจากคดียังอยู่ในคำร้องขอความเป็นธรรมอยู่ และผมปรากฏตัวตามสื่อมวลชนตลอด ไม่เคยหลบหนี
 
เพราะคดีผมมันง่ายอยู่แล้ว 15 ล้านบาทเองนะ  รู้ไหมผมถูกเก็บภาษีด้วย ตอนนั้นปปง. สอบสวนผมว่า คดีฟอกเงิน ผมไม่ผิด แต่ผมต้องเสียภาษีรายได้ ถูกปรับไปทั้งหมดประมาณ 12 ล้านบาท ที่มาที่ไป คือผมบอกว่า ถ้าผมเสียภาษีแล้ว  คดีหลักมันไม่ผิด แล้ว คุณจะ ฟ้องผมทำไม สมมุติว่า ฟ้องผมวันนี้ ศาลต้อง สั่งจำหน่ายคดีเพื่อรอผลคดีหลักในชั้นฎีกา เพราะคดีหลักไม่ผิด ผมก็ไม่ผิด ถูกไหม 
 
ผมบอกว่า เรื่องแบบนี้มันไม่มีประเด็น แต่ปรากฏ ว่า เมื่อนายศุภชัยให้ข่าวกับสื่อ และพาดพิง DSI ดีเอสไอบอกผมว่า ขอให้ผมไปเข้าสู่กระบวนการ

ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน

"วันนั้นผมพบกับอธิบดีอัยการ แล้วแจ้งว่า จริง ๆ แล้ว คดีนี้มีอายุความอีก 4 ปี แล้วการที่ไปเขียนว่า คดีนี้ของผมจะขาดอายุความ แต่ความจริง เป็นอายุความในคดีอื่นๆ  ผมพบและแจ้งอธิบดีอัยการและทำหนังสือ 2 ฉบับ คือขอเลื่อนส่งตัว เพราะผมเตรียม หลักทรัพย์ไม่ทันที่จะประกัน จึงมีการเลื่อนไปถึงวันที่ 5 มิ.ย.”


?กรณีที่เคยทำหน้าที่เป็นอดีตผู้บริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษตามโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษากรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ไปซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด โดยมิชอบ 2,500 ล้านบาท
 
“ผมเป็นคนสอบสวนเจ้าของบริษัทนี้ (นายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา หรือเสี่ยบิ๊ก ประธานบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัด /อดีตประธานสโมสรเพื่อนตำรวจ) และผมทำให้คนๆนี้ติดคุก ผมเป็นคนทำคดี และคนนี้ๆ อ้างว่า ผมไปมีส่วนได้เสีย ทั้งๆที่ผมเป็นคนสอบสวน จนคนๆนี้ติดคุกไปดูสำนวนได้เลย
 
ตอนนั้นพลเอกดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ เป็นรมว.ศึกษาธิการ และแต่งตั้งผมเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี ผมเป็นคนสอบสวนคดี นี้ และบางคนที่อ้างว่า จ่ายเงินให้ผม 80 ล้านบาทบ้าง 50 ล้านบาทบ้าง มันก็ไม่ ปรากฏเป็นคดี เพราะ ไม่มีใครเชื่อว่าบางคนที่เป็นตำเลยในคดีนี้จะนำเงินนับสิบล้านบาทมอบให้ผม  
 
 คดีนี้จบไปหมดแล้ว ไม่เกี่ยวแล้ว ข้อครหาผมก็เคลียร์ไปแล้ว คือ ผมไม่ได้ถูกดำเนินคดีนี้  และเป็นคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา (เสี่ยบิ๊ก)ว่าจ่ายเงินให้ผม 80 ล้านบาทจ่ายให้ทนายความเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ คดีนี้คนที่เกี่ยวข้องติดคุกหมดแล้ว รวมทั้งกรรมการ สกสค. ในตอนนั้นก็ติดคุก

เปิดคำชี้แจงสุดท้าย "ณฐพร โตประยูร" หลัง"ศาล"ไม่ให้ประกัน นอนคุก"คดีฟอกเงิน"
 
ดีเลย ที่ได้มาเคลียร์ตรงนี้ เพราะว่า สังคมจะไปเสพข่าวอีกด้านหนึ่ง
 
คำยืนยันคือ ทุกอย่างที่ผมพูด ไม่ใช่พูดลอย ๆ ผมมีพยานหลักฐาน เพราะคดีของนายสัมฤทธิ์ ผมเป็นคนสอบสวน ไปดูสำนวนได้เลยว่า ผมเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสกสค.และเป็นคนเตือนกรรมการ สกสค.ในตอนนั้นว่าพวกนี้คือแก๊งต้มตุ๋นนะ อย่าไป ให้กู้เงิน แต่ปรากฏว่า มีการทุจริตกัน”  

นี่ จึงเป็นคำชี้แจงบรรดาคดีความ ที่เจ้าตัวเผชิญอยู่ ก่อนที่วันนี้ ศาลไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว จำต้องเข้าเรือนจำ