
15 ธันวาคม 2568 ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (ดร.แดน) ประธานสถาบันการสร้างชาติ ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา และนางจิตติมา บุญวิทยา ผู้อำนวยการไอเอฟดีโพลและเซอร์เวย์
ร่วมแถลงผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนไทยตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เรื่อง “เปิดสเปกนายกฯ ที่ทำให้ประเทศเดินหน้า ไม่เดินวน” 1,247 ตัวอย่าง สำรวจในช่วง 11 - 13 ธ.ค. 2568 ใน 6 ภูมิภาค โดยการลงภาคสนามและการโทรศัพท์ สุ่มตัวอย่างความน่าจะเป็น Stratified Five-Stage Random Sampling ค่าความผิดพลาด 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ไอเอฟดีโพล ชี้ คนไทยระบุว่าคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีที่จะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า คือต้อง “ทั้งดีและเก่ง” แต่ 53.57% ยังไม่เห็นใครเข้าเกณฑ์ และช่องทางที่จะได้นายกรัฐมนตรีในแบบดังกล่าวได้ ประชาชนให้ความเห็นว่ามี 2 ทางหลัก คือ จากระบบเลือกตั้งเดิม 44.10% ใกล้เคียงการเปิดทางคนนอกบัญชีพรรค 40.90% มีผลสำรวจ ดังนี้
สเปกนายกฯ” ที่จะนำประเทศเจริญก้าวหน้า “คุณธรรมมาก่อน แต่โจทย์ใหญ่ต้องบริหารเก่ง” คนไทยระบุว่าคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีที่จะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า: ผลสำรวจพบว่า คุณสมบัติอันดับหนึ่งที่ประชาชนต้องการจากนายกรัฐมนตรีคือ
-“มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรวจสอบได้” 23.14%
-รองลงมาคือ “เก่งรอบด้าน บูรณาการงานได้” 17.89%
-“มีวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ระยะยาว” 15.29%
-ตามด้วย “มองโลกกว้าง เข้าใจการต่างประเทศ รักษาผลประโยชน์ชาติ ทำไทยแข่งขันได้” 12.69%
-“ตัดสินใจถูกต้อง-เร็วแม้เวลาและทรัพยากรจำกัด” 8.85%
-ส่วนคุณสมบัติอื่นรองลงมาคือ “กล้าเปลี่ยนแปลง” 8.01%
-“พัฒนาคนและการศึกษา” 6.49%
-“ทำให้การเมืองปรองดองลดขัดแย้ง” 4.92%
-“ใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีทันสมัยในการตัดสินใจ” 2.72%
“มีสเปกนายกฯ แต่รายชื่อที่มีในปัจจุบัน ยังไม่โดน”
เมื่อถามต่อว่า จากรายชื่อนักการเมืองหรือผู้สมัครที่มีอยู่ในปัจจุบัน ประชาชนคิดว่ามีคนที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีตามสเปกหรือไม่ พบว่า ยังไม่มีคนเหมาะ 53.57%
ประชาชนที่ระบุว่ามีรายชื่อคนที่เหมาะเป็นนายกฯ คะแนนยังกระจาย ประชาชนที่ระบุว่า
-“มีคนเหมาะ” (46.43%) ได้ระบุชื่อบุคคลที่เห็นว่าเหมาะสมเป็นนายกฯ
-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 23.14%
-รองลงมาคือ อนุทิน ชาญวีรกูล 14.85%
-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 11.23%
-กลุ่มถัดมาได้แก่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ 8.64%
-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 6.91%
-พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์ 5.87%
-เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส 5.35%
-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ 5.18%
-ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ 5.01%
-พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค 4.49%
-ขณะเดียวกันมีผู้ตอบเลือกท่านอื่น ๆ ได้แก่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา, ศุภจี สุธรรมพันธุ์, ชัยเกษม นิติสิริ, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ 9.33%
ส่วนวิธีจะได้ “นายกฯ มานำประเทศเจริญก้าวหน้า” มี 2 ทางหลัก: เลือกจากระบบเลือกตั้งปัจจุบัน และได้นายกฯ นอกบัญชีพรรคการเมือง เมื่อถามถึงเส้นทางที่จะได้ “นายกฯ แบบที่อยากได้” ประชาชนระบุว่าได้จาก
-“การเลือกตั้งตามระบบปัจจุบัน” 44.10%
-“เปิดทางให้นายกฯ คนนอกบัญชีพรรค” 40.90%
-ส่วนแนวทาง “รอพรรคเกิดใหม่เพื่อเสนอนายกฯ ที่เหมาะสม” อยู่ที่ 15.00%
อยากได้นายกฯ ดี หรือ เก่ง: คนส่วนใหญ่อยากได้ทั้งคนดีและคนเก่ง ประชาชนส่วนใหญ่เลือกแนวทาง “ขอทั้งดีและเก่ง”
-มากที่สุด โดยเลือกแบบผสม 48.67%
-ขณะที่เลือก “คนเก่ง” 27.83%
-เลือก “คนดี” 23.50% เหตุผลของกลุ่มเลือก “คนดี” เพราะ คนเก่งแต่ไม่ดีอาจสร้างความเสียหายหนักกว่า 39.57%
-รองลงมาคือ ต้องได้คนดีมานำเพื่อความไว้ใจและเป็นแบบอย่าง 31.71%
-มองว่าสามารถให้คนดีนำแล้วดึงทีมคนเก่งมาช่วยได้ 28.18%
-เหตุผลของกลุ่มเลือก “คนเก่ง” เพราะประเทศต้องการคนเก่งบริหารเพื่อแก้วิกฤตและเดินหน้าเร็ว 34.78% รองลงมาคือผลงานสำคัญกว่า ต้องเร่งเศรษฐกิจและปากท้องประชาชน 33.04% ตามด้วยอยากได้ผู้นำที่ทำได้จริง 17.39% และเชื่อว่ามีระบบตรวจสอบคุมได้แม้มีข้อกังขา 14.79%
ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (ดร.แดน) วิเคราะห์เพิ่มเติมว่า ช่วง 5 ปีข้างหน้ามีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทางประเทศไทยในระยะ 20 ปีข้างหน้า และเป็นห้วงเวลาที่ประเทศต้องการผู้นำที่มีศักยภาพสูง ผลโพลสะท้อนว่า ประชาชนคาดหวังนายกรัฐมนตรีที่ “ดี–เก่ง–กล้า–มองไกล–มีความเป็นสากล” อย่างไรก็ตาม รายชื่อนักการเมืองหรือแคนดิเดตนายกฯ ในปัจจุบันยังไม่ตอบโจทย์ความคาดหวังดังกล่าว จนสะท้อนความรู้สึกสิ้นหวังของประชาชนต่อระบบการเมืองที่เป็นอยู่ ทั้งนี้ ผลสำรวจยังชี้ว่า ช่องทางที่ประชาชนมองว่าอาจนำไปสู่การได้ผู้นำที่พาประเทศก้าวหน้า คือการเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีนอกบัญชีรายชื่อพรรค โดย ดร.แดน ย้ำว่าต้องเป็นผู้นำพลเรือนที่มาด้วยกระบวนการอันชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น มิใช่จากการรัฐประหาร เพื่อพาประเทศผ่านวิกฤตและเจริญก้าวหน้า